Play Station 5 – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 19 Feb 2024 09:30:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 มูลค่า ‘Sony’ หาย 1 หมื่นล้านเหรียญ หลังคาดยอดขาย ‘PS5’ และ ‘กำไร’ ที่ลดลงเกินควร https://positioningmag.com/1463160 Mon, 19 Feb 2024 05:14:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1463160 แม้ว่าผลประกอบการประจำไตรมาส 4/2023 ของ โซนี่ (Sony) จะเติบโตถึง 22% เป็น 3.75 ล้านล้านเยน และมีกำไรสุทธิ 3.64 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้น 13% แต่บริษัทก็คาดว่าในไตรมาส 1/2024 นี้กำไรจะลดลง พร้อมกับปรับคาดการณ์ยอดขาย Play Station 5 ด้วย ส่งผลให้มูลค่าบริษัทลดฮวบถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากเจาะไปที่รายระเอียดรายได้ของ โซนี่ ในไตรมาสที่ผ่านมาพบว่า ธุรกิจเกม สูงถึง 1.44 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น +16% แต่ กำไร ในส่วนนี้กลับ ลดลง 26% จาก 1.16 แสนล้านเยน เหลือ 8.61 หมื่นล้านเยน โดยปัจจัยหลักมาจากการทำโปรโมชัน PS5 และยอดขายเกม first-party ที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสที่ผ่านมา PS5 ขายได้เพิ่มอีก 8.2 ล้านเครื่อง

ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ของโซนี่ยังคงเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ภาพ เพิ่มขึ้น 21% ธุรกิจการเงิน โดยเฉพาะรายได้จากธุรกิจประกันภัยที่เพิ่มขึ้น 1,100% ยกเว้น ธุรกิจมือถือ ที่ ลดลง 18% และนับเป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันรายได้ในแผนกนี้ลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก

ผลจากการดำเนินงานส่วนธุรกิจเกม ทำให้โซนี่ได้ปรับลดคาดการณ์ตัวเลขผลประกอบการไตรมาสสุดท้ายที่จะสิ้นสุดมีนาคม 2024 ที่ 4.15 ล้านล้านเยน ลดลง 2.1 แสนล้านเยน และปรับคาดการณ์ส่วนยอดขาย PS5 ที่คาดว่าจะมียอดขาย 25 ล้านเครื่องตลอดปีงบประมาณ เหลือ 21 ล้านเครื่อง

ส่งผลให้มูลค่าตลาดของโซนี่ลดลง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยนักวิเคราะห์มองว่า โซนี่นั้นตั้งเป้าหมายยอดขาย PS5 สูงเกินไป แต่ปัญหาจริง ๆ ไม่ใช่ยอดขายที่ไม่เข้าเป้า แต่เป็น อัตรากำไรที่ลดลงในธุรกิจเกม โดยในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา อัตรากำไรของธุรกิจเกมอยู่ที่ประมาณ 12-13% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 6-9% ซึ่งต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี

“การลดการคาดการณ์การจัดส่งสำหรับ PS5 ไม่ใช่สิ่งที่น่าผิดหวัง แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือ อัตรากำไรจากการดำเนินงานในระดับต่ำ” Atul Goyal นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ของ Jefferies กล่าว

นอกจากนี้ Goyal ยังมองว่า โซนี่ควรมีกำไรจากเกมถึง 20% ด้วยซ้ำ เพราะหากนับเฉพาะการสมัครสมาชิก PS Plus ที่มีอัตรากำไรสูงถึงประมาณ 50% ซึ่งรายได้จากการขายคอนเทนต์ดิจิทัล เนื้อหาเสริม และการดาวน์โหลดดิจิทัลนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ แต่กลับมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำในรอบ 10 ปีเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

ส่งผลให้นักวิเคราะห์เริ่มตั้งคำถามว่า ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงนี้ อัตรากำไรจากการดำเนินงานของแผนกเกมยังคงตกต่ำอยู่ได้อย่างไร โดย Serkan Toto ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Kantan Games บริษัทที่ปรึกษาด้านเกมในโตเกียว มองว่า ต้นทุนการผลิตฮาร์ดแวร์ลดลง เนื่องจาก PlayStation 5 มีอายุมากกว่า 3 ปีแล้ว และปัจจุบัน โซนี่น่าจะประหยัดต้นทุนการผลิตได้มากขึ้น แต่สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้อัตรากำไรถูกบีบมากขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็คือ ต้นทุนการผลิตซอฟต์แวร์หรือเกมที่เพิ่มขึ้น

Source

]]>
1463160
Sony คาด ยอดขาย PlayStation 5 ในปีหน้าจะอยู่ที่ 23 ล้านเครื่อง หลังปีนี้ทำได้เกินเป้า https://positioningmag.com/1406378 Wed, 02 Nov 2022 08:09:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1406378 โซนี่ (Sony) ได้คาดการณ์ว่ายอดขายของ PlayStation 5 ในปีหน้าจะอยู่ที่ 23 ล้านเครื่อง โดยในปีนี้ยอดขายเครื่องเกมคอนโซลรุ่นใหม่ดังกล่าวนี้ทำไปได้มากถึง 25 ล้านเครื่อง มากกว่าที่บริษัทคาดไว้ที่ 18 ล้านเครื่อง แม้ว่าในปีนี้บริษัทจะพบกับอุปสรรคจากการผลิตก็ตาม

โดยในการรายงานผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของบริษัท Sony ได้รายงานถึงยอดขาย PlayStation 5 ว่าอยู่ที่ 25 ล้านเครื่อง ซึ่งทำได้ดีกว่าเป้าที่บริษัทวางไว้ในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 18 ล้านเครื่องเท่านั้น แม้ว่าบริษัทจะต้องลดกำลังการผลิตลงมาเนื่องจากปัญหา Supply Chain และปัญหาขาดแคลนชิปก็ตาม

แต่เนื่องจากความต้องการของลูกค้าจำนวนมากที่ต้องการเกมคอนโซลรุ่นล่าสุดของบริษัท ส่งผลทำให้ยอดขายยังเติบโตดีกว่าคาด แม้ว่าจะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ เนื่องจากต้นทุนการผลิตของ PlayStation 5 สูงขึ้นรวมถึงสกุลเงินต่างๆ ทั่วโลกได้อ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี Sony เองไม่ได้ปรับราคาของ PlayStation 5 ในสหรัฐอเมริกาขึ้นแต่อย่างใด

สำหรับในปี 2023 บริษัทคาดว่ายอดขาย PlayStation 5 นั้นจะอยู่ที่ 23 ล้านเครื่อง ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่ยอดขายนั้นอาจทำได้ดีกว่าเป้าที่บริษัทคาดการณ์ เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคยังสูง

ในไตรมาสล่าสุดของ Sony รายได้ส่วนของธุรกิจเกมอยู่ที่ 720,700 ล้านเยน เติบโต 12% เมื่อเทียบกับปี 2021 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดีกำไรในส่วนธุรกิจเกมนั้นลดลงมาอยู่ที่ 42,100 ล้านเยน เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเกม ต้นทุนของธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น และรวมถึงเม็ดเงินที่นำไปใช้ในการซื้อสตูดิโอผู้พัฒนาเกมด้วย

ที่มา – IGN

]]>
1406378
‘ซินเน็ค’ จับ ‘NADZ’ – ‘NGIN’ 2 พันธมิตรใหม่ลุยตลาด ‘เกม’ ชิงส่วนแบ่ง 3 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1368984 Tue, 28 Dec 2021 05:32:02 +0000 https://positioningmag.com/?p=1368984 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาตลาด ‘เกมมิ่ง’ ถือเป็นดาวรุ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยิ่งในช่วงที่ COVID-19 ระบาดตลาดยิ่งเติบโตเนื่องจากคนมีเวลาว่างมากขึ้น ซินเน็ค (SYNEX) ดิสทริบิวเตอร์สินค้าไอทีรายใหญ่ในไทยเองก็พยายามจะจับตลาดเกมมิ่งมากขึ้น โดยล่าสุดได้จับมือ NADZ-NGIN เพื่อเสริมแกร่งในตลาดเกม

ย้อนไปเมื่อปี 2020 ซินเน็คได้เป็นตัวแทนจำหน่ายเกมมิ่งเกียร์ระดับโลกอย่างแบรนด์ Razer ส่งผลให้ครองมาร์เก็ตแชร์ในพอร์ตเกมมิ่งโน้ตบุ๊กรวมกับเกมมิ่งเกียร์อันดับหนึ่งในประเทศไทย โดยมีแบรนด์ในมือกว่า 30 แบรนด์ ล่าสุด ได้ออกมาประกาศว่าได้จับมือกับ บริษัท เนคท์ เจเนอเรชั่น อินโนเวชั่น จำกัด (NGIN) ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายนำเข้าเกมคอนโซล และแผ่นเกมในไทย ซึ่งมีสินค้าเด่น ๆ อย่าง Nintendo Switch และ Play Station 5 (PS5)

นอกจากนี้ ซินเน็คยังได้จับมือกับ บริษัท แน๊ดซ์โปรเจค จำกัด (NADZ) ร้านจำหน่ายสินค้าในกลุ่มเกมคอนโซล และซอฟต์แวร์เกม เบื้องต้น ทาง NADZ จะเข้ามาเปิดช็อป NADZ by Synnex ภายในร้านค้าตัวแทนของซินเน็ค เริ่มจากในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และในต่างจังหวัดอีก 19 แห่ง

ปัจจุบัน ซินเน็คมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าไอทีกว่า 5,000 ช่องทาง และบริการหลังการขายสินค้าเกมมิ่งที่ครบวงจร ดังนั้น การจับมือกับทั้ง 2 บริษัทจะทำให้ซินเน็คขยายพอร์ตสู่ตลาดเกมคอนโซล และเข้าถึงเหล่าเกมเมอร์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะแผ่นเกม และเครื่องคอนโซล PlayStation 5

“สินค้าไอทีปรับไปที่เกมมากขึ้น เพราะคนไม่ได้แค่เรียนหรือทำงานออนไลน์ แต่หันมาเล่นเกมมากขึ้น และตอนนี้เกมขาเกมขาดตลาดมากสุด”

