YouTube Shorts – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 13 May 2021 06:08:16 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สู้ TikTok! YouTube Shorts ตั้งงบ 100 ล้านเหรียญ อัดฉีดอินฟลูเอนเซอร์ให้ใช้แพลตฟอร์ม https://positioningmag.com/1331906 Thu, 13 May 2021 05:58:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1331906 YouTube ตั้งกองทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับใช้อัดฉีดอินฟลูเอนเซอร์ยอดฮิตบนแพลตฟอร์ม “YouTube Shorts” ในรอบ 18 เดือนข้างหน้า หวังแข่งขันกับ TikTok

กองทุน 100 ล้านเหรียญนี้จะถูกแบ่งย่อยเป็นรายเดือน ผู้ที่มียอดวิวและ engagement สูงสุดในแต่ละเดือนจะได้รับเงินทุนส่วนนี้ไป

“กองทุน The Shorts Fund เป็นก้าวแรกของเราในการสร้างโมเดลทำเงินบน Shorts ของ YouTube ตอนนี้สิ่งนี้คือสิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุด และคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อสร้างโมเดลที่เหมาะสม” เอมี่ ซิงเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาสนับสนุนพันธมิตรธุรกิจระดับสากล YouTube Shorts แถลงในบล็อกโพสต์ของเธอ

“เรากำลังทำงานเรื่องนี้อย่างเต็มที่ และจะเก็บฟีดแบ็กจากชุมชนของเราเพื่อนำมาช่วยพัฒนาโปรแกรมระยะยาวที่จะออกแบบขึ้นเพื่อ YouTube Shorts โดยเฉพาะ”

YouTube ไม่ใช่คนเดียวที่อัดฉีดเงินให้อินฟลูเอนเซอร์ TikTok เองก็ประกาศกองทุน Creator Fund มูลค่าถึง 2 พันล้านเหรียญ เพื่อใช้สนับสนุนอินฟลูฯ ทั่วโลกในระยะ 3 ปีข้างหน้า หรือแอปพลิเคชัน Snap ก็มีทุนวันละ 1 ล้านเหรียญ สนับสนุนผู้ใช้ที่โพสต์คลิปลงฟีเจอร์ Spotlight แม้กระทั่ง Facebook เองก็กำลังพิจารณาจะตั้งกองทุนของตัวเองบ้าง

ตัวอย่างหน้าตาฟีเจอร์ YouTube Shorts

อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลุ่มที่สำคัญมากในการดึงผู้ใช้เข้าแพลตฟอร์ม และผู้ใช้จำนวนมากคือต้นทุนในการทำเงินจากค่าโฆษณาต่อไป ในอดีต โซเชียลมีเดียมักจะปล่อยให้ครีเอเตอร์ในแพลตฟอร์มหาทางสร้างรายได้กันเอง แต่การมาของ TikTok กลับเขย่าวงการธุรกิจโซเชียลมีเดีย เพราะตัวแพลตฟอร์มคิดแบบเชิงรุก หาวิธีและเครื่องมือมาให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้เพิ่มอยู่เสมอ และทำให้คู่แข่งต้องขยับตัวสร้างฟีเจอร์ไปจนถึงโปรแกรมอัดฉีดเงินแบบนี้

สำหรับ YouTube Shorts เปิดตัวแล้วในสหรัฐฯ และอินเดีย โดยมีปุ่ม Create a Short และฟีเจอร์สำหรับครีเอเตอร์แบบเต็มรูปแบบ สามารถลงคลิปได้ยาวสูงสุด 60 วินาที

ส่วนในไทยเริ่มเปิดใช้แล้วเหมือนกัน แต่ยังเป็นระบบเบต้าที่ไม่มีปุ่มเฉพาะ ครีเอเตอร์ที่ต้องการทดลองลงต้องอัปโหลดคลิปแบบแนวตั้ง แล้วติดแท็ก #Shorts ในชื่อคลิปหรือคำอธิบายคลิป เพื่อให้ระบบจับอัตโนมัติเองว่าเป็นคลิป Shorts (*จากการสังเกตของ Positioning พบว่าแค่อัปโหลดคลิปแนวตั้งที่ยาวไม่เกิน 60 วินาทีก็อาจจะถูกระบบดึงไปไว้ใน Shorts แล้ว)

ก่อนหน้านี้ YouTube ยังถือว่าเป็นแพลตฟอร์มมาตรฐานของเหล่าอินฟลูฯ ที่ต้องการทำเงิน และยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชม แต่การมาถึงของคู่แข่งก็เป็นเรื่องที่ต้องระวัง ทั้งนี้ เงินทุน 100 ล้านเหรียญนั้นถือเป็นงบแบบ ‘ผิวๆ’ มากสำหรับ YouTube แพลตฟอร์มที่ทำเงินได้ถึง 2 หมื่นล้านเหรียญต่อปี­

