Copilot – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 07 Mar 2025 09:32:17 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 เปิดลิสต์ผู้เล่น ‘GenAI’ ระหว่างยักษ์เทคสหรัฐฯ และจีน ในสงครามตลาดแสนล้าน https://positioningmag.com/1513951 Fri, 07 Mar 2025 08:01:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513951 ตั้งแต่การมาของ ChatGPT ก็ได้เขย่าให้โลกเทคโนโลยีตื่นตัวกับ GenAI นำไปสู่ สงคราม AI ของบรรดาบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ ซึ่งสงครามไม่ได้อยู่แค่บริษัทสหรัฐฯ แต่ จีน ก็แสดงให้เห็นว่าจะมองข้ามไม่ได้ ดังนั้นไปดูกัน ว่าในตลาดตอนนี้มี AI จากบิ๊กเทคกี่รายกันบ้าง ทั้งจากสหรัฐฯ และจีน

AI จากสหรัฐอเมริกา

  • ChatGPT – พัฒนาโดย OpenAI ที่ Microsoft ลงทุนไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ปัจจุบันถือว่าเป็นผู้นำในตลาด LLM โดยมีความสามารถในการสร้างข้อความที่หลากหลาย สามารถตอบได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Gemini – พัฒนาโดย Google จุดเด่นที่การสนทนาแบบมีปฏิสัมพันธ์และการค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ข้อมูลที่ทันสมัยและแม่นยำ มีความสามารถในการผสานรวมเข้ากับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google
  • Copilot – พัฒนาโดย Microsoft เป็นการผสานรวม LLM เข้ากับผลิตภัณฑ์ของ Microsoft เช่น Bing และ Microsoft 365 ทำให้มีความสามารถในการช่วยผู้ใช้ในการเขียนโค้ด สร้างเนื้อหา และทำงานต่าง ๆ
  • Claude พัฒนาโดย Anthropic บริษัทที่มีทีมงานจาก OpenAI โดยจุดเด่นที่ความสามารถในการสร้างข้อความที่มีความยาวและซับซ้อน ได้รับความนิยมในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการ AI ที่มีความปลอดภัยสูง
  • Grok พัฒนาโดย xAI ของ Elon Musk มีจุดเด่นที่สามารถตอบคำถามที่ได้แหวกแนว โดยเติมอารมณ์ขันและความเฉลียวฉลาดเข้าไปในคำตอบ นอกจากนี้ Grok ยังสามารถสร้างการสนทนาแบบแยกส่วน ซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนหัวข้อต่าง ๆ ได้ ซึ่งต่างจากแชทบอท AI อื่น ๆ
  • Meta AI – พัฒนาโดย Meta ของ มาร์ก ซัคเกอร์เบิร์ก ที่ออกแบบมาเพื่อผสานรวมเข้ากับแอปพลิเคชันยอดนิยมของ Meta เช่น Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp แต่ล่าสุด บริษัทกำลังจะออกแอปฯ สแตนด์อะโลนออกมา
ภาพจาก Shutterstock

AI จากจีน

  • DeepSeek – AI น้องใหม่จากแดนมังกรที่มาสร้างความฮือฮาให้กับตลาด เนื่องจากการใช้ต้นทุนพัฒนาน้อยมาก ๆ โดย DeepSeek ใช้โมเดล AI ที่สามารถเข้าใจและตอบสนองในหลายรูปแบบ ทั้งการพูดคุยแบบธรรมดาและการแปลความหมายเชิงลึกในเชิงธุรกิจหรือความต้องการเฉพาะของผู้ใช้ได้
  • Ernie Bot  – พัฒนาโดย Baidu บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน โดย Ernie Bot ใช้โมเดลภาษา Ernie และถูกออกแบบมาให้สามารถทำการสนทนาและให้ข้อมูลในหลาย ๆ รูปแบบ แต่จะเน้นการให้บริการทางการค้าและเชื่อมโยงกับบริการต่าง ๆ ของ Baidu เช่น การค้นหาข้อมูลและการให้บริการแผนที่
  • Tongyi Qianwen – พัฒนาโดย Alibaba โดยโมเดลนี้ถูกใช้ในหลายแอปพลิเคชันของ Alibaba เช่น DingTalk แพลตฟอร์มการสื่อสารและการทำงานร่วมกันขององค์กร และ Aliyun คลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba โดย Tongyi Qianwen สามารถทำงานหลายด้านเช่นการสนทนา, การให้คำแนะนำทางธุรกิจ, การประมวลผลข้อความ และการสร้างเนื้อหาภาษา
  • Hunyuan Turbo S  – โมเดลเอไอตัวล่าสุดของ Tencent ที่มีความสามารถเทียบเท่ากับ DeepSeek-V3 แต่มีจุดแข็งในเรื่องความเร็ว ที่สามารถตอบคำถามได้ภายใน 1 วินาที
2578762835

