เป็นเวลากว่า 3 ปี ที่คนไทยต้องเผชิญและอยู่ร่วมกับสถานการณ์โควิดมาอย่างยาวนานทำให้คนไทยหันมาสนใจดูแลสุขภาพตัวเองมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันเทรนด์การดูแลตัวเองแบบ “Holistic Health” ที่เป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เป็นที่นิยมมากขึ้น ที่นอกจากจะดูแลสุขภาพกายยังใส่ใจสุขภาพจิตใจ และยังรวมไปถึงความสัมพันธ์กับผู้คนรอบกาย ที่เป็นผลดีต่อจิตใจและร่างกาย
ในปีนี้ C-vitt ที่เป็นตัวช่วยเคียงข้างดูแลสุขภาพคนไทยทั้งประเทศตลอดทุกวันที่ผ่านมา จึงอยากมอบสีสันความสนุกที่นอกจากเสริมสุขภาพกายยังเสริมสุขภาพจิตใจ พร้อมสนุกไปกับคนรอบข้างใน Music Video เพลง “ซี-วิทสุดที่รัก The Best in Your Heart” ภายใต้คอนเซ็ปต์ C You Everyday ที่ C-vitt อยากจะเจอคุณทุกวันแล้วชวนทุกคนมา ‘Dance ให้สุดมันส์’ ตามสไตล์ของคุณเอง
“โฟร์ 25hour” ที่นอกจากจะสร้างผลงานให้กับวงแล้ว ยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังผลงานเพลงที่ฮิตไปทั่วไปประเทศอีกมาก อาทิ รักต้องเปิด (แน่นอก) 3.2.1 , เพลงรอยยิ้ม Scrubb รวมไปถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ น้อง.พี่.ที่รัก อย่างเพลง รักน้องคนเดียวววว ที่ในครั้งนี้คุณโฟร์ช่วยเขียนเนื้อเพลงทำนองที่ติดหู และโปรดิวซ์ด้วยตัวเอง เกิดเป็น Music Marketing Campaign สุดน่ารักที่ได้พรีเซนเตอร์หลักของ C-vitt อย่าง “เบลล่า ราณี” มาพลิกบทบาทรับตำแหน่งศิลปินเป็นนักร้องเดี่ยว ที่มาพร้อมท่าเต้นสุดน่ารักเพื่อสร้างรอยยิ้มให้ทุกคนเต้นตามได้ไม่ยาก
เพื่อตอบสนองความต้องการของ Consumer ทุกเพศ ทุกวัย ที่ใส่ใจดูแลสุขภาพแบบองค์รวมในทุกวัน ที่เริ่มที่สุขภาพตัวเองแล้วขยายไปถึงสุขภาพของผู้คนรอบข้าง แบรนด์ C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี ที่มียอดขายอันดับ 1 ที่ช่วยดูแลสุขภาพกายคนไทยมาตลอด จึงต้องการช่วยให้สุขภาพใจของทุกคนดีขึ้นมากกว่าที่ผ่านมาไปด้วยกัน เพราะนอกจาก C-vitt Original ที่ไม่ว่าใครก็ดื่มได้ทุกวันทุกเวลาแล้ว ก็ยังมี C-vitt Plus สำหรับสาวๆ เฮลตี้ หรือจะ C-vitt 0% สำหรับใครที่ไม่ต้องการน้ำตาล นอกจากนี้ C-vitt ยังมีเครื่องดื่มวิตามินซี ที่เหมาะกับแต่ละ Target ที่ช่วยดูแลสุขภาพกายในทุกวันแล้ว ก็ยังได้ความสุขจากภายในกับ เพลง “ซี-วิทสุดที่รัก” ได้อีกด้วย
ที่สำคัญ C-vitt ยังจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับ IMC (Integrated Marketing Communication) เพื่อต่อยอดกับความต้องการของแบรนด์ ที่พร้อมจะดูแลสุขภาพใจของทุกคนไปพร้อมกัน ให้คนไทยไม่ว่าภาคไหนมาร่วมสนุกบนแพลตฟอร์มดิจิตอลมาแรงอย่าง TikTok ให้ผู้บริโภค C-vitt ได้เต้นโชว์อินเนอร์จัดเต็มใน TikTok Challenge ได้ทุกวัน แต่ยังคงเน้นท่า C-vitt Signature Pose ตามท่าในเอ็มวี ‘ซี-วิทสุดที่รัก’ ที่กิจกรรม C You Every Dance Challenge เพื่อชิงรางวัลใหญ่ ‘เป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกับเบลล่าในโฆษณาเรื่องถัดไป’ จำนวน 4 คนไปเลย ใครที่สนใจก็ไปร่วมเต้นได้เลยที่ #cyoueverydancechallenge สามารถอ่านรายละเอียดกติกาเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : C-vitt ตั้งแต่วันที่ 28 เมษายน – 31 พฤษภาคม 2566
ใครที่สนใจก็สามารถซ้อมท่าเต้น Signature Pose ของ C-vitt ใน MV “ซี-วิทสุดที่รัก” ตั้งแต่วันนี้ แล้วเตรียมตัวเป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกับเบลล่าได้เลย
