โดยร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการ จะสามารถสั่งยารักษาโควิด ‘ฟรี’ จากรัฐบาลกลางได้โดยตรง ตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป

ปัจจุบันร้านขายยาต้องพึ่งพารัฐในการรับยา โดยรัฐบาลจะส่งยาไปให้ร้านขายยาที่ได้รับคัดเลือก รวมทั้งศูนย์ชุมชนโดยตรง ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการจาก 20,000  แห่งในปัจจุบันให้เป็น 40,000 แห่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ที่ผ่านมาพบว่าจำนวนผู้รับยา Paxlovid ฟรีนั้นต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากมีข้อกำหนดเเละขั้นตอนที่ยุ่งยาก ประกอบการตรวจหาเชื้อเริ่มลดลงและหลายคนก็กังวลผลข้างเคียงของยา

อย่างไรก็ดี ยา Paxlovid ถือจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาโรคโควิด-19 จากผลการทดลองทางคลินิกพบว่า ยาดังกล่าวช่วยให้กลุ่มเสี่ยงสูง มีอัตราการเข้าโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตลงได้ถึง 90% ขณะที่ยาขนานอื่นอย่าง molnupiravir และ Remdesivir มีประสิทธิภาพน้อยกว่า

โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ทำการสั่งซื้อยาก Paxlovid มากถึง 20 ล้านเม็ดสำหรับรักษาผู้ป่วยในราคา 530 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 18,147 บาท) ต่อคอร์ส ซึ่งบริษัทผู้ผลิตอย่างไฟเซอร์ ได้ตั้งเป้าผลิตให้รัฐบาลได้ 3.5 ล้านคอร์สภายในสิ้นเดือนเมษายนนี้

แต่นับจนถึงกลางเดือนนี้ รัฐบาลเพิ่งแจกจ่ายไปเพียง 1.5 ล้านคอร์สเท่านั้น และร้านขายยายังมียาเหลือมากกว่า 500,000 คอร์ส

สหรัฐฯ เตรียมจะเพิ่มสถานที่ตรวจหาเชื้อในโครงการ ‘Test to Treat’ เพื่อให้สามารถรับการตรวจหาเชื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป แล้วรับยารักษาฟรีทันทีหากมีผลตรวจเป็นบวก ปัจจุบันมีร้านขายยาเข้าร่วมในโครงการ 2,200 แห่ง เเละจะมีร้านเข้าร่วมทางออนไลน์เพิ่มอีก 10,000 แห่งในเร็วๆนี้

• สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย จะหยุดผลิต ‘วัคซีนโควิด’ ล็อตใหม่ หลังกำลังผลิตล้นทั่วโลก
• WHO เดินหน้าเผยแพร่ ‘เทคโนโลยีวัคซีนโควิด’ สู่ประเทศยากจนให้ผลิตได้เอง

ที่มา : Reuters 

ทางบริษัทระบุว่ายาเม็ด “โมลนูพิราเวียร์” แสดงประสิทธิภาพลดความเสี่ยงติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิต 30% เมื่อเทียบกับผู้ใช้ยาหลอก ในการทดลองที่ใช้อาสาสมัครคนไข้ทั้งหมด 1,400 คน หลังจากเมือเดือนที่แล้ว เมอร์คเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นในตัวอย่างกลุ่มคนไข้ที่เล็กกว่านี้ ระบุว่ายาเม็ดของพวกเขามีประสิทธิภาพลดความเสี่ยง ติดเชื้ออาการหนักถึงขั้นเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลหรือเสียชีวิตราวๆ 50%

ในการวิเคราะห์เต็มรูปแบบ มีรายงานพบผู้เสียชีวิต 1 รายในกลุ่มผู้ใช้ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์ และพบผู้เสียชีวิต 9 คนในกลุ่มผู้ใช้ยาหลอก

อย่างไรก็ตามทางบริษัทะบุว่าข้อมูลใหม่นี้ยังคงสนับสนุนประสิทธิภาพและคำประเมินประโยชน์กับความเสี่ยงในแง่ดีโดยรวมของการใช้ยาเม็ดโมลนูพิราเวียร์รักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 อาการเล็กน้อยถึงปานกลางในวัยผู้ใหญ่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการลุกลามของโรค

เมอร์คเผยว่าได้แบ่งปันข้อมูลเพิ่มเติมนี้กับสำนักงานอาหาร และยาแห่งชาติสหรัฐฯ (FDA) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่หน่วยงานดังกล่าวอยู่ระหว่างการทบทวนอนุมัติ

โมลนูพิราเวียร์ ซึ่งทางเมอร์คพัฒนาร่วมกับริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ได้รับอนุมัติใช้ในสหราชอาณาจักรเป็นทีเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบแห่งสหภาพยุโรปกำลังอยู่ระหว่างพิจารณาทบทวน

ก่อนหน้านี้เมอร์คได้ลงนามในข้อตกลงกับองค์กรสิทธิบัตรยาร่วม (Medicines Patent Pool : MPP) สำหรับเปิดทางให้บรรดาประเทศยากจนทั้งหลายเข้าถึงยาตัวดังกล่าว

Source