Lisa – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 15 Sep 2023 06:19:58 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หุ้น ‘YG’ ร่วงเกือบ 9% หลังมีข่าว ‘ลิซ่า’ ยังปฏิเสธข้อเสนอสัญญาใหม่มูลค่า 1.35 พันล้านบาท! https://positioningmag.com/1444377 Fri, 15 Sep 2023 04:32:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444377 สาวกวง แบล็กพิงก์ (Blackpink) เองก็คงตั้งตารอว่าวงรักจะต่อสัญญากับค่าย YG Ent. ต่อไปหรือไม่ หลังจากที่คาดว่าสัญญาของวงหมดไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จนมาถึงกลางเดือนกันยายนก็ยังไม่มีความคืบหน้า โดยทางต้นสังกัดยังไม่ได้ออกมายืนยันการต่อสัญญาใด ๆ กับสมาชิกทั้ง 4 ได้เลย

ล่าสุด ตามรายงานจาก Star News สื่อเกาหลีใต้ ได้ระบุว่าา ลิซ่า สมาชิกชาวไทยของวงเกิร์ลกรุ๊ป Blackpink ได้ปฏิเสธข้อเสนอที่สองจากบริษัทต้นสังกัดศิลปินเคป็อป (K-pop) วายจี เอนเตอร์เทนเมนต์ (YG Entertainment) ซึ่งคาดว่าสัญญาดังกล่าวมีมูลลค่าถึง 5 หมื่นล้านวอน หรือราว 1.35 พันล้านบาท หลังจากที่เคยปฏิเสธข้อเสนอแรกที่เสนอให้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม

โดยสื่อของ นิวเซน (Newsen) สื่อของเกาหลีใต้รายงานว่า YG Entertainment ได้เปิดเผยว่า บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาต่อสัญญากับลิซ่า ขณะที่รายงานจาก หนังสือพิมพ์มุนฮวา อิลโบ ได้ระบุว่า ทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันค่อนข้างมาก

อย่างไรก็ตาม จากข่าวลือที่ว่าลิซ่ายังไม่สามารถต่อสัญญากับค่ายได้ ส่งผลให้หุ้นของค่าย YG Entertainment ร่วงลงเกือบ 9% ซึ่งถือเป็นการร่วงลงในรอบ 1 วัน แรงที่สุดของค่าย YG นับตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2022

สำหรับวง Blackpink ถือเป็นหนึ่งในกลุ่ม K-pop ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของค่าย YG โดย Blackpink มีสมาชิกทั้งหมด 4 คน ได้แก่ Jisoo (จีซู), Jennie (เจนนี), Rosé (โรเซ) และ Lisa (ลิซ่า) โดยวงได้เปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2016 โดยคาดว่ามีการเซ็นสัญญากับค่าย YG Entertainment เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 2023 แต่ปัจจุบัน ทางต้นสังกัดยังไม่ยืนยันการต่อสัญญาใด ๆ กับสมาชิกคนใดเลย

ปัจจุบัน Blackpink กำลังอยู่ในช่วงเดินสายปิดคอนเสิร์ตเวิร์ลทัวร์ “Born Pink” ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเวิร์ลทัวร์ที่ใหญ่ที่สุด โดย Blackpink สามารถดึงดูดผู้ชมได้ประมาณ 1.5 ล้านคนใน 41 เมือง นับตั้งแต่เริ่มในเดือนตุลาคม 2565 และสองวันสุดท้ายของการทัวร์ก็คือวันที่ 16 และ 17 กันยายนในกรุงโซล

Source

]]>
1444377
คุ้มแค่ไหนถามใจทรู! เปิดลิสต์เครือทรูที่ ‘ลิซ่า BLACKPINK’ ขึ้นแท่นเป็น ‘พรีเซ็นเตอร์’ https://positioningmag.com/1431989 Fri, 26 May 2023 11:31:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1431989 ด้วยชื่อเสียง ภาพลักษณ์ และความสามารถ จึงไม่น่าแปลกใจนักหากแบรนด์ (ที่มีเงินถึง) จะอยากคว้าตัวสาว ลิซ่า BLACKPINK หรือ ลิซ่า ลลิษา มโนบาล ไอดอล K-pop ที่ได้รับความนิยมและมีอิทธิพลมากที่สุดในโลกมาขึ้นเป็น พรีเซ็นเตอร์ ให้กับแบรนด์ของตัวเอง และหนึ่งในนั้นก็คือ ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ดูเหมือนจะคุ้มสุด เพราะใช้ลิซ่าไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ในหลายภาคส่วนเลยทีเดียว