]]>ธนา ไชยประสิทธิ์ รักษาการ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/64 ของบริษัท ทำรายได้ 6,776 ล้านบาท โต 1.3% YoY และทำกำไรสุทธิ ‘นิวไฮ’ ที่ 1,004 ล้านบาท เติบโต 8.4% YoY มาจากนโยบาย Fit Fast Firm ที่ทำให้บริษัทบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น
คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการบริษัทฯ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระบุถึงสถานการณ์ตลาดรวมช่วงไตรมาส 1 ได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอก 2 ทำให้ตลาดเครื่องดื่มชูกำลัง ฟังก์ชันนอลดริ้งก์ และของใช้ส่วนบุคคล ต่างหดตัวในช่วงเดือนมกราคม 2564 แต่กลุ่มเครื่องดื่มเริ่มมาฟื้นตัวดีในเดือนมีนาคม 2564 เหลือเพียงกลุ่มของใช้ส่วนบุคคลที่ยังซึมตัวอยู่
ในไตรมาสแรกของปี เครื่องดื่มวิตามินซี C-vitt ยังเป็น “พระเอก” ของโอสถสภา โดยทำรายได้เติบโต “ดับเบิล ดิจิต” สวนทางตลาดที่ซบเซา ทำให้มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มขึ้นเป็น 34.9% ในตลาดฟังก์ชันนอลดริ้งก์ และยังครองอันดับ 1 ในตลาด
การเติบโตของ C-vitt ยังทำให้กลุ่มสินค้าฟังก์ชันนอลดริ้งก์โดยรวมของโอสถสภาเติบโตถึง 16.1% YoY อีกด้วย
ธนากล่าวว่า ไตรมาส 2/64 บริษัทก็จะยังเสริมจุดแกร่งจุดนี้ โดยการออกผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคในช่วงการระบาดระลอก 3 โดยเมื่อเดือนเมษายน’64 บริษัทออกผลิตภัณฑ์ไซส์ใหม่ C-viit Big Pack ขนาด 1 ลิตร เหมาะกับการอยู่บ้าน
ขณะที่ตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลัง “M-150” ยังเป็นเบอร์ 1 ของตลาดเช่นกัน โดยมีส่วนแบ่งตลาด 54.9% พร้อมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มาเสริมยอดขายคือ “M-150 ซ่าส์” เป็นเครื่องดื่มให้พลังงานอัดก๊าซแบบกระป๋อง น้ำตาลน้อย เสริมวิตามิน
สำหรับรายได้กลุ่มของใช้ส่วนบุคคลของ OSP ทำรายได้ไตรมาสแรก 500 ล้านบาท ลดลง -18.9% YoY เนื่องจากผู้บริโภคระมัดระวังการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยมาตั้งแต่ช่วงที่มีการระบาด โดยเฉพาะกลุ่มของใช้เสริมความงามของผู้หญิงจะหดตัวมากกว่ากลุ่มของใช้สำหรับเด็ก
ธนายังกล่าวถึงโมเดลธุรกิจการร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ที่มีมากขึ้นด้วย เช่น การจับมือกับ “ยันฮี” ปัจจุบันโอสถสภาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดจำหน่ายหลักของเครื่องดื่ม ยันฮี วิตามิน บี วอเตอร์ และมีความร่วมมือวางแผนลงทุนร่วมกันพัฒนาเครื่องดื่มผสมสารสกัดจากกัญชง (CBD) ในอนาคต
ที่ผ่านมา โอสถสภายังมีแคมเปญการตลาดร่วมกับ เครือเอสซีจี โดยออก “M-150 รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น” ช่วยส่งเสริมการขายให้ ปูนตราเสือ ด้วยมีกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกันคือกลุ่มช่าง ผู้รับเหมา
ปีนี้น่าจะได้เห็นความเคลื่อนไหวของโอสถสภาในการจับมือพันธมิตรอื่นๆ เพิ่มอีก เพื่อหาโอกาสทางธุรกิจและขยายฐานตลาดต่อไป
]]>ปีนี้เป็นปีทองของ C-Vitt (ซี-วิท) จริงๆ เพราะกระแสรักสุขภาพของคนไทยทำให้ตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์เติบโตได้ดี และ C-vitt ซึ่งเป็นผู้นำเบอร์ 1 ในกลุ่มเครื่องดื่มวิตามินซีและฟังก์ชันนอลดริงก์อยู่แล้ว ยิ่งทำยอดขายเติบโตสูงขึ้นและมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากขึ้นไปอีก โดยล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2/63 เครื่องดื่ม C-vitt มีส่วนแบ่งตลาดฟังก์ชันนอลดริงก์ถึง 33.9% (เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11.9%) และบริษัทวิจัยการตลาด “คันทาร์” ยังยกให้แบรนด์ C-vitt เป็นแบรนด์ดาวรุ่งที่เติบโตสูง มีผู้ซื้อมากกว่า 11 ล้านครั้ง
