Lotus’s – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 15 Mar 2024 11:32:55 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘โลตัส’ ชูจุดแข็งช่องทางออนไลน์ ส่งฟรี ส่งของสดภายใน 1-3 ชั่วโมง จูงใจลูกค้า ตั้งเป้าปีนี้โต 30% https://positioningmag.com/1466486 Fri, 15 Mar 2024 10:26:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1466486 โลตัส (Lotus’s) ชูจุดแข็งช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดส่งสินค้าฟรีไม่มีขั้นต่ำ ส่งของสดภายใน 1-3 ชั่วโมง เพื่อที่จะจูงใจลูกค้า โดยตั้งเป้าปีนี้โต 30% ขณะเดียวกันก็ยังมีการปรับเปลี่ยนโปรแกรม My Lotus’s ให้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นผ่านการใช้เทคโนโลยี AI และ Big Data

ธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส ได้กล่าวถึงแอปพลิเคชัน Lotus’s ในปี 2023 ที่ผ่านมานั้นมียอดดาวน์โหลดแอปฯ รวมมากถึง 10 ล้านดาวน์โหลดแล้ว ซึ่งเขาชี้ว่าตัวเลขจำนวนการสั่งซื้อรวมแตะระดับ 1 ล้านครั้ง และเป็นครั้งแรกนั้นยากเสมอ บริษัทต้องใช้เวลาถึง 7 เดือนหลังจากบริษัทได้เปิดตัวแอปฯ ในปี 2022

ขณะที่จำนวนการสั่งซื้อรวมแตะระดับ 1.5 ล้านครั้งภายในเดือนมกราคมปี 2024 ที่ผ่านมา และในปี 2023 มียอดสั่งซื้อรวมกันมากถึง 1 หมื่นล้านบาทแล้ว

กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซของโลตัส ยังกล่าวว่า บริษัทเป็นค้าปลีกรายแรกของไทยที่พร้อมจัดส่งสินค้าภายใน 1 ชั่วโมงหากเป็นการจัดส่งจากสาขาของโลตัสโกเฟรช และภายใน 3 ชั่วโมงหากเป็นการจัดส่งจากสาขาใหญ่ ส่วนถ้าเป็นสินค้าชิ้นใหญ่ จะจัดส่งภายในวันถัดไป หรือแม้แต่การรับสินค้าที่สาขา นอกจากนี้ยังมีค่าส่งที่ฟรีไม่มีจำกัดการสั่งซื้อขั้นต่ำ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้เป็นตัวเร่งให้ลูกค้าใช้บริการผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

เขายังชี้ว่าจุดแข็งที่โลตัสสามารถพร้อมส่งสินค้าได้ เนื่องจากบริษัทมีสาขาเล็กและสาขาใหญ่รวมกันกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ และยังมีสินค้าถึง 30,000 รายการ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าอาหารสด สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเสริมความงาม และสินค้าสำหรับแม่และเด็ก เป็นต้น

ธรินทร์ ธนียวัน – กรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส / ภาพจากบริษัท

ออกแคมเปญใหม่

ขณะเดียวกันภายในเดือนมีนาคมนี้ Lotus’s ได้ออกแคมเปญมีโปรโมชั่น ให้ทุกคนที่เข้ามาสั่งสินค้านั้นมีความสุข ผ่านดีลพิเศษทุกวัน เช่น วันจันทร์ถ้าหากสั่งน้ำดื่ม มีแคมเปญซื้อน้ำแพ็คทุกวันอาทิตย์หรือทุกวันจันทร์  วันอังคารมีโปรโมชั่นอาหารสดถ้าหากสั่งถึงจำนวนหนึ่ง หรือถ้าสั่งเกินจะมีคูปองออนท็อปด้วย เป็นต้น

ผู้บริหารของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โลตัส ได้กล่าวว่า การที่บริษัทสามารถทำแคมเปญต่างๆ ได้ทุกวันเนื่องจากบริษัทได้เห็นข้อมูลการสั่งสินค้าของลูกค้า เช่น ปริมาณการสั่งน้ำดื่มในวันจันทร์ถือว่าเยอะเป็นพิเศษ ทำให้โลตัสได้ออกแคมเปญดังกล่าวออกมา

