Stories – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 16 Jun 2022 08:06:34 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ก๊อปอีกแล้ว? ‘Facebook’ เล็งปรับฟีดใหม่ให้เหมือน ‘TikTok’ โชว์โพสต์น่าสนใจแม้ไม่ได้เป็นเพื่อน https://positioningmag.com/1388973 Thu, 16 Jun 2022 07:41:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1388973 ก่อนหน้านี้ ‘Facebook’ เคยถูกเรียกว่าเป็น ‘นักก๊อป’ แต่ดูเหมือนว่าจะหาได้แคร์ไม่ เพราะล่าสุด มีการเปิดเผยเอกสารภายในที่พูดถึงแผนการเปลี่ยนอัลกอริทึมการแสดงฟีดใหม่ให้ดูมีความเหมือน TikTok มากขึ้น โดยจะแสดงโพสต์แนะนำจากคนที่ไม่ได้เป็นเพื่อน

จากการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ TikTok ที่แรงจนแซง Facebook ขึ้นแท่นเป็นแอปโซเชียลมีเดียที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก และแม้แต่ Adam Mosseri หัวหน้า Instagram ยังออกมายอมรับว่า TikTok เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดเท่าที่เคยมีมา

โดยทาง Facebook ก็ไม่ยอมแพ้พร้อมพัฒนาฟีเจอร์ Reels ลงใน Instagram และ Facebook อย่างไรก็ตาม แม้จะพยายามปั้นฟีเจอร์วิดีโอสั้นมาชนแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ปังอย่างที่คิด เพราะวิดีโอสั้นที่ลงใน Reels ก็ยังเป็นวิดีโอที่จากสร้าง TikTok จนทำให้แพลตฟอร์มต้อง ลดเกรดครีเอเตอร์ที่ยังดูดคลิปจากนอกแพลตฟอร์มมาลง

พี่จะไม่ทน! Instagram เตรียม ‘ลดการมองเห็น’ ครีเอเตอร์ที่ดูดคลิป TikTok มาลง Reels

แม้จะพัฒนาฟีเจอร์วิดีโอสั้นที่ได้ แรงบันดาลใจ จาก TikTok แล้ว ล่าสุด ก็มีการเปิดเผยเอกสารภายในที่มีเนื้อหาว่า Tom Alison ผู้บริหาร Meta ที่ดูแล Facebook ได้วางแผนที่จะ ปรับเปลี่ยนการแสดงหน้าฟีดให้คล้ายกับ TikTok โดยจากที่แสดงฟีดโพสต์จากความสำคัญของบัญชีที่ผู้คนติดตาม แต่จะเริ่ม แนะนำโพสต์จากคนที่ไม่ใช่เพื่อน

นอกจากนี้ ฟีเจอร์ส่งข้อความอย่าง Messenger ที่เดิมแยกแอปจาก Facebook ก็จะถูกนำมารวมกันอีกครั้ง เพื่อให้เหมือนกับฟีเจอร์การรับส่งข้อความของ TikTok โดยการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ ผู้บริหารหวังว่าจะทำให้การเติบโตที่ซบเซาของแอปจะเริ่มกลับมาสดใสอีกครั้ง อีกทั้งอาจดึงดูดกลุ่มวัยรุ่นให้กลับมาใช้งาน

Instagram ลดการมองเห็น TikTok
คลิปที่ดึงจาก TikTok และมาลง Reels มีให้เห็นทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการรีโพสต์เอง หรือดูดคลิปของบุคคลอื่นมาลง

การเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ คล้ายกับเมื่อ Facebook ได้เพิ่มฟีเจอร์ Stories ที่คล้ายกับของ Snapchat ซึ่งในตอนนั้นแพลตฟอร์มกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเดิมพันสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะนักลงทุนต่างสงสัยในความสามารถของ Meta ที่กำลังเผชิญความท้าทายในตลาดโฆษณา และด้วยราคาหุ้นที่ตกต่ำไปแล้ว บริษัทจำเป็นต้องแสดงให้เห็นว่ามันสามารถเติบโตได้

อย่างเจ็บ! เมื่อ ‘Facebook’ ถูกเรียก ‘นักก๊อป’ มูลค่า 7.7 แสนล้านเหรียญ

ที่ผ่านมา Alison เคยยอมรับว่า บริษัทมองเห็น ภัยคุกคามจาก TikTok ช้าเกินไป แต่ตอนนี้ Meta เล็งเห็นแล้วว่าแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นนี้กำลังรุกล้ำเข้าไปในเครือข่ายโซเชียลเน็ตเวิร์กของตนมากขึ้น และ Meta ตระหนักดีว่าการจะแข่งขันกับ TikTok ได้ต้องสร้างประสบการณ์ที่น่ามหัศจรรย์ในหน้าฟีดหลัก ดังนั้น จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ Facebook ได้ตัดคำว่า News จนเหลือแค่ Feed

ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Sensor Tower ระบุว่า TikTok มีการดาวน์โหลดมากถึง 3.6 พันล้านครั้งในปีที่ผ่านมา สูงกว่าของ Facebook 20% และมากกว่า Instagram 21% และในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ผู้ใช้ iPhone ใช้เวลาเฉลี่ยบน TikTok มากกว่าบน Facebook ถึง 78%

Source

]]>
1388973
อย่างเจ็บ! เมื่อ ‘Facebook’ ถูกเรียก ‘นักก๊อป’ มูลค่า 7.7 แสนล้านเหรียญ https://positioningmag.com/1320170 Fri, 19 Feb 2021 09:59:00 +0000 https://positioningmag.com/?p=1320170 Facebook ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดและเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก พร้อมกับครองตลาดโฆษณาออนไลน์เช่นเดียวกับ Google แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการ ‘ก๊อปฟีเจอร์ยอดนิยม’ จากคู่แข่งมากกว่าที่มีในการสร้างฟีเจอร์และผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ด้วยตัวเอง

ย้อนไป 4 ปีที่แล้ว ‘Facebook’ มักจะมีนวัตกรรมอะไรที่น่าตื่นเต้นอยู่เสมอ โดยบริษัทได้จัดตั้งแผนกฮาร์ดแวร์ใหม่ชื่อ ‘Building 8’ โดยมีทีมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรดูแลโดยผู้บริหารจาก DARPA และประกาศว่ากำลังสร้างเทคโนโลยีเพื่อช่วยให้สามารถ ‘พิมพ์ด้วยสมอง’ และ ‘ได้ยินด้วยผิวหนัง’ นอกจากนี้มีข่าวว่าจะผลิต ‘สมาร์ทโฟน’ ด้วย

ในตอนนั้นยังไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดนั้นจะสามารถเกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ แต่มันให้ความรู้สึกแปลกใหม่และแตกต่างจากสิ่งที่บริษัทเคยทำมา แต่แล้วผู้บริหาร DARPA ก็ออกจาก Facebook ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา และหนึ่งปีหลังจากนั้น Building 8 ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น ‘Portal’ ชื่อเดียวกับ ‘Facebook Portal’ ลำโพงอัจฉริยะที่ Facebook สร้างขึ้นเพื่อแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันจาก ‘Amazon’

Computer screen showing the website for social networking site, Facebook (Photo by In Pictures Ltd./Corbis via Getty Images)

แทนที่จะใช้เทคโนโลยีหรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ใหม่ ๆ Facebook ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ลอกเลียนแบบจำนวนมากที่ยกมาจาก YouTube, Twitch, TikTok, LinkedIn, Pinterest และ Slack โดย Facebook ดำเนินการเกี่ยวกับแอปหาคู่ยอดนิยมเปิดตัวคู่แข่ง Craigslist และฉีกฟีเจอร์ Stories ยอดนิยมของ Snapchat ในปี 2559 ไม่นานก่อนที่จะเผยแพร่ต่อสาธารณะ และที่เพิ่งมีข่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ก็คือ Facebook กำลังต้องการทำฟีเจอร์แบบเดียวกับ ‘Clubhouse’ ซึ่งเป็นแอปที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้

นอกเหนือจากการก๊อปแล้ว เมื่อ Facebook ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้มันก็ซื้อมันเหมือนกับที่ซื้อ ‘Instagram’ ในปี 2012 เช่นเดียวกับ ‘WhatsApp’ และ ‘Oculus’

เพราะทั้งซื้อและก๊อปฟีเจอร์ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกากล่าวหา Facebook ว่าใช้ “อำนาจการครอบงำและการผูกขาดเพื่อบดขยี้คู่แข่งที่มีขนาดเล็กกว่า” ตามคำพูดของ Letitia James อัยการสูงสุดแห่งนิวยอร์ก ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มในการสืบสวน Facebook