ทั้งนี้ ตลาดเกมของไทยมีมูลค่าราว 33,000 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10-15% โดยแบ่งเป็นเกม Mobile 67%, PC 24% และ คอนโซล 9% ส่วนเฉพาะมูลค่าของ ฮาร์ดแวร์ คาดว่ามีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นตลาดที่จะสร้างการเติบโตให้กับซินเน็ค

“ตลาดเกมดีตรงที่มีคนยอมจ่ายคล้ายกับ Apple แม้เศรษฐกิจไม่ดี แต่ขอแค่มีของคนก็ยอมจ่าย ซึ่งเราเห็นโอกาส เห็นการเติบโต และผู้เล่นในไทยแข็งแรงให้เราต่อยอดได้อย่างก้าวกระโดด”

สำหรับกลยุทธ์ในอนาคต ซินเน็คต้องการเป็นมากกว่าแค่ดิสทริบิวเตอร์สินค้าไอที แต่เริ่มขยายให้ครอบคลุมอีโคซิสเต็มส์ เช่น เซอร์วิสที่จะมีบริการออนไซส์ เริ่มเข้าไปลงทุนในตลาดมือ 2 เพื่อทำให้บริษัทมีช่องทางมากขึ้น นอกจากนี้ยังทำ House Brand เพื่อเพิ่มกำไรให้บริษัท และสิ่งที่ยังขาดคือ ซอฟต์แวร์เกม ที่ยังไม่ได้แตะ แต่สนใจทำในอนาคตเพื่อให้ครบวงจร

สำหรับการเติบโตในปี 63 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ 2 หลัก และในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้ 40,000 ล้านบาท โดยรายได้จากกลุ่มเกมมิ่งจะเติบโตได้ 2 หลัก จากที่ปัจจุบันสินค้าเกมมิ่งคิดเป็น 15% ของสัดส่วนรายได้ อย่างไรก็ตาม ปัญหาซัพพลายเชนยังคงส่งผลกระทบ อาจต้องรอดูสถานการณ์อีกที แต่มองว่าปีหน้าน่าจะดีขึ้น

]]>
1368984
เกมเมอร์ทำใจ! Sony ประกาศลดกำลังผลิต ‘Ps5’ เหลือ 15 ล้านเครื่อง เซ่นปัญหาขาดแคลนชิป https://positioningmag.com/1362012 Mon, 15 Nov 2021 05:10:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1362012 เป็นเวลา 1 ปีแล้ว หลังจาก Sony เปิดตัว Play Station 5 หรือ Ps5 ซึ่งสามารถทำยอดขายได้ 13.4 ล้านเครื่องทั่วโลก อย่างไรก็ตาม เครื่องเกมคอนโซลก็ยังเป็นของหายาก เพราะยอดขายที่มากกว่ากำลังการผลิตจะผลิตได้ เนื่องจากทั้งปัญหาการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลต่อการผลิต และการขาดแคลนชิป

ก่อนหน้านี้ Sony ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทได้ซื้อชิปเซมิคอนดักเตอร์มามากพอที่จะบรรลุเป้าหมายยอดขายในปีงบประมาณปัจจุบันที่ 14.8 ล้านเครื่อง แต่บริษัทก็ยังได้ชี้แจงด้วยว่า เนื่องจากสถานการณ์ทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ดังนั้น มีความเป็นไปได้ที่การผลิตอาจต้องหยุดชะงักลง

อย่างไรก็ตาม รายงานโดย Bloomberg ได้อ้างว่าปัญหาด้านผลกระทบจาก COVID-19 ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ Sony ยังต้องประสบปัญหาในการจัดหาชิปในการผลิต Ps5 สำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน (ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 มีนาคม 2022) โดยก่อนหน้านี้ Sony หวังว่าจะผลิต PS5 ได้ที่ 16 ล้านเครื่องตลอดทั้งปี แต่ปัจจุบัน มีรายงาน Sony ได้ปรับตัวเลขให้ลดลงเหลือ 15 ล้านเครื่อง ซึ่งแทบจะเท่ากับเป้าหมายยอดขาย 14.8 ล้านเครื่อง

แน่นอนว่านี่เป็นเพียงตัวอย่างของบริษัทที่ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนชิป ที่ส่งผลกระทบต่อแผนของบริษัท อย่าง Nintendo เพิ่งออกมาประกาศว่าจะไม่สามารถผลิต Nintendo Switch ได้มากเพียงพอต่อความต้องการในช่วงเทศกาลวันหยุด ขณะที่ Valve เพิ่งเลื่อนการออก Steam Deck เครื่องเล่นเกมพกพา ที่เกิดจากการร่วมมือกันกับทาง AMD ไปเป็นกุมภาพันธ์ 2022 ด้วยเหตุผลเดียวกัน ก่อนหน้านี้ Microsoft ยังระบุด้วยว่าการขาดแคลน Xbox Series X/S จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2022

ปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง บริษัทต่าง ๆ เช่น Toshiba, Foxconn และ AMD ได้กล่าวว่า สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้นภายในปี 2022 แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทาง Intel ได้ประเมินว่าปัญหาดังกล่าวอาจขยายออกไปยาวถึงปี 2023