จะเห็นว่าทางฝั่งจีนอาจจะยังเทียบกับฝั่งสหรัฐฯ ไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการควบคุมและข้อจำกัดของรัฐบาลจีน ที่ส่งผลต่อการพัฒนา AI ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเข้าถึงข้อมูล หรือการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ รวมยังอาจยังไม่ได้รับความไว้วางใจ ในเรื่องของความปลอดภัยและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น การใช้งานส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่ ภายในประเทศจีนเป็นหลัก

คงต้องจับตาดูว่าในอนาคต ทั้งจีนและสหรัฐฯ จะมีผู้เล่นใหม่ ๆ ที่มาเขย่าตลาดได้เหมือนกับ DeepSeek อีกหรือไม่ เพราะตลาด AI ทั่วโลกกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยอ้างอิงจาก Fortune Business Insights ได้มีการคาดการณ์ว่า ตลาดอาจมีมูลค่าสูงถึง 9 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2026 เลยทีเดียว

]]>
1513951
ปีแห่งพีซีเอไอ! ‘Microsoft’ เตรียมเพิ่มคีย์ ‘Copilot’ สำหรับเรียกผู้ช่วย ‘เอไอ’ ถือเป็นการอัปเดตแป้นพิมพ์ครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี https://positioningmag.com/1457779 Fri, 05 Jan 2024 02:21:01 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457779 หลังจากที่ ChatGPT เอไอสุดอัจฉริยะที่พัฒนาโดย OpenAI สร้างแรงกระเพื่อมไปทั่วโลก ทำให้ Microsoft ยอมควักเงิน 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลงในทุนกับ OpenAI ทำให้ Microsoft สามารถใช้โมเดลของ OpenAI กับผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ ล่าสุด Microsoft เตรียมเพิ่มคีย์ Copilot สำหรับเรียกผู้ช่วยเอไอ

หลังจากที่ ไมโครซอฟท์ (Microsoft) บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่ ได้ประกาศว่า ปีนี้จะเป็น ปีแห่งพีซีเอไอ ล่าสุด บริษัทได้เปิดเผยว่าจะ เพิ่มปุ่ม Copilot สำหรับพีซีระบบปฏิบัติการ Windows รุ่นใหม่บางรุ่น สำหรับเรียกใช้งานเอไอแชทบอทเพื่อถามคำถามหรือช่วยร่างอีเมลได้

“นี่จะไม่เพียงทำให้ประสบการณ์การใช้คอมพิวเตอร์ของผู้คนง่ายขึ้น แต่ยังขยายให้มากขึ้นอีกด้วย ทำให้ปี 2024 เป็นปีแห่งพีซีแบบเอไอ และคีย์ใหม่นี้จะทำให้การมีส่วนร่วมของ Copilot ในแต่ละวันของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น” Yusuf Mehdi รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของ Microsoft กล่าว

การเพิ่มปุ่มใหม่บนคีย์บอร์ดของพีซี Windows นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรก นับตั้งแต่ Microsoft เพิ่มคีย์ Windows ในปี 1994 โดยปุ่ม Copilot นั้นจะวางอยู่โลโก้ด้านขวาล่างของคีย์บอร์ดใกล้กับ Space bar และปุ่ม Alt และแน่นอนว่า Copilotเอไอแชทบอทจะขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีพื้นฐานของ OpenAI หลังจากที่ Microsoft ลงทุน 1.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ที่ผ่านมา หลังจากที่ Microsoft ลงทุนใน OpenAI บริษัทก็ได้นำเทคโนโลยีเอไอมาใช้กับการทำงานของโปรแกรมตระกูล Microsoft Office ไม่ว่าจะเป็น Outlook, PowerPoint, Excel และ Word โดยใช้ชื่อว่า Copilot ซึ่งจะช่วยช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อาทิ Word สามารถช่วยร่างเอกสาร, ปรับภาษาให้เป็นทางการขึ้นหรือน้อยลง PowerPoint สามารถนำเนื้อหาจาก Word มาสร้างสไดล์ พร้อมใส่ภาพที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น

‘ไมโครซอฟท์’ เตรียมใส่ความสามาถ ‘ChatGPT’ ใน ‘Microsoft Office’ เชื่อจะเปลี่ยนวิธีการทำงานคนนับล้าน

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ Copilot ยังไม่ได้เปิดให้บริการในทุกประเทศ ดังนั้น ถ้าใครที่ซื้อพีซีรุ่นใหม่ที่มีปุ่ม Copilot แต่ยังไม่มีฟีเจอร์ดังกล่าวให้ใช้ การกดปุ่ม Copilot จะเป็นการเปิด Windows Search แทน

ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของ Microsoft นั้นเกิดก่อนการประชุมเทคโนโลยี CES ในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดตัวการอัปเดตผลิตภัณฑ์เอไอเพิ่มเติมจากหลาย ๆ บริษัท เนื่องจากปีที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต่างเร่งพัฒนาและบูรณาการเครื่องมือเอไอ เข้ากับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของตน

Source

]]>
1457779