Tuesday, April 16, 2024
Home Tags Work from anywhere

Tag: Work from anywhere

เปิดผลทดลองทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน พนง.เหนื่อยน้อย-ลาป่วยลด บริษัทรายได้เพิ่ม

เพราะความอยากรู้ว่าการมีวันหยุดลองวีคเอนด์ 3 วันทุกสัปดาห์ จะมีผลเปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานและบริษัทอย่างไร นักวิจัยจำนวนหนึ่งจึงจัดมหกรรมการทดลองทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศอังกฤษ โดยร่วมกับบริษัท 61 แห่งและพนักงานรวม 2,900 คนตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคม 2564 ปรากฏว่าผลลัพธ์ที่ได้นั้นดีมากจนบริษัทส่วนใหญ่ในการทดลองบอกว่าจะยังคงยึดเกณฑ์ทำงาน 4 วันต่อไป ไม่เปลี่ยนกลับไปทำงาน 5 วันอีกแล้ว

ไม่กลับ! พนักงาน Apple ยื่นเรื่องงัดข้อนโยบาย “กลับเข้าออฟฟิศ” ของบอร์ดบริหาร

นโยบาย “กลับเข้าออฟฟิศ” ของ Apple ยังคงเป็นประเด็นงัดข้อกันอยู่ เพราะบอร์ดบริหารต้องการให้พนักงานกลับมาออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน แต่พนักงานต้องการทำงานแบบ Work from Anywhere เป็นหลัก

กรณีศึกษา “จีเอเบิล” กับนโยบาย “Work from Anywhere” อะไรที่ “เวิร์กจริง” และอะไรที่ต้องปรับต่อไป

วิธีการทำงานหลังผ่านพ้นโรคระบาดคือสิ่งที่หลายบริษัทต้องตัดสินใจ เพราะการทำงานแบบ “Work from Anywhere” มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่ใครจะให้น้ำหนักกับฝั่งไหนมากกว่า ในกรณีของ “จีเอเบิล” เลือกที่จะไปต่อจนสุดทางหลังลงทุนระบบทำงานจากที่ไหนก็ได้จน full-function เราจะไปคุยกับแม่ทัพของบริษัทกันดูว่า นโยบายการทำงานแบบนี้มีอะไรที่ “เวิร์กจริง” และที่ยังต้องปรับปรุงอุดจุดอ่อนต่อไป

Work from Anywhere ทำให้คนแอบไป “สัมภาษณ์งานใหม่” และ “ย้ายงาน” ง่ายขึ้น

นี่อาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้บริษัทหลายแห่งไม่ต้องการให้พนักงาน Work from Anywhere เพราะการทำงานที่ไหนก็ได้ทำให้พนักงานแอบไป "สัมภาษณ์งานใหม่" ได้ง่ายกว่าเดิม โอกาสพนักงานลาออก "ย้ายงาน" มีสูงยิ่งขึ้น

อีลอน มัสก์: ใครอยาก “ทำงานทางไกล” ให้มาออฟฟิศอย่างน้อย 40 ชม.ต่อสัปดาห์ให้ได้ก่อน

ข้อความข้างต้นของ “อีลอน มัสก์” เหมือนเป็นการบอกทางอ้อมว่า อย่างไรพนักงานก็ต้องเข้าออฟฟิศ 5 วันต่อสัปดาห์ เพราะมัสก์มองว่าการ “ทำงานทางไกล” ทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ สวนทางกับเทรนด์ฝั่งตะวันตกที่บริษัทส่วนใหญ่ปรับมาทำงานแบบ “ไฮบริด”

เบื่อแล้วรถติด! ส่องผลวิจัย ‘Hybrid Work’ ไม่ได้เวิร์กแค่พนักงานแต่องค์กรก็ได้ประโยชน์

เชื่อว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา พนักงานออฟฟิศหลายคนน่าจะไปทำงานสาย เพราะเจอทั้งฝนตก และสภาพการจราจรที่คับคั่งเพราะเปิดเทอม หลายคนน่าจะโหยหายการ Work From Home เหมือนช่วงที่มีการระบาด หรืออย่างน้อยก็อยากให้องค์กรของตัวเองปรับการทำงานแบบไฮบริด (Hybrid Work)

งานในฝัน!? Airbnb อนุญาตให้พนักงาน “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” ไม่ต้องเข้าออฟฟิศอีกต่อไป

พนักงาน (เกือบ) ทุกคนของ Airbnb ทั่วโลก ไม่จำเป็นต้องกลับเข้าออฟฟิศหลังโรคระบาดคลี่คลาย แต่สามารถ “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” ภายในประเทศของตนเอง และเริ่มทดลองให้ย้ายไปทำงานจากต่างประเทศได้สูงสุด 90 วัน

57% ของบริษัททั่วโลกพบว่าออฟฟิศแบบ “ไฮบริด” ช่วยให้ประสิทธิภาพ “การทำงาน” ดีขึ้น

PwC สำรวจพบบริษัททั่วโลกเกินครึ่งเห็นว่า “การทำงาน” แบบ “ไฮบริด” ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ช่วยลดความหนาแน่นในออฟฟิศ และยังดำเนินธุรกิจต่อได้ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 ขณะที่บริษัทไทยส่วนใหญ่เริ่มปรับออฟฟิศเป็นแบบไฮบริดแล้วเช่นกัน

การตลาดแบบ Airbnb ซีอีโอลุยเอง! ย้ายที่พักทุก 2 สัปดาห์พัฒนาศักยภาพ “ทำงานทางไกล”

หลังจาก Airbnb พบว่าการเช่าเพื่อ “ทำงานทางไกล” เติบโตสูงมากหลังเกิดโรคระบาด บริษัทจึงใช้โอกาสนี้โปรโมตฟังก์ชันใหม่ของที่พักในเครือข่าย สามารถเช่าไว้สำหรับทำงานและท่องเที่ยวไปพร้อมกัน โดยล่าสุด “Brian Chesky” ซีอีโอบริษัท ประกาศย้ายที่พักบน Airbnb ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อพิสูจน์และพัฒนาประสบการณ์การทำงานทางไกลในที่พักของแพลตฟอร์ม Brian Chesky ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb ประกาศผ่านบัญชีทวิตเตอร์ว่า เขาจะเริ่มย้ายที่อยู่ทุกๆ 2 สัปดาห์...

10 เมืองที่ดีที่สุดในโลกของคน “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” (Work from Anywhere) ปี 2021

Nestpick แพลตฟอร์มค้นหาที่พักรายเดือนออนไลน์ รายงานดัชนี “เมือง” ที่เหมาะกับการ “ทำงานจากที่ไหนก็ได้” (Work from Anywhere) มากที่สุดในโลก ประจำปี 2021 โดยปีนี้เมือง “เมลเบิร์น” ออสเตรเลีย คว้าอันดับ 1 ไปครองจากที่สำรวจทั้งหมด 75 เมือง ส่วนประเทศไทยมีติดโผ 2 เมืองคือ “เชียงใหม่” และ “กรุงเทพฯ”