Source

]]>
1362012
ปัญหาขาดแคลนชิปทำ ‘ทีวี’ ราคาพุ่ง 30% ส่วน ‘Ps5’ ขาดตลาดยาวถึง 2022 https://positioningmag.com/1332674 Tue, 18 May 2021 08:22:43 +0000 https://positioningmag.com/?p=1332674 โทรทัศน์, แล็ปท็อป และแท็บเล็ตเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงที่ COVID-19 ระบาด เนื่องจากผู้คนทำงานและเรียนผ่าน Zoom, คุยกับเพื่อน ๆ ผ่าน Skype และใช้ Netflix เพื่อบรรเทาอาการเบื่อ แต่การขาดแคลนชิปตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นนั้นทำให้ ราคาของดีไวซ์พุ่งสูงขึ้น โดยเริ่มจาก ‘ทีวี’

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ราคาของทีวีระดับตัว Top พุ่งขึ้นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมาตามรายงานของบริษัทวิจัยตลาด NPD การที่ราคาพุ่งอย่างก้าวกระโดดเป็นผลโดยตรงจากวิกฤตชิปขาดแคลนในปัจจุบันและเป็นการตอกย้ำว่าปัญหามีความซับซ้อนมากกว่าการเพิ่มกำลังการผลิต

ปัญหาดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าดีไวซ์อื่น ๆ อาจมีราคาสูงขึ้นตาม ไม่ว่าจะเป็นแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และชุดหูฟัง VR โดย ‘Asus’ ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ชาวไต้หวันกล่าวว่าการขาดแคลนส่วนประกอบอาจหมายถึง การปรับขึ้นราคาที่สูงขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งน่าจะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

SEOUL, SOUTH KOREA – 2020/11/13: People wearing masks exit a PlayStation Store in Seoul. (Photo by Simon Shin/SOPA Images/LightRocket via Getty Images)

Michael Hurlston ซีอีโอของ Synaptics ซึ่งเป็นบริษัทขายวงจรสำหรับควบคุมหน้าจอสัมผัสให้กับผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มั่นใจว่า “ราคาจะสูงขึ้นอย่างแน่นอน” สำหรับส่วนประกอบเหล่านี้ เพราะบริษัทเห็นการขึ้นราคาของส่วนประกอบอื่น ๆ จากบริษัทอื่น

ด้าน Sony ได้เปิดเผยว่า PlayStation 5 จะยังคงขาดตลาดไปจนถึงปี 2022 เนื่องจากปัญหาดังกล่าว โดยบริษัทระบุว่าส่วนประกอบบางอย่างได้เห็นยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อาทิ ตัวควบคุมแรงดันไฟฟ้าที่ใช้ในผลิตภัณฑ์จำนวนนับไม่ถ้วนซึ่งปกติราคา 50 เซ็นต์ แต่ตอนนี้ขายได้มากถึง 70 เหรียญ ซึ่งผู้ผลิตวงจรจอแสดงผลจะรู้สึกถึงผลกระทบเป็นอันดับแรก

“คำที่ฉันได้ยินเมื่อไม่นานมานี้คือ สินค้าคงเหลือหมดลงแล้ว ดังนั้นราคาใหม่เที่เพิ่มขึ้นจะกระทบต่อร้านค้าปลีกและการบริโภคของผู้บริโภค” Peggy Carrieres รองประธานของ AVNet ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์กล่าว

Photo : shutterstock

ก่อนหน้านี้ ผลกระทบได้เกิดกับผู้ผลิตรถยนต์ที่ต้องหยุดการผลิตเพราะขาดแคลนชิป ขณะที่มีอีกหลายปัญหาที่ส่งผลต่ออุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นปัญหาภายแล้งในไต้หวัน ที่กระทบต่อผู้ผลิตชิปในประเทศเพราะน้ำถือเป็นส่วนสำคัญในการผลิต นอกจากนี้มีเหตุไฟไหม้ในเดือนมีนาคมที่ต้องปิดโรงงานในญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ผลิตส่วนประกอบเซมิคอนดักเตอร์หลายชนิดรวมถึงวงจรรวมจอแสดงผล

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดว่า ปัญหาการขาดแคลนชิปอาจกินเวลานานกว่าหนึ่งปี ซึ่งปัญหาการขาดแคลนดังกล่าวได้เน้นให้เห็นถึงความสำคัญของอุตสาหกรรม รวมถึงผลกระทบต่อความก้าวหน้าในเทคโนโลยีสำคัญ ๆ เช่น AI, 5G และเทคโนโลยีทางทหาร

ที่ผ่านมา Intel ผู้ผลิตชิปชั้นนำของสหรัฐฯ ที่พ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งอย่าง TSMC ในไต้หวัน และ Samsung ในเกาหลีใต้ แต่ปัจจุบันบริษัทวางแผนที่จะลงทุนอย่างหนักเพื่อความพยายามที่จะกลับมาเป็นผู้นำ ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เสนอมาตรการกระตุ้นอุตสาหกรรมชิปของสหรัฐฯ มูลค่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตชิปของอเมริกา อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวจะไม่ช่วยอะไรในสถานการณ์ปัจจุบัน