3 ปีจากถิ่น AIS สู่ 3 พรีเซ็นเตอร์เครือทรูในปีเดียว

ย้อนไปเมื่อปี 2019 หากใครจำกันได้ ลิซ่า ได้กลายเป็นพรีเซ็นเตอร์ปี เอไอเอส (AIS) เบอร์ 1 ของตลาดโทรคมนาคมไทยในขณะนั้น โดยเอไอเอสถือเป็น แบรนด์แรกในไทย ที่คว้าตัวลิซ่ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ได้สำเร็จ จากนั้น ลิซ่าก็เป็นครอบครัวของเอไอเอสมายาวนานถึงปี 2022 แต่ในปี 2023 ลิซ่าก็ไม่ได้ต่อสัญญากับทางค่ายต่อ

ซึ่งในตอนนั้น เอไอเอสได้เปิดเผยว่า บริษัทพยายามจะต่อสัญญากับลิซ่าแล้ว แต่ไม่สำเร็จเนื่องจาก ค่าย YG ปฏิเสธการต่อสัญญาและไปดีลกับบริษัทที่มี Conflict of interest ซึ่งหลายคนก็เดากันว่าต้องเป็น ทรู แน่นอน

อ่าน >>> ทำไม ‘เอไอเอส’ ต้องทุ่มจับ ‘New Gen’ และกลยุทธ์การใช้ ‘พรีเซ็นเตอร์’ จะเป็นอย่างไรเมื่อไร้ ‘ลิซ่า’

TrueID แพลตฟอร์มแรกที่ลิซ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์

มาต้นปี 2023 ก็เป็นไปตามที่หลายคนคาดไว้ TrueID (ทรู ไอดี) แพลตฟอร์มคอนเทนต์ในเครือทรูฯ ก็ได้ประกาศว่า ลิซ่า เป็นพรีเซ็นเตอร์คนล่าสุด พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ พร้อมให้เหตุผลว่า “ลิซ่า BLACKPINK จะมาช่วยตอกย้ำภาพความเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกของ TrueID ที่ปัจจุบันให้บริการครอบคลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังได้เอ็กซ์คูลซีฟคอนเทนต์ของ BLACKPINK และคอนเทนต์อื่น ๆ จากศิลปินในสังกัด YG Entertainment  อีกด้วย

TrueX แอปพลิเคชันใหม่หลังควบรวม

หลังจากที่ ทรู และ ดีแทค ควบรวมกันเป็น บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในช่วงเดือนมีนาคม และ 1 เดือนผ่านไป บริษัทก็ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันใหม่ TrueX ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่รวมบริการต่าง ๆ เกี่ยวกับการใช้ชีวิตของลูกค้าทรู และผู้บริโภคทั่วไปมารวมไว้ในแอปฯ เดียว อาทิ โซลูชันการดูแลบ้าน, สุขภาพ, ช้อปปิ้ง รวมถึงบันเทิง

และเพื่อสื่อสารความเป็น LifeOS แพลตฟอร์ม TrueX ก็เลือกใช้ ลิซ่า เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ โดยมีการยิงโฆษณาทางช่องทางต่าง ๆ ทั้งทำโปรโมชันแพ็กเกจ เพื่อดันให้แพลตฟอร์มมียอดดาวน์โหลด 1 ล้านดาวน์โหลดในสิ้นปี

