FMG – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 18 Dec 2024 09:23:02 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 URBAN REVIVO ฉายา Zara เมืองจีน กับการปักหมุดในไทย เป้าใหญ่สู่ Fast Fashion ระดับโลก https://positioningmag.com/1504068 Wed, 18 Dec 2024 09:22:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504068 URBAN REVIVO แบรนด์ฟาสต์ แฟชั่นแบรนด์แรกสัญชาติจีน ที่ขึ้นชื่อว่าเกิดมาเพื่อท้าชน Zara โดยเฉพาะ ได้บุกประเทศไทยอย่างเต็มสูบ พร้อมกับการขยาย 4 สาขาในช่วงเวลา 6 ปี ล่าสุด Fashion Momentum Group (FMG) ผู้เป็นบริษัทแม่ได้นำแบรนด์น้องอย่าง BENLAI เข้ามาบุกตลาดในไทยอีกแบรนด์ เป็นสาขาแรกในอาเซียน หรืออาจจะเรียกได้ว่าไทยกำลังเป็นประตูสู่การเป็นโกลบอลแบรนด์ ในการขยายสู่ตลาดอื่นๆ ก็เป็นได้

URBAN REVIVO กับฉายา Zara แดนมังกร

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 Fashion Momentum Group (FMG) ได้ถือกำเนิดขึ้น เป็นกลุ่มธุรกิจสินค้าแฟชั่นระดับโลก โดยได้เปิดตัวแบรนด์ URBAN REVIVO (เออร์เบิน รีวิโว่) ขึ้นมาแบรนด์แรก วางจุดยืนเป็นแบรนด์ Fast Fashion ที่มีดีไซน์พรีเมียม ในราคาจับต้องได้ จนใครๆ ต่างให้ฉายาว่าเป็น Zara เมืองจีน เพราะด้วยดีไซน์สินค้า กลุ่มสินค้า ระดับราคา การจัดวางเลย์เอาท์ของร้านล้วนคล้ายคลึงกับแบรนด์ Zara ไปหมด

URBAN REVIVO ได้เปิดสาขาแรกที่เมืองกว่างโจว ด้วยพื้นที่ 800 ตารางเมตร ใช้จุดเด่นด้วยการทำกลุ่มสินค้าให้หลากหลาย และแตกต่างจากแบรนด์อื่นในตลาด เพราะในตอนนั้นตลาดแฟชั่นจีนไม่ได้มีดีไซน์ที่หวือหวามากนัก 

ปัจจุบัน FMG ขยายธุรกิจ และมีสาขากว่า 400 แห่งทั่วโลก ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน และกลุ่มอาเซียนอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รวมถึงขายผ่านช่องทางออนไลน์ในทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และทั่วโลก เตรียมแผนที่จะขยายตลาดสู่สหราชอาณาจักร, ตะวันออกกลาง, ยุโรป และสหรัฐอเมริกาในปีหน้า

URBAN REVIVO ได้บุกตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2561 หรือเมื่อ 6 ปีที่แล้ว เป็นช่วงที่ศูนย์การค้าไอคอนสยามได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ และเป็นช่วงที่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของ COVID-19 

สาขาแรกในไทยจึงได้ปักหมุดที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เป็นแฟล็กชิพสโตร์ที่กินพื้นที่ถึง 3 ชั้น “ลีโอ หลี่” ประธานกลุ่มและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FMG ได้บอกว่า ทางไอคอนสยามเป็นฝ่ายที่ติดต่อแบรนด์มาก่อน เนื่องจากอยากได้แบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเติมเต็มศูนย์การค้า จึงเป็นโอกาสที่ได้ทำตลาดในไทย

หลังจากนั้น URBAN REVIVO ก็ได้ขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมี 4 สาขา ได้แก่ ไอคอนสยาม, เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ และล่าสุดกับวัน แบงค็อกที่เป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร มี 2 ชั้นเช่นกัน