Source

]]>
1331906
‘TikTok’ ขอใช้ความ ‘เรียล’ สู้ศึก ‘วิดีโอสั้น’ พร้อมดัน ‘วิดีโอยาว’ สวนกระแส https://positioningmag.com/1324733 Wed, 24 Mar 2021 10:41:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1324733 ปฏิเสธไม่ได้ว่าความฮิตของ ‘TikTok’ ในปี 2020 นั้นเรียกได้ว่าถล่มทลายอย่างแท้จริง เพราะมียอดดาวน์โหลดกว่า 2,000 ล้านครั้งใน 150 ประเทศทั่วโลก! แน่นอนว่าการเติบโตดังกล่าวได้ล่อเป้าให้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียระดับโลกหันมาให้ความสนใจและพร้อมจะเปิดฟีเจอร์ใหม่ (ที่ได้แรงบันดาลใจจาก TikTok) เพื่อจะเป็น ‘ทางเลือกใหม่’ ให้กับผู้บริโภคได้ใช้งาน ดังนั้นการทำตลาดของ TikTok จากนี้คงไม่ง่ายเหมือนอดีตแน่นอน

‘วิดีโอ’ ตลาดใหญ่ที่ใคร ๆ ก็อยากเล่น

จากผลสำรวจของ Neilsen ในปี 2020 พบว่า คนไทยใช้เวลากับสื่อดิจิทัลผ่านทางสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้น 59% จาก 3.51 ชั่วโมงต่อวันเป็น 6.08 ชั่วโมงต่อวัน และข้อมูลจาก MediaBrix ในปี 2020 ระบุว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่มีการรับชมคอนเทนท์ประเภทวิดีโอ โดย 55% มีการรับชมทุกวัน 90% ชื่นชอบวิดีโอสั้นแนวตั้ง และ 72% เรียนรู้ผลิตภัณฑ์และรู้จักบริการต่าง ๆ ผ่านคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ

ส่วนข้อมูลจาก SteamElement ระบุว่า Live-streaming กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยในปี 2020 มีการเพิ่มขึ้นของคอนเทนต์จากการ Live-steaming ถึง 99% เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2019 ดังนั้น จะเห็นว่าคอนเทนต์วิดีโอได้เข้ามาช่วงชิงเวลาของกลุ่มผู้ชมในโลกออนไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว

Facebook ส่ง Reels บุกตลาดไทย

จากความสำเร็จของ TikTok ทำให้เจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียรายใหญ่ของโลกต่างก็ซุ่มพัฒนาฟีเจอร์ ‘วิดีโอสั้น’ เพื่อทำตลาดแข่งขันกับ TikTok ไม่ว่าจะเป็น ‘YouTube’ ที่มีฟีเจอร์ ‘Shorts’ สำหรับทำคลิปวิดีโอสั้นแบบแนวตั้งโดยมีความยาวไม่เกิน 1 นาที โดยได้ทดลองใช้ฟีเจอร์นี้ในประเทศอินเดียเป็นที่แรกตามด้วยอเมริกา ซึ่งในอินเดีย Shorts ก็สามารถทำยอดวิวได้ถึง 3,500 ล้านครั้งต่อวัน (แต่อย่าลืมว่า TikTok โดนแบนในอินเดีย)

อีกรายก็คือ ‘Facebook’ ที่เปิดตัวฟีเจอร์ ‘Reels’ ซึ่งก็เป็นฟีเจอร์ทำคลิปวิดีโอสั้นแบบแนวตั้งเช่นกัน โดยสามารถใช้งานได้ทั้งบน Facebook และ Instagram สามารถสร้างวิดีโอความยาว 15 และ 30 วินาที โดยฟีเจอร์ดังกล่าวหลังจากได้ทดลองใช้ในอินเดียและอเมริกา ล่าสุดก็ได้เปิดตัวในไทยเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

ฟีเจอร์ Reels

TikTok ขอใช้ความ ‘เรียล’ เข้าสู้

สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing ระบุว่า จุดแข็งของ TikTok ที่ใช้มัดใจผู้ใช้ก็คือความ Authentic หรือ ‘ความจริงใจ’ และ ‘เครื่องมือ’ ที่หลากหลาย โดยวิดีโอที่ถูกสร้างสรรค์จะทำออกมาแบบเรียลไม่ค่อยประดิษฐ์ ซึ่งแสดงถึงความเป็นตัวตนของครีเอเตอร์ ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นอาจจะเน้นที่ ความสวยงาม อีกทั้งผู้ใช้ที่ได้รับชมวิดีโอจาก คนที่ไม่รู้จัก เพราะแพลตฟอร์มจะสุ่มวิดีโอตามความสนใจให้รับชม ขณะที่แพลตฟอร์มอื่นจะเป็นการรับชมคอนเทนต์ในวง เพื่อน หรือการ ติดตาม เท่านั้น

นอกจากนี้ ความเป็น ‘โลคอล’ และ ‘ชาเลนจ์’ ที่ก่อให้เกิด ‘ไวรัล’ ก็เป็นอีกจุดแข็งของ TikTok โดยที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีหลายไวรัลในไทยที่มีจุดกำเนิดมาจาก TikTok ทั้งสิ้น ทั้งเพลง ‘เจน-นุ่น-โบว์’ เพลง ‘สิบสอง’ เป็นต้น