True Money ที่มีพรีเซ็นเตอร์ระดับโลกครั้งแรก

แม้จะทำตลาดไทยมานาน 8 ปี ให้บริการครอบคลุม 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีผู้ใช้มากกว่า 50 ล้านราย แต่แพลตฟอร์ม ทรูมันนี่ (True Money) ก็ยังไม่เคยมีพรีเซ็นเตอร์ของแบรนด์อย่างจริงจัง มีเพียงแค่บางแคมเปญเท่านั้น แต่มาปีนี้ ทรูมันนี่เลือกจะทุ่มเงินดึงลิซ่า มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น รวมถึงต้องการสื่อว่าแบรนด์ทรูมันนี่เป็นแบรนด์ใหญ่ระดับ Top เหมือนกับลิซ่า

เรียกได้ว่าผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งปี แต่เครือทรูก็ใช้ลิซ่ายืนเป็นพรีเซ็นเตอร์แล้วถึง 3 แพลตฟอร์ม ซึ่งถือเป็นจุดที่น่าสนใจมากว่า เครือทรูฯ เลือกจะใช้ลิซ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์เฉพาะ แพลตฟอร์มดิจิทัล แต่ไม่ได้ใช้มาสื่อสารถึงบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ส่วนนั้นเลือกใช้ นาย ณภัทร และ ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่าเครือทรูฯ จะใช้ลิซ่าเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัลไหนอีกบ้าง หรือจะข้ามฟากไปฝั่ง เครือซีพี ที่เคยมีข่าวลือ

]]>
1431989
ทำไม ‘เอไอเอส’ ต้องทุ่มจับ ‘New Gen’ และกลยุทธ์การใช้ ‘พรีเซ็นเตอร์’ จะเป็นอย่างไรเมื่อไร้ ‘ลิซ่า’ https://positioningmag.com/1387891 Mon, 06 Jun 2022 10:49:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1387891 เอไอเอส (AIS) ถือเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมเบอร์ 1 ไทยที่ครองตำแหน่งมานานหลายสิบปี โดยปัจจุบันมีผู้ใช้งานรวมกว่า 44.6 ล้านเลขหมาย เรียกว่าเกินครึ่งของประชากรไทยที่มีกว่า 66 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่ของเอไอเอสจากนี้ก็คือ การควบรวม ทรู-ดีแทค ที่แม้จะยังพูดได้ไม่เต็มปากว่าจะเกิดขึ้น แต่ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง และเมื่อวันนั้นมาถึงเอไอเอสอาจไม่ใช่เบอร์ 1 อีกต่อไปก็ได้ ดังนั้น เอไอเอสจึงเริ่ม ‘ลงทุนกับอนาคต’ เพื่อรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ต่อไป

หากพูดถึงประชากรไทย ปัจจุบันกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ในปี 2565 เนื่องจากมีจำนวนผู้สูงอายุราว 20-30% ของประชากร และไทยจะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอดเช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่มีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปคิดเป็นสัดส่วน 28% ภายในปี 2574 กลับกันอัตราการเกิดของไทยก็ลดต่ำลงเรื่อย ๆ โดยในปี 2564 มีเด็กไทยเกิดเพียง 5.4 แสนคน ซึ่งน้อยกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตเสียอีก คำถามคือ ทำไม เอไอเอส ถึงได้พยายามจับกลุ่ม New Gen มาเป็นลูกค้า

ซื้อใจ New Gen = ซื้ออนาคต

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส อธิบายว่า ภาพรวมกลุ่มลูกค้า New Gen (12-24 ปี) มีจำนวนประมาณ 15 ล้านคน โดยเอไอเอสมีส่วนแบ่งราว 40% แม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมีไม่มาก และมียอดใช้จ่ายเฉลี่ยต่อเดือนต่อคน (ARPU) ไม่สูงเพราะยังไม่มีรายได้ แต่เอไอเอสมองว่านี่คือ การลงทุนในอนาคต เพราะกลุ่ม New Gen มีความสำคัญตรงที่ ถ้าได้มาสัมผัสสินค้าหรือบริการในครั้งแรกหรือช่วงต้นของอายุจะทำให้เขาติด ใช้แล้วไม่อยากเปลี่ยน