มองว่าเทรนด์ของผู้บริโภคจะมาช่องทางออนไลน์แน่นอน

ธรินทร์ ยังชี้ว่าปัจจุบันยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ตั้งแต่เปิดตัวแอปฯ ในปี 2022 มีสัดส่วน 1% แต่ปัจจุบันสัดส่วนดังกล่าวกำลังจะแตะเลข 2 หลักในเร็วๆ นี้แล้ว และเขามองว่าเทรนด์การซื้อสินค้าของคนไทยจะคล้ายกับประเทศจีนที่มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และการไปซื้อสินค้าแบบปกตินั้นเหมือนมาซื้อสินค้าให้สนุก

นอกจากนี้ ธรินทร์ ได้ชี้ถึงว่า ในการสั่งสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์นั้นมีดีลส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้า ซึ่งแตกต่างกับการไปซื้อที่สาขาที่จะไม่มีส่วนลด และโลตัสเตรียมนำสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้    ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อภายในแอปฯ ได้ด้วย โดยถ้าเป็นสินค้าใหญ่ๆ จะใช้เวลาจัดส่งไม่เกิน 7 วัน

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ – ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส / ภาพจากบริษัท

ปรับสิทธิประโยชน์ Lotus’s Reward Program ใหม่

วรวรรณ เพียรลิขิตวงศ์ ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายการตลาด โลตัส กล่าวว่า นอกเหนือจากความสะดวกสบายที่เพิ่มมากขึ้นในการจับจ่ายผ่านช่องทางออนไลน์แล้ว โลตัสยังมอบสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งกว่า ด้วยรีวอร์ดโปรแกรมมายโลตัส (My Lotus’s) ที่เปลี่ยนจากการเป็นเพียงบัตรสะสมคะแนน สู่ไลฟ์สไตล์แพลตฟอร์มแบบปัจเจกบุคคล

เธอชี้ว่าโปรแกรม My Lotus’s พัฒนามาจาก Club Card สมัยที่ยังเป็น Tesco Lotus ซึ่งมีการสะสมแต้ม แต่ต้องรอคูปองนานถึง 3 เดือน ซึ่งโปรแกรมใหม่นั้นสามารถที่จะสะสมแต้มได้สะดวกมากกว่าเดิม

ตัวเลขในปี 2023 ที่ผ่านมาโปรแกรม My Lotus’s มีลูกค้ามากถึง 17 ล้านคน มีการแจก Coin ไปแล้วมากกว่า 1,600 ล้าน Coin นอกจากนี้ วรวรรณ ยังได้กล่าวเสริมว่าลูกค้าโปรแกรมดังกล่าวนั้นมีการใช้จ่าย 3 เท่าเยอะกว่าคนไม่ได้เป็นสมาชิกโปรแกรมดังกล่าวอีกด้วย

โปรแกรม My Lotus’s เองยังมีการทำโปรโมชั่นส่วนบุคคล ผ่านเทคโนโลยี AI และ Big Data และมีการทำโปรโมชั่นไปแล้วกว่า 150 ล้านโปรโมชั่น เช่น ในวันเกิดของสมาชิก ฯลฯ และการสั่งสินค้าผ่านแอปฯ Lotus’s ยังมีสิทธิพิเศษคือได้ Coin เพิ่มมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปแลกในภายหลังได้

โดย Lotus’s ตั้งเป้าที่จะมีการเติบโตของยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% ในปีนี้

]]>
1466486
เปิดแผน 3 ปียกเครื่อง ‘โลตัส’ ใหม่! หมดยุคมุ่ง ‘ขายของ’ แต่เป็น ‘สมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์’ มัดใจ New Gen https://positioningmag.com/1402428 Thu, 29 Sep 2022 10:46:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1402428 ตั้งแต่ปี 2020 ที่ โลตัส (Lotus’s) ได้กลับมาอยู่ในมือ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ อีกครั้งพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Logo ที่สื่อถึงความ Smart มากขึ้น หรือการเปลี่ยนรอยัลตี้โปรแกรมจาก Club Card สู่ My Lotus’s (มายโลตัส) ล่าสุด ก็เตรียม ยกเครื่องสาขาโฉมใหม่ เข้าสู่ New Smart Retail หรือ Retail 5.0