ด้วยความพยายามในการก็อปที่ต่อเนื่องทำให้เกิดคำถามพื้นฐานเกี่ยวกับความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของ Facebook ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นส่วนสำคัญของบริษัทเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม Facebook นั้นไม่ใช่บริษัทเทคโนโลยีรายแรกหรือรายเดียวที่ก๊อปฟีเจอร์ แต่ทุกแพลตฟอร์มออนไลน์ดูเหมือนจะคัดลอก TikTok ในระดับหนึ่งรวมถึง Snapchat และ YouTube อย่างไรก็ตาม สำหรับ Facebook เองก็ยากที่จะบอกได้ว่าครั้งสุดท้ายที่ Facebook สร้างนวัตกรรมที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริงคือตอนไหน

Tucker Marion รองศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น ที่มุ่งเน้นไปที่การเป็นผู้ประกอบการและนวัตกรรม กล่าวว่า การก๊อปของคู่แข่งไม่ใช่กลยุทธ์ที่ไม่ดี แต่จำเป็นต้องควบคู่ไปกับการที่บริษัทดำเนินการตามแนวคิดดั้งเดิมของตนเองด้วย

เพื่อความเป็นธรรมการสร้างสรรค์สิ่งใหม่เป็นเรื่องยาก โดย Google ได้เผาผลาญเงินหลายพันล้านดอลลาร์ในโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่การร่วมทุนบอลลูนอินเทอร์เน็ตที่มีความทะเยอทะยานไปจนถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและมีความขยันขันแข็งมากขึ้นเกี่ยวกับการทดลอง

Facebook ได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานับตั้งแต่เปิดตัว News Feed ในปี 2006 หลายเดือนหลังจากที่ Twitter เปิดตัวและช่วยเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนบริโภคข้อมูลทางออนไลน์ จากนั้นการเปิดตัวโทรศัพท์ Facebook ก็ล้มเหลว การทดลองใช้โดรนส่งมอบอินเทอร์เน็ตที่บินด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ก็เงียบไป และ cryptocurrency ตัวใหม่ (TBD ก็ยังมีปัญหาในช่วงแรก ๆ)

ในทางกลับกันความพยายามบางส่วนในการเลียนแบบคู่แข่งประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล Instagram Stories ซึ่งเป็นก๊อป Snapchat กลายเป็นวิธีเริ่มต้นในการสื่อสารและเชื่อมต่อสำหรับผู้คนนับล้าน รวมถึง Facebook Marketplace กลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม

ที่ผ่านมา Kevin Systrom ผู้ร่วมก่อตั้งและอดีต CEO ของ Instagram เคยกล่าวไว้เมื่อถูกถามเกี่ยวกับปัญหาการลอกเลียนแบบว่า “ลองนึกภาพรถคันเดียวในโลกคือ Model T ในตอนนี้มีคนประดิษฐ์รถขึ้นมาใหม่มันเจ๋งมาก แต่คุณจะโทษไหมที่บริษัทอื่น ๆ สร้างรถยนต์ที่มีล้อพวงมาลัยและแอร์และหน้าต่างเหมือนกัน คำถามคือ คุณสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนใครได้อย่างไร?”

คงจะจริงอย่างที่ว่า เพราะผู้บริโภคทั่วไปไม่สนใจว่าใครจะนึกถึงแนวคิดนี้ก่อน พวกเขาสนใจว่าใครเป็นผู้ดำเนินการได้ดีที่สุด อย่าง Apple ไม่ได้คิดค้นสมาร์ทโฟนขึ้นมา แต่เพียงแค่สร้างเครื่องที่ดีที่สุดในเวลานั้น นั่นเป็นเหตุผลที่ Instagram Stories ทำให้ฐานผู้ใช้ทั้งหมดของ Snapchat ลดลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีแม้ว่า Facebook จะไม่ใช่คนที่คิดค้น และด้วยเหตุนี้ Reels ซึ่งเป็นฟีเจอร์วิดีโอรูปแบบสั้นจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้ได้รับแรงการตอบรับและแข่งขันกับอัลกอริทึมการแนะนำที่มีประสิทธิภาพของ TikTok

แม้แต่เทคโนโลยีการพิมพ์ด้วยสมองก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ เมื่อไม่ถึงหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ Elon Musk มีแผนจะใช้สมองกับคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เฟซคอมพิวเตอร์สมองอื่น ๆ มีการใช้งานมานานหลายทศวรรษแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหวังว่าวันหนึ่งจะตื่นขึ้นมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ จาก Facebook และแม้จะมีนักวิจารณ์พูดถึง Facebook แบบนี้ แต่ตัวแทนของบริษัทก็ยังไม่ตอบกลับคำร้องขอความคิดเห็นในเรื่องนี้ทันที

Source

]]>
1320170