Reuters รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าววงในรายหนึ่งว่า William Li ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Nio ได้เข้าพบและพูดคุยกับ Ola Kaellenius ซีอีโอ Mercedes ถึงความเป็นไปได้ที่ Mercedes จะมาร่วมลงทุนกับ Nio โดยฝ่ายบริษัทจีนเสนอจะแบ่งปันข้อมูลการวิจัยและพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากับทางค่ายเยอรมันเป็นการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ แหล่งข่าวแจ้งว่าการเจรจายังไม่ถึงจุดที่ลงรายละเอียดการถ่ายโอนเทคโนโลยีและเม็ดเงินการลงทุนระหว่างกัน
แหล่งข่าวอีกรายหนึ่งกล่าวว่า ฝ่าย Nio เป็นผู้ยื่นข้อเสนอให้กับ Mercedes เอง แต่ก็มีความกังวลอยู่ว่าทางฝั่งเยอรมันจะมีแรงต่อต้านจากภายในบริษัท เป็นไปได้ว่าฝั่งเยอรมันอาจจะไม่รับข้อเสนอ
ยังไม่แน่ชัดว่าการตัดสินใจของการร่วมทุนครั้งนี้จะสัมฤทธิ์ผลเมื่อใด
อย่างไรก็ตาม จากการติดต่ออย่างเป็นทางการโดย Reuters บริษัท Nio ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการติดต่อเรื่องร่วมทุนกับ Mercedes แจ้งเพียงว่า “ไม่เป็นความจริง” ขณะที่ฝั่ง Mercedes ตอบกลับเช่นกันว่าไม่ได้มีแผนการร่วมงานกับ Nio ในตอนนี้
ข่าวเรื่องการเจรจาเพื่อหาทางร่วมทุนกันระหว่าง Nio กับ Mercedes ถือเป็นภาพหนึ่งในเทรนด์ปัจจุบันของวงการรถยนต์ โดยค่ายรถยนต์กลุ่มสตาร์ทอัพในฝั่งจีนจะพยายามหาการร่วมทุนจากค่ายรถยนต์ดั้งเดิม โดยยื่นข้อเสนอเรื่องนวัตกรรมที่พวกเขามี แลกกับเงินลงทุนเพื่อต่อสายป่านให้ยาวขึ้น ใช้ในการต่อสู้กับการแข่งขันในจีนที่สูงมาก รวมถึงค่ายรถจีนจะได้ประโยชน์ในการทะลวงกำแพงทางการค้าของฝั่งตะวันตกได้ง่ายขึ้นด้วย
ขณะที่ฝั่งค่ายรถดั้งเดิมก็ต้องหาทางตามให้ทันเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เพราะต้องแข่งขันกับ Tesla ที่เป็นเจ้าตลาดฝี่งตะวันตก และกับแบรนด์รถอีวีจีนเองที่กำลังเร่งเข้าสู่ตลาดโลกอยู่ขณะนี้
ในเทรนด์การรวมตัวเพื่อต่อสู้ในลักษณะนี้ Volkswagen คือเจ้าแรกที่เริ่มเดินหน้าก่อน โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา บริษัทเซ็นสัญญากับ Xpeng เพื่อร่วมพัฒนารถยนต์รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีนโดยเฉพาะ วางกรอบไว้ว่าจะเป็นการพัฒนารถอีวีขนาดกลาง 2 รุ่น ภายใต้แบรนด์ Volkswagen คาดจะออกจำหน่ายปี 2026
สำหรับ Nio บริษัทที่มียอดขายเป็นอันดับ 9 ในตลาดรถจีน เป็นสตาร์ทอัพที่มีแบ็กอัพนักลงทุนรายใหญ่คือ Tencent Holdings ยักษ์ไอทีจีน ปัจจุบันบริษัทนี้ยังไม่เคยมีดีลร่วมงานกับแบรนด์รถยนต์ดั้งเดิมเลย และพวกเขาเปิดเผยชัดเจนว่าต้องการจะมีดีลลักษณะนี้อย่างยิ่ง