เครื่องดื่ม C-vitt ออกวางจำหน่ายมากว่า 8 ปี และมาด้วยจุดแข็งของตัวผลิตภัณฑ์หลายอย่างที่จะสร้างความโดดเด่นในตลาด ไม่ว่าจะเป็นการใช้ขวดแก้วแทนขวดพลาสติกทำให้แตกต่างชัดเจน เป็นเครื่องดื่มวิตามินซีสูง 200% แบรนด์แรกในไทยไม่ใช่เพียงน้ำผสมวิตามิน รวมถึงพัฒนามาจากแบรนด์ญี่ปุ่น สร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค
แต่ผลิตภัณฑ์ที่ดีอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องมีกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยส่งแบรนด์ไปได้ไกลด้วย โดย C-Vitt มีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่เมื่อปีก่อนคือ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” นางเอกสาวคนดังแห่งยุค และเป็นหญิงสาวที่มีไลฟ์สไตล์รักสุขภาพ รักการออกกำลังกาย ทำให้เหมาะสมกับการเป็นพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ ประกอบกับเบลล่ามีภาพลักษณ์และฐานแฟนที่เข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย สอดคล้องกับทิศทางการตลาดของ C-vitt ที่กำลังขยับจากฐานผู้บริโภคกลุ่มผู้หญิงวัย 20-30 ปี เป็นตลาดแมสทุกเพศ ทุกวัย ดื่มได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เด็กหรือผู้สูงอายุ
พรีเซ็นเตอร์ที่ใช่ทำให้ C-vitt เจาะฐานผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ขึ้นได้ และกลายเป็นแบรนด์ที่มาเขย่าตลาดเครื่องดื่มวิตามินซีในที่สุด
นอกจากพรีเซ็นเตอร์แล้ว เครื่องดื่ม C-vitt ยังมีกิจกรรมการตลาดมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาแบรนด์มีการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอนประจำปี C-Vitt Run for Health และ ร่วมสนับสนุนในกิจกรรมเพื่อสุขภาพต่างๆอีกมากมาย เพื่อให้เห็นภาพชัดว่าเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์เทรนด์คนรักสุขภาพ และมีกิจกรรมขอบคุณผู้บริโภคระหว่างปีเป็นระยะๆ
รวมถึงครั้งล่าสุด แบรนด์ได้จัดกิจกรรม CSR กึ่งการตลาด “กรุงเทพมหานคร และ ซี-วิท ห่วงใยคนไทยการ์ดไม่ตก” ปล่อยรถคาราวานแจกฟรีเครื่องดื่ม C-vitt จำนวน 1 ล้านขวดทั่วกรุงเทพฯ ตามจุดต่างๆ เช่น สวนสาธารณะ โรงเรียนสังกัดกทม. จุดรับส่งผู้โดยสารรถสาธารณะ ตลาดในสังกัดกทม.
เนื่องจากเครื่องดื่ม C-vitt นั้นเป็นเครื่องดื่มวิตามินซี 120 มิลลิกรัม (คิดเป็น 2 เท่า หรือ 200% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) ทำให้มีคุณประโยชน์ทดแทนการรับประทานผลไม้รสเปรี้ยวจำนวนมากได้ภายในขวดเดียว ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยสร้างคอลลาเจน และช่วยซ่อมแซมส่วนต่างๆ ของร่างกาย ดังนั้น C-vitt จึงจับจุดนี้มานำเสนอว่า แบรนด์นี้คือเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 ซึ่งคนไทยต้องมีภูมิคุ้มกันให้ตนเองแข็งแรง สู้โรคภัยได้ดีกว่าเดิม
งานครั้งนี้มีการปล่อยรถคาราวานจากด้านหน้าศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมปล่อยรถ ได้แก่ “ธนา ไชยประสิทธิ์” รักษาการณ์ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และ “ชิฮิโระ คุระตะ” ประธาน บริษัท เฮ้าส์ โอสถสภา ฟู้ดส์ จำกัด พร้อมด้วย “พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ “เบลล่า-ราณี แคมเปน” นางเอกสาวพรีเซ็นเตอร์ของ C-vitt เอง
กิจกรรมครั้งนี้จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนมีสุขภาพดี และยังทำให้คนไทยรู้จักพร้อมได้ลองชิมรสชาติของ C-Vitt เป็นประโยชน์หลายต่อที่น่าจะช่วยให้แบรนด์ครองอันดับ 1 ได้อย่างแข็งแกร่ง