ย้อนดูวิวัฒนาการรีเทล

สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย เล่าถึงเส้นทาง 28 ปีเต็มของโลตัสว่า ในช่วงของ Retail 1.0 นั้น เป็นช่วงเริ่มต้นของ ไฮเปอร์มาร์เก็ต ที่ได้รับอิทธิพลมาจากห้างฯ Walmart ที่จะเป็นเป็นพื้นกว้างมี 2 ชั้น จากนั้นรูปแบบดังกล่าวก็ได้รับความนิยมและกระจายไปทั่วประเทศ

จากนั้นก็มาถึงยุค Retail 2.0 ที่มีความเป็น Mall มากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และเพิ่มความสะดวกสบายซึ่งตอบโจทย์กับพฤติกรรมคนไทยมากกว่า จนมา Retail 3.0 เป็นการมุ่งสู่ ออนไลน์ รวมถึงมีการขยายในรูปแบบ ร้านเล็ก เพื่อกระจายเข้าสู่ชุมชนได้มากขึ้น

มาถึง Retail 4.0 จะเป็นในลักษณะ Multiformat ซึ่งจะเป็นการเชื่อมออนไลน์สู่ออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็นร้านใหญ่ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ เพื่อให้บริการลูกค้าแบบ ไร้รอยต่อ ซึ่งปัจจุบัน โลตัสที่มีสาขารวมกว่า 2,700 สาขา สามารถให้บริการออนไลน์ได้ทุกสาขา และสามารถส่งได้ทั้งแบบ On Demand และ Next Day แต่พาร์ทนี้เป็นแค่ เฟสแรก ของการปรับตัวสู่ออนไลน์ของโลตัสเท่านั้น

Retail 5.0 หน้าร้านเป็นแค่คลังสินค้า

หากพิจารณาถึง Retail 4.0 ก็น่าจะเรียกได้ว่าครบทุกความต้องการแล้ว แต่ สมพงษ์ อธิบายว่า ยังไม่ตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด เพราะแม้จะสามารถสั่งสินค้าออนไลน์จากสาขาใกล้บ้านได้ แต่เนื่องจากความท้าทายหลักของธุรกิจรีเทลคือ สต็อกสินค้า เพราะสาขาในพื้นที่ไกลหรือสาขาย่อย ๆ ไม่ได้มีสินค้ามากเท่าสาขาใหญ่ ๆ ดังนั้น โลตัสต้องการอุดช่องว่างดังกล่าวโดยใช้สาขาเป็นจุด รับพรีออเดอร์สินค้าที่ไม่มีสต็อก โดยคาดว่าภายใน 3 ปีจากนี้ สัดส่วนยอดขายออนไลน์จะเพิ่มจาก 5% เป็น 20%

“ยุคนี้คือการแข่งกันไปถึงมือลูกค้าให้เร็วที่สุด ดังนั้น ใครไปถึงเร็วก็ยิ่งได้เปรียบ ซึ่งเรามีสาขากว่า 2,700 แห่ง ซึ่งได้เปรียบในแง่การกระจายสินค้า แต่จากนี้เราจะใกล้ชิดกับชุมชนมากขึ้น จะเริ่มทำเซอร์เวย์ความต้องการของลูกค้าในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อหาสินค้าที่ตอบโจทย์”