Source

]]>
1332674
ซีอีโอยืนยัน! ปัญหา ‘PS5’ ขาดตลาดจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง https://positioningmag.com/1320852 Wed, 24 Feb 2021 10:50:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1320852 แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะจอง ‘PlayStation 5’ หรือ ‘PS5’ ให้ทันตั้งแต่เปิดตัว อย่างในประเทศไทยที่เปิดให้จองในช่วงเดือนกุมภาพันธ์แต่ละรอบก็ถูกจองเต็มภายในไม่ถึง 5 นาที ซึ่ง Jim Ryan ซีอีโอของ PlayStation ได้ออกมาพูดถึงปัญหาดังกล่าวว่า ปัญหาการขาดตลาดของ Ps5 จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

Ryan ระบุว่า ความต้องการ PS5 ที่สูงขึ้นประกอบกับปัญหาการขาดแคลนชิปทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมิจฉาชีพที่ใช้บอทกดซื้อ Ps5 เพื่อนำไปเก็งกำไรขาย ซึ่งนั่นทำให้ Sony พบกับข้อจำกัดที่ร้ายแรงในการกระจายสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการ อย่างไรก็ตาม ปัญหาดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาสักระยะ โดยคาดว่าช่วงครึ่งปีหลังน่าจะดีขึ้น

“ความต้องการมีมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ และมาพร้อมกับความซับซ้อนของปัญหาซัพพลายเชน ทำให้กำลังผลิตที่ต่ำกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ในตอนแรกเล็กน้อย” Ryan กล่าวอธิบายปัญหาเกี่ยวกับสินค้าที่ขาดตลาด

ที่น่าสนใจคือ ลูกค้าที่ซื้อ 1 ใน 4 ไม่ได้มี PlayStation 4 และครึ่งหนึ่งของเจ้าของ PS5 ทั้งหมดยังเป็นผู้ใช้ PSN (ระบบบัญชีออนไลน์ของ Sony ที่บริษัทใช้มาตั้งแต่ PlayStation 3) รายใหม่ หรือแปลว่าลูกค้ากว่าครึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเป็น ‘ลูกค้าใหม่’

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ Sony ที่หวังว่าจำนวนคอนโซลรุ่นใหม่จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ Mike Spencer หัวหน้าฝ่าย Investor Relations ของไมโครซอฟท์ ก็เปิดเผยว่า จำนวนของ Xbox จะฟื้นอย่างน้อยมิถุนายน

Source

]]>
1320852
ส.ส. ใน UK เสนอให้การ ‘กักตุนเครื่องเกม’ ผิดกฎหมาย หลัง ‘Ps5’ ราคาพุ่งเพราะโดนปั่นราคา https://positioningmag.com/1319337 Mon, 15 Feb 2021 08:33:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1319337 กลายเป็นปัญหาระดับประเทศไปซะแล้ว สำหรับ ‘Play Station 5’ หรือ ‘Ps5’ ที่ขาดตลาดอยู่ในตอนนี้ ซึ่งแค่ของหมดคงไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร เพราะเชื่อว่าเหล่าเกมเมอร์หลายคนคงรอได้ แต่ประเด็นคือ ด้วยของที่มีน้อยอยู่แล้ว แต่ดันโดนคนบางกลุ่มตัดหน้าจองโดยใช้โปรแกรมช่วย แล้วเอามาเก็งกำไรขายนี่ซิ เป็นเรื่องที่หลายคนรับไม่ได้ถึงขนาดที่ในสหราชอาณาจักร (UK) มีการเสนอให้การกักตุนเครื่องเกมเป็นสิ่งผิดกฎหมายเลยทีเดียว

ในปี 2020 Sony สามารถขายเครื่อง PlayStation 5 ได้ถึง 4.5 ล้านเครื่อง ขณะที่ยอดขายเองก็ยังทำได้ดีเพราะแรงส่งจาก COVID-19 ที่ทำให้คนว่างมากขึ้น ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเกมของ Sony ทำรายได้ 883.2 พันล้านเยน ในไตรมาสล่าสุดซึ่งเติบโตขึ้น 40% จากปี 2019

อย่างไรก็ตาม Sony เองก็ได้ออกมาระบุว่า ถึงแม้จะมีแฟน ๆ ที่รอคอยจะเป็นเจ้าของเครื่อง Ps5 อย่างใจจดใจจ่อ แต่ปัญหาด้านการผลิตที่ยังจำกัดทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน ทำให้ผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกมหลายคนรู้สึกหงุดหงิด แต่สิ่งที่ทำให้เกมเมอร์หัวร้อนยิ่งกว่าก็คือ มีคนหัวใสใช้บอทหรือโปรแกรมช่วยในการจองสินค้า ก่อนที่จะนำสินค้าไปขายโดยบวกราคาเพิ่มอีกเพียบ

ภาพจาก Skynews.com

อย่างประเทศไทยเอง ราคาของ Ps5 พุ่งเป็นเท่าตัว จากราคาจองอยู่ที่ 1.4 หมื่นบาทสำหรับรุ่นดิจิทัล และ 1.7 หมื่นบาทสำหรับรุ่นปกติ แต่มีคนเอามาปล่อยขายกันที่ 2.5-3 หมื่นบาทเลยทีเดียว ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ก็ไม่ได้ต่างกันนัก อย่างสหรัฐฯ ก็พุ่งจาก 500 ดอลลาร์เป็น 3,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว

เช่นเดียวกันกับสหราชอาณาจักรที่เจอปัญหานี้ โดยราคา Ps5 พุ่งไปที่ 950 ยูโรหรือประมาณ 3.5 หมื่นบาท ทำให้ Douglas Chapman หนึ่งในสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรได้ออกมาเคลื่อนไหวเกี่ยวพร้อมกับ ส.ส. อีก 32 คนได้ร่วมลงนามในการยื่นร่างกฎหมายควบคุมดูแลป้องกันมิให้เกิดการค้ากำไรเกินควร

การยื่นร่างกฎหมายนี้เกิดจากการที่มีประชาชนจำนวนมากร้องเรียนว่าไม่สามารถจองเครื่องได้ทัน เนื่องจากเจอคนบางกลุ่มที่ใช้บอทหรือโปรแกรมช่วยในการแย่งจองสินค้ากับคนทั่วไป แล้วนำมาปล่อยในราคาที่สูง ซึ่งการกักตุนสินค้าเพื่อขายโก่งราคากำลังกลายเป็นปัญหาที่หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ

ก็ไม่รู้ว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรของสหราชอาณาจักรหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่าเรื่องการกักตุนสินค้าเพื่อมาจำหน่ายในราคาสูงเกิดขึ้นกับสินค้าหลายประเภท หากย้อนไปในช่วงที่เกิดการระบาดของ COVID-19 ใหม่ ๆ หน้ากากอนามัยและแอลกอฮอล์ ก็เป็น 2 สิ่งที่ถูกกักตุนมาขายในราคาสูง ทำให้หลายประเทศฝั่งตะวันตกเริ่มตระหนักถึงปัญหาการกักตุนสินค้าในวงกว้างแล้ว

news.sky.com / birminghammail

]]>
1319337
ไตรมาส 4 ‘Sony’ ฟันกำไร 3.59 แสนล้านเยน หลังยอดขาย ‘PS5’ ทะลุ 4.5 ล้านเครื่อง https://positioningmag.com/1317879 Thu, 04 Feb 2021 03:05:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1317879 กลายเป็นของแรร์ไอเทมที่ต้องแย่งชิงเลยทีเดียวสำหรับ ‘Play Station 5’ หรือ ‘PS5’ ซึ่งจากกระแสตอบรับที่ดีทำให้กำไรไตรมาส 4 ปี 2020 ของ ‘Sony’ โตถึง 20% และทำให้ต้องปรับคาดการณ์ ‘กำไร’ ปี 2021 ใหม่เลยทีเดียว

Sony ได้รายงานผลกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4 ของปี 2020 (ตุลาคม – ธันวาคม) โดยทำกำไรได้ 3.59 แสนล้านเยนเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้รวมอยู่ที่ 2.7 ล้านล้านเยนเพิ่มขึ้น 9% ส่วนรายได้ในปีงบประมาณ 2020 ปิดที่ 8.8 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์เดิมซึ่งอยู่ที่ 8.5 ล้านล้านเยน และเพิ่มขึ้น 6.5% เมื่อเทียบกับปี 2019

จากยอดขายของ PS5 ตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนจนถึงธันวาคมที่ทำได้ 4.5 ล้านเครื่อง ทำให้ Sony ปรับเพิ่มประมาณการกำไรในช่วง 12 เดือนจนถึงเดือนมีนาคม 2021 เป็น 9.4 แสนล้านเยนเพิ่มขึ้น 34% จาก 7 แสนล้านเยนที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ และจากยอดขายของ PS5 และยอดขายเกมในเดือนพฤศจิกายน ทำให้รายได้จากแผนกเกมเพิ่มขึ้น 40% เป็น 8.83 แสนล้านเยน

จากข้อมูลของบริษัทวิจัย Omdia คาดว่าภายในปี 2021 Sony จะสามารถขาย PS5 ได้ 17.8 ล้านเครื่อง และขายได้ 63.9 ล้านเครื่องภายในปี 2024 อย่างไรก็ตาม ด้วยกระแสตอบรับที่ดีของ PS5 ทำให้เกิดปัญหาไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันตามความต้องการ เนื่องจากปัญหาการขาดแคลนชิปเซตทั่วโลก

เนื่องจากตลาดวิดีโอเกมได้รับประโยชน์จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนใช้เวลาอยู่ในบ้านมากขึ้นเนื่องจากมาตรการกักตัวทั่วโลก ทำให้ไม่ใช่แค่ Sony ที่ทำกำไรได้มากขึ้น แต่ Nintendo ได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์ทั้งปีสำหรับยอดขายของ Nintendo Switch เช่นกัน

Source

]]>
1317879
‘Microsoft’ ปวดหัวเหตุ ‘Xbox’ ขายดีเกินไปจนผลิตไม่ทัน https://positioningmag.com/1312913 Tue, 05 Jan 2021 05:00:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1312913 การอยู่บ้านและเล่นเกมเป็นเทรนด์อย่างแน่นอนในช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 แต่เรื่องที่ยากที่สุดของเหล่าเกมเมอร์ในนาทีนี้ก็คือ การเป็นเจ้าของ ‘คอนโซลรุ่นล่าสุด’ อย่าง ‘Play Station 5’ และ ‘Xbox Series X และ Series S’

นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนพฤศจิกายนคอนโซล PlayStation 5 ของ ‘Sony’ และ Xbox Series X และ Series S ของ ‘Microsoft’ ได้สร้างความต้องการมากกว่าที่ทั้ง 2 บริษัทจะสามารถผลิตออกมาได้ทัน โดย Phil Spencer รองประธานบริหารของ Microsoft Gaming ยอมรับถึงปัญหาการขาดแคลน Xbox รุ่นล่าสุด และกล่าวว่า เขาได้ขอความช่วยเหลือจากผู้ผลิตชิป AMD ในการผลิตชิปประมวลผลและกราฟิกสำหรับคอนโซล Xbox ให้มากขึ้น

“เราคุยโทรศัพท์กับ Lisa Su CEO AMD พร้อมกับถามว่าเราจะได้ชิปมากขึ้นได้อย่างไร เพราะตั้งแต่เราได้เปิดตัวคอนโซล หวังว่าเราจะมีของมากกว่านี้ เพราะเราขายหมดเร็วเกินไป โดยเราคาดว่าปัญหาการขาดตลาดจะยาวไปถึงฤดูใบไม้ผลินี้” Spencer กล่าว

อย่างไรก็ตาม มีนักวิเคราะห์บางคนคาดการณ์ในเดือนพฤศจิกายนว่า Microsoft และ Sony มีเจตนา ‘จำกัดการผลิต’ เพื่อช่วยเพิ่มผลกำไรสูงสุด ซึ่ง Spencer ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้ทำแน่นอน พร้อมระบุว่าหลายบริษัทประสบปัญหาการหยุดชะงักของซัพพลายเชนรวมถึงการขาดแคลนที่เกิดจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในระหว่างการระบาดของ COVID-19

“เราไม่ได้แทงกั๊กหรือชะลอการผลิต เราพยายามผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เรามีสายการประกอบทั้งหมดที่กำลังดำเนินอยู่ โดยเราได้เห็นความต้องการทั่วโลกอย่างล้นหลามจากแฟน ๆ ของเราสำหรับ Xbox รุ่นต่อไป และกำลังทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยกับพันธมิตรค้าปลีกของเราเพื่อนำ Xbox ไปเติมสต๊อกให้เร็วที่สุด เพราะเราแทบรอไม่ไหวแล้วที่แฟน ๆ จะได้สัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมบน Xbox Series X และ Series S”

ในระหว่างรายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดในเดือนตุลาคม Microsoft มีการเติบโตของรายได้ 30% เมื่อเทียบเป็นรายปีสำหรับเนื้อหาและบริการ แต่ในส่วนของ Xbox กลับทรงตัวในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ส่วน AMD ในไตรมาสที่ 3 สิ้นสุดที่เดือนกันยายนรายได้เติบโต 56% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี ทั้งนี้ หุ้นของ Microsoft เพิ่มขึ้นเกือบ 37% ในปีที่ผ่านมา AMD เพิ่มขึ้นเกือบ 91%

“ตอนนี้มีความสนใจในการเล่นเกมเป็นอย่างมากและฮาร์ดแวร์ก็ขาดตลาด ดังนั้น ยอดขายคอนโซลถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ที่เห็นได้ชัด ซึ่งเรากำลังทำงานอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้”

Source

]]>
1312913
เจาะลึกสงคราม ‘คอนโซล’ เมื่อ ‘Microsoft’ มองไกลกว่าแค่เอา ‘Xbox’ มาชนตรงกับ ‘Ps5’ https://positioningmag.com/1306271 Mon, 16 Nov 2020 12:45:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306271 ถือเป็นสงครามที่ยาวนานของ ‘Sony (โซนี่)’ และ ‘Microsoft (ไมโครซอฟท์)’ กับการปะทะกันของ ‘Play Station : Ps’ (เพลย์สเตชั่น) และ ‘Xbox’ (เอ็กซ์บ็อกซ์) ซึ่งผู้ที่กำชัยมาโดยตลอดก็คือ Sony โดยตั้งแต่ที่ ‘Xbox One’ วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2013 จนถึงต้นปี 2020 สามารถทำยอดขายได้เพียง 41 ล้านเครื่องหรือเพียง ‘ครึ่งเดียว’ ของ ‘Ps4’ ที่มียอดขายถึง 91 ล้านเครื่อง แต่ในสงครามของ ‘Xbox Series X’ และ ‘Series S’ ใหม่ที่ขอท้าชน ‘Ps5’ ครั้งนี้ดูเหมือน Microsoft จะไม่ได้โฟกัสที่จำนวนยอดขาย แต่มองไปไกลกว่านั้น

เครื่องแรงแต่ไม่มีเกม Exclusive

การแพร่ระบาดทำให้ผู้คนมีเวลาว่างในการเล่นเกมมากขึ้น นักเล่นเกมอาจติดยาเสพติดไปอีกหลายปีซึ่งหมายถึงธุรกิจขนาดใหญ่สำหรับทั้ง 2 บริษัท โดยส่วนของ Gaming คิดเป็น 24% ของรายได้ทั้งหมดของ Sony และคิดเป็น 8% ของรายได้ของ Microsoft แต่ Microsoft เป็นบริษัทมหาชนที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับสามรองจาก Apple และ Saudi Aramco เท่านั้น ซึ่งความสำเร็จในการเล่นเกมจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นจำนวนมาก