“จริง ๆ แล้วเราให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มลูกค้า ไม่ใช่ว่ากลุ่มนี้ใหญ่ให้ความสำคัญมากกว่า กลุ่มนี้เล็กเราไม่สนใจ แต่เราพยายามสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับทุกกลุ่ม เพียงแต่วิธีการต่างกันไป อย่างกลุ่มผู้ใช้อายุ 40 ปีขึ้นไปที่เป็นฐานใหญ่สุดเราก็มีเซเรเนด”

ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส

ต่อสัญญาลิซ่าไม่สำเร็จไม่กระทบ

เอไอเอสถือเป็น เจ้าแห่งพรีเซ็นเตอร์ เพราะสามารถกวาดศิลปินเบอร์ใหญ่ของไทยเข้าสังกัดจำนวนมาก อาทิ เจมส์-จิรายุ ตั้งศรีสุข, แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์, มิว-นิษฐา จิรยั่งยืน, เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ, เบลล่า-ราณี แคมเปน, เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ, เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร, ทอม Room39 และ วี วิโอเลต

และเพื่อจับกลุ่ม New Gen โดยเฉพาะ เอไอเอสได้ปั้นทีม #TEAMAIS5G พรีเซ็นเตอร์เลือดใหม่กว่า 20 คน นำโดย แบมแบม GOT7, วิน เมธวิน, แอลลี่, บิวกิ้น, พีพี, เจเจ, ต้าเหนิง, นนน,โอม, ทรินิตี้ และ 4EVE

“เมื่อก่อนพรีเซ็นเตอร์เราจะจับกลุ่มผู้ใหญ่หน่อย อย่างเป๊ก, เวียร์, เบลล่า ดังนั้น กลุ่ม TEAM AIS 5G จะเป็นมาจับกลุ่มเด็กวัยรุ่นจริง ๆ อย่างลิซ่าก็ไม่ได้เจาะแค่วัยรุ่นแต่เข้าถึงกลุ่มที่ค่อนข้างกว้าง เพราะถือว่าเป็นศิลปินที่รู้จักระดับโลก”

อย่างไรก็ตาม การเสีย ลิซ่า BlackPink หรือ ลลิษา มโนบาล ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์มา 3 ปี เนื่องจากค่าย YG ปฏิเสธการต่อสัญญาและไปดีลกับบริษัทที่มี Conflict of interest นั้น เอไอเอสเชื่อว่าจะ ไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ เพราะเอไอเอสพยายามเต็มที่แล้วแต่ไม่สำเร็จ

“แน่นอนว่าเรื่องดึงพรีเซ็นเตอร์ก็มีการเเข่งขันสูงอย่างที่เห็น และที่เราต่อสัญญากับลิซ่าไม่สำเร็จก็ถือเป็นเรื่องปวดใจ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว”

พรีเซ็นเตอร์ไม่จำกัดแค่ดารา

เนื่องจากกลุ่ม New Gen จะเกิดมาในยุคดิจิทัลแบบ 100% ไลฟ์สไตล์ยิ่งมีความหลากหลาย, ซับซ้อนและยิบย่อยระดับนาโน ดังนั้น ทิศทางการใช้พรีเซ็นเตอร์กับกลุ่มนี้จะ ไม่จำกัดแค่ศิลปินดารา แต่ต้องเป็นคนที่สามารถ สร้างแรงบันดาลใจ หรือ สามารถพูดภาษาเดียวกันกับกลุ่มเป้าหมาย

นอกจากนี้ การสื่อสารแบบเดิม ๆ ใช้ไม่ได้ผล อย่างกิจกรรม โรดโชว์ออกบูธ ตามสถานศึกษา เอไอเอสก็ได้เลิกใช้แล้วเพราะไม่ได้ผล ดังนั้น เอไอเอสจึงใช้กลยุทธ์ Co-Create กับพรีเซ็นเตอร์ในการสื่อสารเพื่อให้ตรงใจเป้าหมายที่สุด