แปลงโฉมโลตัสเป็นสมาร์ทคอมมูนิตี้เซ็นเตอร์

ไม่ใช่แค่ปรับแนวคิดของหน้าร้าน แต่รูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์แบบเดิม ๆ ก็ต้องปรับเป็น สมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์ ให้เหมาะกับ New Gen เพราะคนรุ่นใหม่ ให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ได้มาช้อปเน้นแค่ตอบโจทย์ฟังก์ชันนอล โดยจะมีการปรับดีไซน์ทั้งภายในภายนอก เพิ่มพื้นที่สีเขียว มีส่วน In Door – Out Door เพิ่มปริมาณร้านอาหาร เพิ่มพื้นที่ทำกิจกรรม มีลานกีฬา ลานออกกำลังกาย

“มันเป็นดิสรัปต์ของออนไลน์ ดังนั้น สาขาของโลตัสจะมุ่งแต่การขายของไม่ได้ เพราะออนไลน์ก็ซื้อได้ แต่เราต้องการสร้างประสบการณ์ เป็นพื้นที่ให้คนมาพบปะสังสรรค์ มีร้านค้าที่เทรนด์ดี้มากขึ้น เราหวังว่าพอปรับแล้วลูกค้าจะใช้เวลามากขึ้น จากปกติ 30-40 นาทีเป็น 1-2 ชั่วโมง”

เบื้องต้น โลตัสมีงบลงทุนปีละ 12,000-15,000 ล้านบาท โดยโมเดลสมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์รูปแบบใหม่นี้จะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยภายใน 3 ปีคาดว่าจะสามารถรีโนเวตได้ 146 สาขา ซึ่งสาขา นอร์ธปาร์คราชพฤกษ์ ที่กำลังจะเปิดช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ จะถือเป็นต้นแบบของโมเดลสมาร์ท คอมมูนิตี้ เซ็นเตอร์

“โลตัสเข้าสู่ปีที่ 29 แล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าเราดูแก่ไปหน่อย ดังนั้น เราจึงเริ่มตั้งแต่ปรับโลโก้ใหม่ให้เทรนด์ดี้มากขึ้น แต่สิ่งสำคัญคือ การปรับโฉมโลตัส และเพิ่มสินค้าที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น”

จับตลาดพรีเมียมและอัพเกรดเฮ้าส์แบรนด์

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเริ่มเห็นความต้องการ สินค้าพรีเมียม มากขึ้น ซึ่งจากนี้โลตัสก็จะขยายกลุ่มสินค้าให้ครอบคลุมตั้งแต่ล่าง-กลาง-บน ซึ่งในอดีตอาจไม่ได้เน้นกลุ่มบนมากนัก อีกทั้งจะ อัพเกรดเฮ้าส์แบรนด์ เพื่อลบภาพ Copycat โดยนำข้อมูลลูกค้ามาปรับใช้ให้มีคุณภาพในราคาจับต้องได้

“ที่ผ่านมาเราถนัดในเรื่องการทำราคาสินค้าที่ให้ความรู้สึกคุ้มค่า แต่กลุ่มพรีเมียมเราก็เห็นโอกาสมากขึ้น แต่คงยังไม่ถึงขั้นฟอร์แมทขายของนำเข้า แต่จะเป็นการเพิ่มสินค้าพรีเมียมในสาขาที่เหมาะสม ในแผนขั้นต้นมีไม่ต่ำกว่า 10 สาขา”

มุ่งสู่เพอร์เซอร์นอลไรซ์และความยั่งยืน

เมื่อช่วงต้นปี โลตัสได้ยกเครื่อง รอยัลตี้โปรแกรม จาก คลับการ์ด เป็น My Lotus’s ซึ่งปัจจุบันมีกว่า 23 ล้านบัญชี โดยโลตัสจะใช้เป็นพื้นที่ศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้ เพื่อนำมาใช้ทำกลยุทธ์การตลาด พร้อมทั้งนำเสนอสินค้าและโปรโมชันให้ตรงความต้องการแต่ละคน รวมถึงการปรับร้านให้เหมาะสมกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่ ซึ่งภายใน 3 ปีคาดว่าเครือข่ายของโลตัสจะครอบคลุม 100% ของชุมชน จากปัจจุบันครอบคลุมประมาณ 75%