URBAN REVIVO ให้อารมณ์เหมือนช้อปอยู่ใน Zara จริงๆ ด้วยกลุ่มสินค้าเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้าต่าง เฉดสีต่างๆ รวมไปถึงระดับราคาที่อยู่ในช่วง 450-2,500 บาท เท่าที่ได้เดินสำรวจสินค้า ระดับราคาของสินค้าส่วนใหญ่จะอยู่ระหว่าง 1,200-1,900 บาท เป็นราคาที่คนไทยยอมใช้จ่ายได้

ลีโอ หลี่ ยังเสริมอีกว่า วางเป้าให้ URBAN REVIVO เป็นโกลบอลแบรนด์ให้ได้ อยากสร้างอิมแพ็คในวงการแฟชั่น จึงวางภาพลักษณ์ให้เป็นระดับพรีเมียมในราคาจับต้องได้

ส่ง BENLAI แบรนด์น้อง ผู้เป็น Uniqlo เมืองจีน บุกไทย

หลังจากพา URBAN REVIVO เข้ามาโลดแล่นในตลาดไทยได้ 6 ปี พร้อมกับการขยายสาขาต่อเนื่อง ล่าสุดยังพาแบรนด์น้องใหม่อย่าง BENLAI (เปิ่นไหล) เข้ามาเปิดตลาดบ้าง โดยไทยจะเป็นสาขาแรกในอาเซียนเลยทีเดียว

BENLAI ก่อตั้งเมื่อปี 2565 แบรนด์เสื้อผ้าแนวแคชชวล หรือจะเรียกว่า Uniqlo เมืองจีน ก็ไม่ผิดนัก เพราะสินค้า ราคา การจัดวางของร้านก็เป็นแนว Uniqlo เลย เป็นเสื้อผ้าที่เน้นการใช้เทคโนโลยีของผ้า ฟังก์ชั่น เน้นความเบาสบาย 

เสื้อผ้าจะเป็นแนวมินิมัล สีพื้น ไม่มีลวดลายฉูดฉาด เน้นเทคโนโลยีผ้าแห้งไว สวมใส่สบาย โทนสีเอิร์ธโทน หรือสีพาสเทล รวมไปถึงเสื้อผ้าออกกำลังกาย โยคะ โดยราคาอยู่ในช่วง 400-2,500 บาท 

จะสังเกตได้ว่าทั้ง 2 แบรด์เรือธงของ FMG ล้วนใช้กลยุทธ์ Follower Strategy ทั้งสิ้น หรือกลยุทธ์ผู้ตาม โดยเลือกแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จ แล้วนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างแบนด์ต่อ

ลีโอ หลี่ บอกว่า BENLAI จะเป็นแบรนด์ที่ทำ S Curve ตัวใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท ปัจจุบันมี 21 สาขาในจีน สาขาที่วัน แบงค็อกเป็นสาขาแรกในอาเซียน และเตรียมเปิดสาขาที่นิวยอร์ก, ลอนดอน, โตเกียว และฮ่องกงในปี 2568 

การมาบุกตลาดไทยเป็นใบเบิกทางในการเข้าสู่อาเซียน ลีโอ หลี่บอกว่า ไทยมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีการเปิดกว้างเรื่องแฟชั่น และมีนักท่องเที่ยวมาเยือนเยอะ ไทยเป็นประเทศชั้นนำในอาเซียน การมาเปิดสาขาที่ไทยจะช่วยสร้างการรับรู้ และขยายสาขาอื่นๆ ได้ 

โดยแผนระยะสั้นของ BENLAI จะครอบคลุมตลาดสำคัญในเอเชียแปซิฟิคให้ได้ในปี 2569 มองประเทศอินโดนีเซียเป็นสำคัญ เพราะประชากรเยอะ หลังจากนั้นภายใน 5 ปีคาดว่าจะมีร้านในต่างประเทศ 200 แห่งให้ได้

โดยที่เป้าหมายใหญ่สุดของ FMG คือการเป็นโกลบอลแบรนด์ มีแนวคิดที่ว่าบริษัทที่ยิ่งใหญ่ต้องมีความเป็นอินเตอร์แบรนด์ แบรนด์ที่ประสบความสำเร็จก็ต้องเป็นอินเตอร์แบรนด์เช่นกัน

อ่านต่อ

]]>
1504068