“เด็กสมัยนี้เขาไม่สนใจโฆษณา แต่เลือกจากการศึกษา ฟังจากเพื่อน และค้นหาข้อมูล ดังนั้น พรีเซ็นเตอร์จะมีอิทธิพลกับเป้าหมายขึ้นอยู่กับว่าพูดในภาษาเดียวกับเป้าหมายแค่ไหน เราต้องทำให้เขารู้สึกเหมือนคุยกับเพื่อน นี่คือฟิลลิ่งที่โฆษณาทำไม่ได้เพราะมีข้อจำกัด เราจึง Co-Create ร่วมกับพรีเซ็นเตอร์เพื่อให้สื่อความได้แม่นยำกว่า”

ราคาและสิทธิพิเศษต้องมาคู่กัน

แน่นอนว่าการแข่งขันเพื่อดึงลูกค้ากลุ่ม New Gen รุนแรงตั้งแต่เรื่องราคา และลอยัลตี้ในกลุ่มวัยรุ่นนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการแต่ละคนว่า หาของถูก หรือ หาสิทธิประโยชน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ลูกค้าจะอยู่ยาวก็ต้องมี คุณภาพ ควบคู่ไปด้วย เพราะ 47% ของลูกค้าระบุว่า คุณภาพเป็นสิ่งสำคัญ

เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทุกด้าน เอไอเอส ได้เพิ่ม AIS ZEED 5G สำหรับกลุ่มนักศึกษาโดยราคาเริ่มต้น 249 – 499 บาท ที่ตอบโจทย์ดิจิทัลไลฟ์สไตล์ทั้งด้านการเรียน ความบันเทิง และคอนเทนต์ รวมถึงแพ็กเกจแบบเติมเงินที่สามารถเลือกเองได้แบบ DIY แพ็กเกจ

ในส่วนของกิจกรรมพิเศษ เอไอเอส เตรียมจัดคอนเสิร์ต AIS 5G Faniverse จาก TEAM AIS 5G, การพบปะกับดารา ศิลปินใน AVATAR PARK, การถ่ายทอดสด ศึกแดงเดือดแบบ 360 องศา และสิทธิพิเศษจาก AIS Point รวมถึงการลุ้นรับรางวัลพิเศษทองคำมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

“เราเชื่อว่าถ้ามีของที่เขาชอบนำเสนอให้เขา เขาก็จะอยู่กับเรา เพราะตอนนี้ New Gen ไม่ได้มองแค่เรื่องราคาแล้ว”

ถ้าดูจากกลยุทธ์ในการมัดใจ New Gen ก็ต้องถือว่าเอไอเอสให้ความสำคัญกับ อนาคต มากทีเดียว ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะ ทรู-ดีแทค จ่อควบรวมกัน อีกทั้ง 5 ปีจากนี้ เอไอเอสคาดว่า 5G จะกลายเป็นเทคโนโลยีพื้นฐาน ดังนั้น เอไอเอสต้องเร่งเดินเกมมัดใจ New Gen เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้เป็นลูกค้าเอไอเอสต่อไปในระยะยาว

]]>
1387891
ส่องกระแส ‘LALISA’ ที่กวาดกว่า 53 ล้านเอ็นเกจเมนต์จากชาวโซเชียลภายใน 24 ชั่วโมง https://positioningmag.com/1352865 Tue, 21 Sep 2021 11:09:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1352865 ลลิษา มโนบาล หรือที่รู้จักกันดีในนาม ลิซ่า แบล็กพิงก์ หนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปจากประเทศเกาหลีใต้ได้ปล่อยอัลบั้มเดี่ยวของตัวเองเป็นครั้งแรก ซึ่งเกิดกระแสตอบรับขึ้นมาในโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม หลังจากที่ปล่อยเอ็มวีมาในวันที่ 10 ก.ย. โดยถือเป็นศิลปินหญิงเดี่ยวคนแรกที่มียอดเข้าชมผ่านช่องทาง YouTube มากกว่า 10 ล้านครั้งภายใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ทุบสถิติเดิมของเทย์เลอร์ สวิฟต์

บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้เก็บรวบรวมข้อมูลด้วย ZOCIAL EYE ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ก.ย. – 20 ก.ย. 64 เพื่อวิเคราะห์ในประเด็นที่น่าสนใจต่าง ๆ หลังจากลิซ่าปล่อยเอ็มวีเพลงแรกออกมา โดยพบว่า ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ปล่อยเอ็มวี ได้สร้างเอ็นเกจเมนต์ขึ้นในโลกออนไลน์มากกว่า 53 ล้านเอ็นเกจเมนต์ โดย 3 แพลตฟอร์มที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์สูงสุดคือ YouTube, Facebook และ Twitter ตามลำดับ นอกจากนี้ ไวซ์ไซท์ยังได้รวบรวมข้อมูล 5 ประเด็นฮอตจากโลกออนไลน์โดยเรียงลำดับตามเอ็นเกจเมนต์ดังนี้

‘LALISA’ MV รีแอคชั่น (40,217,715 เอ็นเกจเมนต์)

เกิดกระแสการทำคอนเทนต์ “รีแอคชั่น” จากคนดังบนโซเชียลอย่างคึกคัก โดยจะเห็นได้จากกลุ่มศิลปินดารานักแสดง, นักร้อง และอินฟลูเอนเซอร์ ที่ร่วมชื่นชม และยินดีกับความสำเร็จในครั้งนี้กันอย่างล้นหลาม

ชุด และเครื่องแต่งกาย (20,885,721 เอ็นเกจเมนต์)

สืบเนื่องมาจากฉากนึงในเอ็มวีที่ลิซ่าใส่ชฎาและชุดไทย ทำให้เกิดกระแสเกี่ยวกับเรื่องเครื่องแต่งกาย ทั้งเรื่องที่แฟนคลับตามหาซื้อชฎา, ชุดไทยจนสำเพ็งและพาหุรัดกลับมาคึกคัก แม่ค้าพ่อค้าต่างกลับมาขายดีมีรายได้ รวมถึงมีการแสดงความคิดเห็นในเรื่องของการนำเสนอความเป็นไทยในเอ็มวีรวมอยู่ด้วย

ลูกชิ้นยืนกิน และการท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ (8,900,119 เอ็นเกจเมนต์)

จากที่ลิซ่าได้พูดออกมาว่า “อยากทานลูกชิ้นยืนกินอีกครั้ง”  ทำให้เกิดกระแสบนโซเชียล นักท่องเที่ยวจำนวนมากได้วางแผนการเดินทางเพื่อไปลองชิมสักครั้ง ส่งผลให้ “เทศกาลลูกชิ้นยืนกิน” ของจังหวัดบุรีรัมย์เป็นที่รู้จักในวงกว้าง รวมถึงทางเจ้าของร้านที่ต้องพัฒนารูปแบบการขายให้สามารถสั่งซื้อได้จากทั่วประเทศผ่านระบบออนไลน์ เพื่อรองรับความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังมีการทำทัวร์ตามรอยลิซ่าเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในจังหวัดอีกด้วย

กระแสคัฟเวอร์ (6,562,579 เอ็นเกจเมนต์)

เกิดกระแสการคัฟเวอร์ในวงการต่างๆกันอย่างคึกคัก ไม่ว่าจะเป็นสายบิวตี้บล็อกเกอร์ที่แต่งหน้าทำผมตามลุคในเอ็มวี, สายเต้นต่างลงคลิปที่ได้เต้นคัฟเวอร์เพลง LALISA กันอย่างคึกคักนอกจากนี้ยังมีศิลปินอีกมากมายที่สร้างคอนเทนต์ผ่านการร้องเพลง และทำดนตรีใหม่

ความเชื่อในเรื่องโชคลาภ (609,643 เอ็นเกจเมนต์)

ความเชื่อและเรื่องดวงเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน และจากที่ลิซ่าได้ให้สัมภาษณ์ว่าในตอนเด็กมีหมอดูทักให้เปลี่ยนชื่อแล้วจะเป็นสิริมงคล ทำให้เกิดกระแสการตามหาหมอดู เพื่อเปลี่ยนชื่อเสริมดวง เสริมโชคลาภกันอย่างคึกคัก รวมถึงกระแสเลขเด็ดจากวันเกิด, น้ำหนัก, ส่วนสูง, ยอดวิว ฯลฯ