สำหรับแผน 3-5 ปีข้างหน้า โลตัสจะเน้น ความยั่งยืน มากขึ้น โดยจะเน้น 4 เรื่อง ได้แก่ Health and wellness, Social impact, Circular economy  และ Climate resilience

“ในยุค Retail 1.0 หรือการมาของไฮเปอร์มาร์เก็ต มันเป็นของใหม่ เราทำอะไรมันก็ตอบโจทย์ลูกค้าหมด แต่ตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ความคาดหวังสูงขึ้น รีเทลก็ต้องปรับตัว”

]]>
1402428
มิติใหม่! “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” ทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ จากศูนย์การค้า สู่ SMART Community Center https://positioningmag.com/1358324 Tue, 02 Nov 2021 04:00:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1358324

เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย เมื่อ “โลตัส” เผยโฉมสาขาแห่งใหม่ “นอร์ธ ราชพฤกษ์” ความพิเศษที่เพิ่มความว้าวทำให้สายตาลุกวาวมากอีกหลายระดับก็คือ การอัพลุคให้ดูทันสมัย และไลฟ์สไตล์กว่าเดิม เรียกว่าเป็นการทรานส์ฟอร์มครั้งยิ่งใหญ่ของโลตัสเลยก็ว่าได้ จากศูนย์การค้าและไฮเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบเดิมที่เราคุ้นตา สู่การเป็น SMART Community Center ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองแบบครบวงจร


สร้างมิติใหม่ ไม่ใช่ศูนย์การค้ารูปแบบเดิมๆ

จะเห็นได้ว่าเทรนด์ของธุรกิจค้าปลีกมีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การเข้ามาของธุรกิจออนไลน์ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ค้าปลีกแบบดั้งเดิมต้องแอคทีฟหนักขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่ที่จะเอ็นเกจกับลูกค้าได้มากขึ้น เป็นการกระตุ้นให้ผู้บริโภคออกมาใช้ชีวิตมากขึ้นนั่นเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา “โลตัส” ได้มีการตื่นตัว และปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับยุคสมัยตลอดเวลา ทั้งการเปิดโมเดลใหม่ๆ ขนาดใหม่ๆ เพื่อรองรับโลเคชั่นที่หลากหลาย และเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น หรือการเพิ่มพื้นที่ในส่วนศูนย์การค้า พื้นที่เช่าร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อเป็นแม็กเน็ตในการดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้น

lotus

ล่าสุดโลตัสได้สร้างความตื่นเต้นในวงการค้าปลีกอีกครั้ง กับโครงการ “โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์” เรียกว่าเป็นการทรานส์ฟอร์มจากศูนย์การค้ารูปแบบเดิม ๆ ไปสู่ SMART Community Center แหล่งรวบรวมทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ที่ออกกำลังกาย พื้นที่สีเขียว ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง และทุกคนในครอบครัวได้อย่างครบวงจร

ที่สำคัญคือรูปแบบการดีไซน์ที่สะดุดตา ดูเรียบหรูทันสมัย ปรับลุคจากภาพโลตัสแบบเดิมๆ ไปเลยทีเดียว เป็นการสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้ง และการใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ ซึ่งสาขานี้นี่เองจะขึ้นแท่นเป็นสาขาแฟล็กชิพสโตร์ และจะเป็นต้นแบบให้การพลิกโฉมสาขาอื่น ของโลตัสให้เป็นมอลล์แห่งอนาคตต่อไปด้วย


ราชพฤกษ์ ทำเลศักยภาพแห่งอนาคต

ความว้าวสิ่งแรกของโครงการ โลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ ต้องยกให้ทำเลที่ตั้งของย่านราชพฤกษ์ จะเห็นได้ว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ราชพฤกษ์ขึ้นแท่นเป็นทำเลทองของหลายธุรกิจที่ต้องเข้ามาจับจองให้จงได้ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เพราะถนนราชพฤกษ์เป็นถนนที่มีจุดเชื่อมหลายโซนสำคัญในกรุงเทพฯ ตั้งแต่สาทร เพชรเกษม บรมราชชนนี ยาวไปจนถึงนนทบุรี และปทุมธานี กลายเป็นย่านสำคัญที่น่าจับตาเมืองสำหรับโซนฝั่งธนฯ