ล่าสุด Microsoft และ Sony เปิดตัวเครื่องเล่นวิดีโอเกมใหม่ในสัปดาห์นี้ โดย Microsoft มี Xbox Series X ราคา 500 ดอลลาร์สหรัฐ และ Series S ราคา 300 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Sony มี PlayStation 5 สองรุ่นเริ่มต้นที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐ โดยเครื่องคอนโซลของทั้ง 2 แบรนด์ถือเป็นคอนโซลรุ่นล่าสุดในรอบ 7 ปีเลยทีเดียว
อย่างที่รู้กันว่า Ps4 ของ Sony สามารถทำรายได้อย่างถล่มทลาย เนื่องจากมีไม้ตายก็คือ ‘เกม Exclusive’ ที่ไม่มีให้บริการในระบบอื่น ๆ อาทิ ‘Uncharted 4’ ‘Horizon Zero Dawn’ และ ‘Spider-Man’ ส่วน Xbox One มีแค่ไม่กี่เกม อาทิ ‘Halo 5’

โดย Blackley Lewis Ward ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยด้านเกมของ IDC มองว่า Sony จะขายคอนโซล PlayStation 5 ได้มากถึง 5 ล้านเครื่องในปีนี้ ส่วน Microsoft ขายคอนโซล Xbox Series X และ S ได้ 3.8 ล้านเครื่อง ซึ่งความได้เปรียบยังมาจากเกม Exclusive

ยอดขายไม่สำคัญเท่า คนเล่น

อย่างไรก็ตาม Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนแนวทางการเล่นเกมตั้งแต่เปิดตัว Xbox One โดย Phil Spencer รองประธานบริหารฝ่ายเกมของ Microsoft ซึ่งถือเป็น หนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลสูงสุดแห่งวงการเกม กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Verge เมื่อปีที่แล้วว่า การวัดความสำเร็จจากการจัดส่งคอนโซลไม่สำคัญเท่ากับการมีส่วนร่วมรวมถึงจำนวนคนที่เล่นด้วย

ดังนั้น Xbox Series X และ S ใหม่แค่จะไม่มีเกม Exclusive พิเศษเหมือนครั้งที่แล้ว แล้ว Microsoft จะโดดเด่นอย่างไร? คำตอบคือ Xbox Game Pass ซึ่งเป็นบริการสมัครสมาชิกออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้ามีเกมมากกว่า 100 เกมในมือในราคาเพียง 10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 300 บาทต่อเดือน ขณะที่ Ps5 ก็มี ‘PlayStation Plus Collection’ ระบบ Subscription เกมที่ผู้ใช้ Ps5 เล่นเกม Exclusive PlayStation และเกม Third-Party ของ Ps4 ซึ่งแม้ราคาจะถูกกว่าครึ่ง (5 เหรียญต่อเดือน หรือราว 150 บาท) แต่จำนวนเกมก็น้อยกว่ามาก

กว้านซื้อสตูดิโอเกมไม่หยุด

ปัจจุบันฝ่ายเกมของ Microsoft ได้รับความสนุกสนานในการเข้าซื้อกิจการสตูดิโอพัฒนาเกมอย่างมาก โดยที่ผ่านมาได้ซื้อไปแล้วถึง 23 รายรวมถึง Bethesda กับ Zenimax ในมูลค่าถึง 7.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดมีข่าวว่า Microsoft เริ่มเข้าหาผู้พัฒนาเกมในญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของ Nintendo และ Sony แล้ว ขณะที่ Sony เองมีสตูดิโอเกมในมือประมาณ 14 ราย

ปัจจุบัน นักลงทุนให้ความสำคัญกับยอดขายคอนโซลของ Microsoft น้อยลง เนื่องจากเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้เปิดตัวเมตริกใหม่ คือ การเติบโตของรายได้จากเนื้อหาและบริการของ Xbox ซึ่งรวมถึงการสมัครใช้บริการ Game Pass และบริการ Xbox Live

Keith Weiss และ Josh Baer นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley มองว่า ยอดขายคอนโซลที่สูงขึ้นไม่ได้ช่วยเรื่องการเงินของ Microsoft เสมอไป ยิ่ง Microsoft มีรายได้จากคอนโซลมากขึ้นในปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมของบริษัทก็จะยิ่งลดลง ส่งผลให้ Microsoft ให้ความสำคัญกับการดึงสมาชิก Game Pass มากกว่าการขายคอนโซลซึ่งแตกต่างจาก Sony

“การจะมุ่งเน้นไปที่คอนโซลเพียงอย่างเดียวเป็นวิธีที่ไม่สมบูรณ์ในการประเมินอุตสาหกรรมเกมและจะเติบโตอย่างไรในอนาคต เนื่องจากนักพัฒนาที่ทำงานร่วมกับเราสามารถเข้าถึงเกมเมอร์ผ่านพีซี คอนโซลและมือถือ ด้วยระบบคลาวด์ และผู้เล่นใหม่ทุกคนที่เก็บเกมของพวกเขาก็มีตัวเลือกมากมายสำหรับวิธีการเล่น”

Source

]]>
1306271