สถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (Serum Institute of India) ผู้ผลิตวัคซีนรายใหญ่ที่สุดของโลกและเป็นผู้จัดจำหน่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 รายสำคัญให้กับกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา เตรียมหยุดการผลิตวัคซีนล็อตใหม่ หลังมียอดสต็อกเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านโดส ท่ามกลางภาวะการผลิตวัคซีนที่เหลือล้นทั่วโลก
“เรามีสต็อกอยู่ราว 200 ล้านโดส เเละต้องการจะปิดการผลิตในเดือนธันวาคม” Adar Poonawalla ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสถาบันเซรุ่มฯกล่าว
โดยเขาเเสดงความกังวลถึง การหมดอายุของวัคซีนเเละเสนอให้ ‘บริจาคฟรี’ กับใครก็ตามที่ต้องการใช้
ความเคลื่อนไหวของ Serum Institute of India สะท้อนให้เห็นถึงปริมาณการผลิตวัคซีนที่ล้นเกิน ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ต้องการอย่างมากเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด
บรรดาผู้ผลิตวัคซีนทุ่มทุนเพิ่มกำลังการผลิตจำนวนมากในปีที่ผ่านมา เเต่ปัจจุบันประเทศส่วนใหญ่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิดครอบคลุมเเล้ว พร้อมปรับตัวใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับไวรัสทั่วโลก (ยกเว้นจีนและฮ่องกง) ทำให้ความเร่งด่วนในการฉีดเข็มบูสเตอร์ก็ลดลงตามไปด้วย
โดยเฉพาะในอินเดีย ที่เคยมีการระบาดหนัก จนถึงขั้นสั่งห้ามส่งออกวัคซีนที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการผลิตที่เพียงพอสำหรับประชากรในท้องถิ่น เเต่ตอนนี้อัตราการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับสูงเเล้วเเละเปิดให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถฉีดเข็มที่ 3 ได้
Serum Institute of India ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์หลักของโครงการ Covax จัดหาวัคซีนให้กับประเทศกำลังพัฒนา ที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก เผยว่า กำลังร่างสนธิสัญญาเกี่ยวกับโรคระบาด เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนวัคซีนอย่างเสรี และประสานงานเเลกเปลี่ยนทรัพยากรที่จำเป็น อย่างวัตถุดิบสำหรับการผลิตวัคซีนเพื่อรับมือในวิกฤติครั้งต่อไป
โดยได้อ้างถึง มาตรการกีดกันการเข้าถึงวัคซีนของประเทศร่ำรวยอื่นๆ ที่นำไปสู่การ ‘ขาดแคลนวัตถุดิบ’ อันเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตวัคซีนในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ได้
- WHO เดินหน้าเผยแพร่ ‘เทคโนโลยีวัคซีนโควิด’ สู่ประเทศยากจนให้ผลิตได้เอง
- เตือนประเทศร่ำรวย อย่า ‘กักตุนวัคซีน’ ฉีดกระตุ้นสู้โอมิครอน กระทบประเทศยากจน
ที่มา : Bloomberg