DBS – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 14 Sep 2021 10:10:30 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 DBS ธนาคารใหญ่สิงคโปร์ ปั้นเเพลตฟอร์มเทรด ‘คริปโต’ ขยาย 20-30% ต่อปี รับดีมานด์พุ่ง https://positioningmag.com/1351727 Tue, 14 Sep 2021 08:18:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1351727 อีกหนึ่งความเคลื่อนไหวสำคัญของ DBS ธนาคารใหญ่สุดในสิงคโปร์เเละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่เดินหน้าลงทุนในเเพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีโดยตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าโตถึง 20-30% ต่อปี

‘DBS Digital Exchange’ เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตฯ สำหรับผู้ที่สมัครเป็นสมาชิก เปิดตัวเมื่อเดือนธ.. 2020 ที่ผ่านมา ได้รับกระเเสตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนสถาบัน เเละบริษัทด้านการลงทุนต่างๆ ที่หันมายอมรับสกุลเงินดิจิทัลกันมากขึ้น ทำให้ตลาดนี้ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ

จากกระเเสนี้ ทาง DBS Group ประเมินว่า เเพลตฟอร์ม DBS Digital Exchange จะมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้น ‘2 เท่าจากปัจจุบันเป็น 1,000 คนได้ ภายในเดือนธ..นี้ และจะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องราว 20-30% ต่อปี ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

เรามีการเติบโตที่รวดเร็วมากๆ หลังนักลงทุนเริ่มสนใจสกุลเงินคริปโตฯ และสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้นเรื่อยๆผู้บริหารระดับสูงของ DBS กล่าว

โดย DBS เริ่มปรับทิศทางธุรกิจจากธนาคารดั้งเดิมไปสู่วงการคริปโตเคอร์เรนซีอย่างจริงจัง ภายใต้การนำของ ‘Piyush Gupta’ ซีอีโอคนปัจจุบัน ที่ลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของธนาคาร ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา เพื่อรองรับระบบ Cloud Computing และบริการดิจิทัลต่างๆ

ความนิยมสกุลเงินคริปโทเคอร์เรนซีที่เพิ่มขึ้น เป็นความท้าทายของธนาคารในกระแสหลัก ที่ต้องพยายามสร้างสมดุลระหว่างความสนใจของลูกค้าในสกุลเงินดิจิทัล กับความกังวลเรื่องความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ

ณ ตอนนี้ DBS เป็นธนาคารรายใหญ่เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่ให้บริการด้านคริปโตเคอร์เรนซีอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีทั้งเเพลตฟอร์มที่ให้บริการซื้อขายคริปโตฯ การเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นโทเคน และบริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล

ขณะเดียวกัน จากความนิยมที่มาเเรงไม่หยุด สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ก็เริ่มหันมาให้ความสนใจในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีมากขึ้น อย่าง Standard Chartered ที่กำลังจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อสร้างแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ในสหราชอาณาจักรและยุโรป

โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าว เกิดขึ้นพร้อมๆ กับช่วงเวลาที่ธนาคารต่างๆ ต้องการเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียม เนื่องจากรายได้จากดอกเบี้ย ‘ลดลง’ ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำทั่วโลก

DBS Group คาดว่า ธุรกิจใหม่ของบริษัท ซึ่งรวมไปถึงเเพลตฟอร์มอย่าง DBS Digital Exchange เเละแพลตฟอร์ม Carbon Exchange จะสามารถทำรายได้ถึง 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในสิ้นปี 2022

 

ที่มา : CNA , Reuters 

]]>
1351727
จับตา “เศรษฐีเอเชีย” ถือเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 40% รอโอกาสลงทุน หลังจบวิกฤต COVID-19 https://positioningmag.com/1296116 Wed, 09 Sep 2020 11:28:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1296116 สถานการณ์ COVID-19 ทำให้คนรวยในเอเชียถือเงินสดเพิ่มขึ้นเป็น 40% เพื่อรอโอกาสลงทุนในตลาดเงินและหุ้นนอกตลาด หลังวิกฤตโรคระบาดจบสิ้น