]]>
1352865
จะเกิดอะไรขึ้น? เมื่อ YG Ent. จดลิขสิทธิ์ชื่อ-นามสกุล “ลิซ่า BlackPink” https://positioningmag.com/1263929 Tue, 11 Feb 2020 16:41:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1263929 ทำเอาฮือฮาทีเดียวเมื่อมีการยืนยันว่าค่าย YG Entertainment ต้นสังกัดของสาวๆ วง BlackPink ได้ทำการจดลิขสิทธิ์ชื่อจริงและนามสกุลของ “ลิซ่า ลลิษา มโนบาล” เป็นที่เรียบร้อย

ตามรายงานระบุว่า YG Entertainment ได้จดลิขสิทธิ์ชื่อ “Manobal Lalisa” และ “Manobal” ในหมวดของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายไว้เรียบร้อยแล้ว

ซึ่งลิขสิทธิ์ชื่อที่เป็นเครื่องหมายการค้านี้ถูกบันทึกไว้ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2019 และเริ่มบังคับใช้จริงในเดือน ม.ค. 2020 นับเป็นการยืนยันว่าชื่อของ ลิซ่า จะครอบคลุมเกี่ยวกับสิ่งของที่เป็นเครื่องแต่งกายโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นชุดชั้นใน, ผ้าพันคอ หรือเสื้อผ้าสำเร็จรูปต่างๆ

งานนี้จึงอาจเป็นไปได้ว่า Lisa อาจกำลังมีแบรนด์เสื้อผ้าเป็นของตนเอง ภายใต้การดูแลของ YG Ent.

การจดลิขสิทธิ์ชื่อของศิลปินที่ YG Entertainment ทำ นับว่าไม่ใช่ครั้งแรก และถูกวิพากษ์วิจารณ์มาตลอดนับตั้งแต่สมัย G-Dragon (จี ดรากอน) และ Taeyang (แทยาง) จากวง BigBang เพราะถ้าทั้งคู่เลือกที่จะไม่ต่อสัญญากับทาง YG ในปีนี้ทั้งคู่ก็จะหมดสิทธิ์ในการใช้ชื่อดังกล่าวในวงการบันเทิงต่อไป

ส่วนการจดลิขสิทธิ์ชื่อของลิซ่า ก็ทำเอาชาว Blink ออกอาการเป็นห่วงว่าชื่อจริงและนามสกุลของ ลิซ่า อาจหมดสิทธิ์ใช้ตลอดไปหากเธอออกจากค่าย YG

อย่างไรก็ตาม สังเกตได้ว่าทางค่ายได้จดลิขสิทธิ์ “Manobal” ไม่ใช่ “Manoban” ที่ ลิซ่า ใช้อยู่ โดย ลิซ่า เองก็เคยชี้แจงเรื่องนี้กับแฟนๆ ไปแล้วว่าชื่อ-นามสกุล ภาษาอังกฤษของเธอ เขียนว่า “Lalisa Manoban” พร้อมระบุว่า ภาษาไทย ออกเสียง L หรือ ล.ลิง เป็น N หรือ น.หนู เพราะฉะนั้นถ้าเขียนเป็นภาษาอังกฤษแบบตรงตัวก็จะเป็น Manobal แต่ถ้าเขียนตามการออกเสียงภาษาไทยก็จะเป็น Manoban เพราะฉะนั้นชื่อและนามสกุลของเธอจึงเขียนตามการออกเสียงว่า “Lalisa Manoban” พร้อมกับยืนยันว่า เธอไม่ชอบ “Manobal” เพราะฟังดูแปลก ๆ

อย่างไรก็ตาม ทาง YG Ent. ก็ได้จดลิขสิทธิ์โดยใช้ “Manobal” และ “Lalisa Manobal” ไปแล้ว จึงคาดว่าไม่น่าจะมีผลต่อการใช้ชื่อจริงหากเธอออกจากค่ายแต่อย่างใด

Source

]]>
1263929