“(แบรนด์รถยนต์ดั้งเดิม) พวกเขาประสบความสำเร็จมากเสียจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วในโลกของการพัฒนารถอีวี นี่เป็นความท้าทายของซีอีโอคนใดก็ตามที่ต้องมาบริหารบริษัทซึ่งมีพนักงานหลายแสนคน” William Li ผู้ก่อตั้ง Nio กล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานอีเวนต์หนึ่งในเดือนกันยายนนี้เอง ในงานนั้น Nio เข้าไปจัดแสดงเทคโนโลยีแบตเตอรี ชิปเซ็ต ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ และการผลิตอัจฉริยะที่บริษัทคิดค้นขึ้นเอง
“แทนที่จะลงทุนเงินและเวลาด้วยตนเอง ไม่ดีกว่าหรือถ้าจะมาพาร์ทเนอร์กับสตาร์ทอัพรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้เกิดประโยชน์แบบ วิน–วิน” Li กล่าว
]]>ต้องบอกว่าถ้าพูดถึงงานแสดงรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นมอเตอร์โชว์ หรือมอเตอร์ เอ็กซ์โป สิ่งที่ขึ้นชื่อที่สุดอาจจะไม่ใช่นวัตกรรมของรถยนต์ แต่เป็น “พริตตี้” ภายในงาน ซึ่งพริตตี้ไม่ใช่แค่คนที่คอยสร้างสีสันอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นเหมือนวัฒนธรรมประจำงานไปเลยก็ว่าได้
วัฒนธรรมพริตตี้ภายในงานแสดงรถยนต์จึงมีความเข้มข้นมากขึ้นทุกปี ยิ่งการเข้ามาของโลกดิจิทัล ทำให้คนแชร์ภาพมากขึ้น จึงทำให้ค่ายรถยนต์หลายค่ายต่างต้องใช้พริตตี้ตัวท็อปๆ ยิ่งแต่งกายวาบหวิว คนยิ่งสนใจมากเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้เอง อาจจะทำให้หลายคนมองภาพของพริตตี้ในแง่ลบ
แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ เริ่มมีกระแสของความเท่าเทียมทางเพศมากขึ้น Mercedes-Benz (เมอร์เซเดส–เบนซ์) จึงประกาศปรับเปลี่ยนค่านิยมใหม่ เพื่อให้ความสำคัญกับความหลากหลาย (diversity) และความเท่าเทียมโดยเริ่มจากการเปลี่ยน “ค่านิยม” ที่อยู่คู่กับงานจัดแสดงรถยนต์
Mercedes-Benz ประกาศเปลี่ยนวัฒนธรรมการใช้พรีเซ็นเตอร์ ที่ทุกคนรู้จักในนามพริตตี้ ที่ช่วยโปรโมตรถยนต์ในงาน อีเวนต์ต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ถู
Mercedes-Benz จึงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้
พรีเซ็นเตอร์…ที่ไม่จำกัดเพศ สีผิว หรือรูปร่าง
พรีเซ็นเตอร์…ที่ไม่จำเป็นต้
พรีเซ็นเตอร์…ที่ได้รั
เรียกว่า “Digital Guide” (ดิจิทัล ไกด์) กลุ่มคนที่จะมาทำหน้าที่
ภายในภาพยนตร์โฆษณาจะเห็นว่า Digital Guide ไม่จำกัดเพศ ไม่ว่าจะชาย หญิง หรือ LQBTQ+ มาในลุคยูนิฟอร์มแบบ Unisex มีความทะมัดทะแมง ทันสมัย ลบภาพพริตตี้ที่แต่งกายด้วยชุดโชว์เนื้อหนัง และแต่งหน้าสวยๆ ไปได้เลย
]]>