Joseph Poon หัวหน้าฝ่ายไพรเวท แบงกิ้งของ DBS Group สถาบันการเงินที่ดูเเลลูกค้ามั่งคั่งรายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังการเเพร่ระบาดของ COVID-19 กลุ่มลูกค้านักลงทุนรายใหญ่ของธนาคาร ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินสดเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ราว 40% ของพอร์ต จากเดิมเคยอยู่ที่ราว 30% ก่อนช่วงวิกฤต

การที่ลูกค้าถือเงินสดมากกว่าปกติ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจมาก โดยลูกค้าที่มีพอร์ตลงทุนอย่างน้อย 30 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ขึ้นไป เชื่อว่าตลาดจะมีโอกาสที่ดีในอนาคต หลังจาก COVID-19 หายไป

ผู้บริหารของ DBS เผยอีกว่า ตอนนี้กลุ่มลูกค้าเศรษฐีในเอเชีย กำลังพิจารณาที่จะลงทุนในสินทรัพย์ทางการเงิน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจโลจิสติกส์ เเละบางคนเริ่มวางแผนที่จะลงทุนต่อในธุรกิจส่วนตัว หรือขยายธุรกิจร่วมกับพันธมิตร

Photo : Shutterstock

จากข้อมูลที่รวบรวมโดย Bloomberg ระบุว่า หุ้นนอกตลาด (Private Equity Firm) ถือเงินสดอยู่ถึง 1.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากเกิด COVID-19 ทำให้ต้องหยุดการตกลงซื้อขายหุ้น

อย่างไรก็ตาม การถือเงินสดจำนวนมาก อาจทำให้ลูกค้าพลาดโอกาสที่จะลงทุนในตลาดหุ้นในช่วงที่ผ่านมา โดยดัชนี MSCI AC Asia Pacific เพิ่มขึ้นประมาณ 43% นับตั้งแต่ระดับต่ำสุดในเดือนมีนาคม

สำหรับธุรกิจของ DBS Private Bank ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีเงินไหลเข้าสุทธิเพิ่มขึ้น 2 เท่า เป็น 5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยเงินทุนเหล่านี้ มาจากหลายเเห่ง ทั้งจากธุรกิจครอบครัวในอเมริกา ยุโรปและที่อื่นๆ ที่มองว่าสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายที่แข็งเเกร่ง

เเม้ในช่วงวิกฤต COVID-19 จะเจอมรสุมเศรษฐกิจหนักหนาสาหัส เเต่ตลาดกลุ่ม “ลูกค้ามั่งคั่ง” ยังเนื้อหอมเสมอ เป็นโอกาสของธุรกิจ Wealth Management หรือ Private Banking จะเข้ามาเจาะใจลูกค้ากระเป๋าหนัก

ปัจจุบัน DBS Private Bank ให้บริการลูกค้าที่มีสินทรัพย์อย่างน้อย 5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ราว 114 ล้านบาท) ณ สิ้นเดือนมิถุนายน มีอัตราการเติบโตจากปีที่แล้ว 7% ขณะเดียวหัน DBS กำลังจะขยายตลาดนอกสิงคโปร์ เเละตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มทรัพย์สิน 2 เท่าตัว โดยในไทยตั้งเป้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ให้ได้ภายในปี 2023 นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องการขยายธุรกิจในฟิลิปปินส์ด้วย 

ทั้งนี้ ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของไทย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีสินทรัพย์เกิน 100 ล้านบาทขึ้นไป มีการเติบโตในอัตราสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากรายงานปี 2019 มูลค่าความมั่งคั่งของกลุ่มนี้มีถึง 10 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นประมาณ 9.9%

 

ที่มา : SCMP , Bloomberg

 

 

]]>
1296116