ซึ่งโครงการนอร์ธ ราชพฤกษ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 16 ไร่ บนถนนราชพฤกษ์ รายล้อมไปด้วยหมู่บ้านจัดสรร และแหล่งที่พักอาศัยที่มีศักยภาพสูง เชื่อมต่อด้วย ถนนและระบบขนส่งสาธารณะเข้าสู่ใจกลางกรุงเทพอย่างสะดวกสบาย และรวดเร็ว

lotus

โครงการนี้พร้อมเป็น SMART Community Center แห่งใหม่สำหรับประชากรกว่า 200,000 คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 6 กิโลเมตรรอบโครงการ และเป็นเดสติเนชั่นแห่งใหม่ในการทำกิจกรรมมากมายสำหรับชาวราชพฤกษ์ และชาวฝั่งธนอีกด้วย

จากการสำรวจในย่านนี้พบว่า

• 87% ของประชากรในรัศมีใกล้เคียง มองหากิจกรรมให้สมาชิกในครอบครัวทำร่วมกัน

• 84% เป็นนักช้อป

• 72% ต้องการสถานที่สำหรับ chillax

• 63% มองหาแหล่งพบปะสังสรรค์ นอกจากนั้น ยังมีบางส่วนที่มองหาแรงบันดาลใจ และกิจกรรมสนุกๆ ทำ

กลุ่มคนที่อาศัยในย่านนี้ก็มีศักยภาพสูง เมื่อดูจากค่าเฉลี่ยของการไปศูนย์การค้าสูงถึง 4.5 ครั้งต่อเดือน และความต้องการ ศูนย์รวมที่เป็นมากกว่าแค่ห้างสรรพสินค้า แต่ต้องเป็นเดสติเนชั่นที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการ และทุกไลฟ์สไตล์ของชาวราชพฤกษ์ให้ได้อย่างลงตัว

lotus


ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร

คอนเซ็ปต์สำคัญของโครงการนอร์ธ ราชพฤกษ์นั้น คือการเป็นมากกว่าศูนย์การค้า และเป็น SMART Community Center ที่พร้อมจะให้ทุกคนได้สนุกกับการใช้ชีวิตในแบบ SMART ตลอด 24 ชั่วโมง ให้ทุกคนรู้สึกดีดีทุกวัน โดยไม่มีขีดจำกัดของเวลา เรียกว่ามีการรองรับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเพศ ทุกวัย

บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ถูกจัดสรร และแบ่งสัดส่วนได้อย่างลงตัว บริเวณชั้น 1 ดีไซน์แบบ Open Air และพื้นที่สีเขียว ผสมผสาน Indoor & Outdoor โดยมี Mega Food Store ขนาด 5,000 ตารางเมตร ลบภาพไฮเปอร์มาร์เก็ตแบบเดิมๆ ทั่วไปไปได้เลย เพราะที่นี่จะเป็นแหล่งรวมของอาหารนานาชนิด ทั้งอาหารสด ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ อาหารแปรรูป อาหารปรุงสำเร็จ อาหารแห้ง และข้าวของเครื่องใช้ในบ้านต่างๆ โดยที่การจัดเรียงสินค้าก็จะไม่เหมือนกับในไฮเปอร์มาร์เก็ตที่คุ้นชิน แต่มีการจัดวางที่โดดเด่น

lotus

เมื่อมาดูแต่ละโซนภายในโครงการ พบว่ามีทุกโซนที่รองรับทุกคนในครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็น

– Beauty & Lifestyle Zone จำหน่ายสินค้าเพื่อความงาม เครื่องสำอาง สกินแคร์ อาหารเสริม ไปจนถึงร้านทำเล็บ

– Home & Living Zone นำเสนอเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว

– Lotus’s X true Smart Living Zone: showcase อุปกรณ์ IoT ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

– Lotus’s Eats โซนที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังไว้ที่นี่

– นอกจากนี้ยังมีโซนเทคโนโลยี, แฟชั่น, สุขภาพ และความงาม รวมไปถึงการเงิน ธนาคารด้วย

เรียกว่าได้ว่า แค่ภายในโครงการเดียว สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้ตลอดทั้งวัน ใครที่เป็นสายแอคทีฟ ก็สามารถมาออกกำลังที่ฟิตเนสที่เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง หรือจะพักผ่อนกับครอบครัวและสัตว์เลี้ยงที่สวนหย่อมใจกลางโครงการก็ได้เช่นกัน

lotus

ถ้าใครที่เป็นสายกินดื่มที่นี่ก็มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่ที่หลากหลาย เหมาะกับทุกคนในครอบครัว แถมยังมีซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าครบครัน อาหารสดคุณภาพสูงจากทั่วทุกมุมโลก อาหารพร้อมทานหลากหลาย ของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึง Lotus’s Eats สวรรค์ของนักกิน และมีแหล่งแฮงค์เอาท์สำหรับสังสรรค์ในยามค่ำคืนอีกด้วย

หรือถ้าใครสายช้อปปิ้ง ก็มีสินค้าแฟชั่น สินค้าเพื่อความงาม สินค้าสำหรับตกแต่งบ้าน แก็ดเจ็ตล้ำๆ ให้เลือกซื้อมากมาย ส่วนถ้าใครเป็นสาย Working ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน ที่นี่ก็มี Co-Working Space สำหรับทำงานได้อย่างสะดวกสบายได้ตลอด 24 ชั่วโมง


รองรับชีวิตติดเทคโนโลยี

อีกหนึ่งความว้าวที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ โลตัสสาขานี้จะผสมผสานดิจิทัล เทคโนโลยีเข้ามา เพื่อรองรับพฤติกรรมที่สมาร์ทมากขึ้น ปรับตัวสู่ New Retail ที่ทันสมัยก่อนใครเพื่อน

ที่โครงการแห่งนี้จะนำดิจิทัลเข้ามาใช้ทั่วทั้งโครงการ เพื่อเปิดประสบการณ์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย และสะดวกสบายในแบบ 5G จะทำให้ลืมภาพช้อปปิ้งแบบเดิมๆ ไปเลย ยกตัวอย่างเช่น

– Digital price tag ป้ายราคาสินค้าภายในร้านที่ถูกต้องและแม่นยำ ปรับเปลี่ยนแบบเรียลไทม์

– Indoor Positioning และ AR Technology ช่วยนำทางให้กับลูกค้าภายในโครงการ

– Self-Checkout และการจ่ายเงินแบบ Cashless ผ่าน e-Wallet และ QR code

– EV Charging Station จุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ที่ตอนนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว

– Smart Parking ที่จอดรถอัจฉริยะ ช่วยให้ลูกค้าตรวจสอบที่จอดรถผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างง่ายๆ การลืมที่จอดก็ไม่ได้เป็นปัญหาอีกต่อไป

อีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญก็คือ โลตัสสาขานี้จะเป็นสาขาแรกที่มี Unmanned Store หรือร้านค้าที่ไม่มีมนุษย์ให้บริการ เป็นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาบริหารทั้งหมด พร้อมกับโมเดล Grab & Go เพื่อความสะดวกรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม เหมาะกับยุค New Normal เป็นอย่างมาก ช่วยลดการสัมผัส และสร้างความสะดวกสบายอย่างที่สุด

จากที่กล่าวมาข้างต้นนี้ สามารถบอกได้คำเดียวว่า ตั้งตารอที่จะสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของโลตัส นอร์ธ ราชพฤกษ์ อย่างใจจดใจจ่อ เพราะโครงการนี้ไม่ใช่แค่เข้ามาเปลี่ยนลุคของโลตัสให้ทันสมัยขึ้น แต่ยังสร้างสีสันให้วงการค้าปลีกให้ดูคึกคักมากขึ้นไปอีก ที่สำคัญคือ ยังตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคอย่างแท้จริงด้วย

]]>
1358324