“ตอนนี้มีหลายเพลตฟอร์มทำวิดีโอสั้น แต่เราก็มั่นใจและไม่ต้องปรับอะไรเยอะ เนื่องจากเรายังคงรูปแบบความครีเอตที่สูง มีชาเลนจ์ที่ทำตามได้ง่าย และมีโลคอลไรซ์แคมเปญเยอะกว่าคู่แข่ง”

สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Consumer Marketing TikTok

สวนกระเเสเพิ่มความยาววิดีโอ

อีกกลยุทธ์ที่จะใช้เพื่อเพิ่มฐานผู้ใช้คือ ‘วิดีโอยาว’ โดยปีที่ผ่านมา TikTok ได้เพิ่มความยาวของวิดีโอจาก 15 วินาทีเป็นสูงสุด 3 นาที โดยจะจะสามารถใช้ได้ในผู้ใช้ที่มีคนติดตาม 5,000 คนขึ้นไป แต่ปีนี้จะเปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถสร้างคอนเทนต์ความยาว 3 นาทีได้ อีกส่วนคือ ฟีเจอร์ ‘Live-streaming’ พร้อมด้วยฟีเจอร์เสริมอย่าง ‘Multi-Guest’ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถชวนเพื่อนมาไลฟ์พร้อมกันได้สูงสุด 3 คน เป็นต้น

นอกจากนี้ TikTok เริ่มหาพันธมิตรที่เป็น ‘ผู้ผลิตคอนเทนต์มืออาชีพ’ เช่น สำนักข่าว ค่ายเพลง ค่ายละคร เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์รูปแบบใหม่ ๆ ล่าสุด ร่วมกับ Star Hunter เปิดตัวซีรีส์แนวตั้งเรื่อง Bad Roommate ความยาวจะอยู่ที่ตอนละ 1-3 นาที รวมการจัดเอ็กซ์คลูซีฟ ไลฟ์สตรีมมิ่ง ร่วมกับศิลปินดัง ๆ

ทั้งนี้ ประเภทคอนเทนต์ที่กำลังได้รับความนิยม คือ ‘ข่าว’ มียอดวิวรวมกว่า 1.1 พันล้านวิว ‘การศึกษา’ เช่น ฮาวทู มียอดวิว 901 ล้านวิว และสุดท้าย ‘คอมเมดี้’ 571 ล้านวิว ซึ่งการเพิ่มระยะเวลาจะช่วยให้คอนเทนต์เหล่านี้สามารถอธิบายเรื่องราวได้ดีขึ้น

ฟังดูย้อนแย้งที่เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นจะเน้นที่วิดีโอยาว แต่วิดีโอยาวจะช่วยเพิ่มให้ผู้ใช้สามารถอธิบายเรื่องราวได้มากขึ้น และฟีเจอร์ไลฟ์ก็จะช่วยให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้ใกล้ชิดกับแฟนคลับได้ง่ายขึ้น โดยปีที่แล้วเป็นการสร้างการรับรู้ แต่ปีนี้จะเป็นการสร้างเอนเกจเมนต์มากขึ้น

ภาพจาก Facebook TikTok Live Thailand

มั่นใจ TikTok เป็น Top of Mind

ข้อมูลจาก App Annie เปรียบเทียบการใช้แพลตฟอร์ม TikTok ระหว่างเดือนมกราคมปี 2021 กับเดือนมกราคมปี 2020 พบว่าในไทยมีการดาวน์โหลด TikTok เพิ่มขึ้น 44% และมีการเพิ่มขึ้นของการใช้เวลาบนแพลตฟอร์มของผู้ใช้แต่ละคนสูงถึง 71%

โดยมีระยะเวลาการใช้งานในแต่ละครั้งเพิ่มสูงขึ้น 47% มีการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ใช้โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 18 – 34 ปี ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนมากกว่า 54% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดในประเทศไทย

ล่าสุด ได้มีการสำรวจความรู้สึกของผู้ใช้คนไทยที่มีต่อ TikTok โดย Kantar พบว่า 83% ของผู้ใช้รู้สึกว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มผู้นำกระแส 82% มองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่เป็นบวกและทำให้ผู้ใช้รู้สึกดีเมื่อได้ใช้เวลาบนแพลตฟอร์ม

“เรายังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องแม้วิกฤตโควิดจะซาลง โดยเรามั่นใจว่ายังสามารถเติบโตได้อีกโดยเฉพาะช่วงเทศกาล เช่น สงกรานต์ที่จะถึงนี้”

จะเห็นว่าเมื่อเหล่าแพลตฟอร์มใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งในด้าน ‘วิดีโอยาว’ ก็หันมาจับตลาด ‘วิดีโอสั้น’ ส่วน TikTok ที่แข็งแรงในตลาดวิโอสั้นก็หนีไปทำวิดีโอยาว ก็ไม่รู้ว่าสงครามนี้จะจบอย่างไร คงต้องดูว่าแพลตฟอร์มใหญ่จะเปลี่ยนผู้ใช้ในมือให้หันมาใช้ฟีเจอร์วิดีโอสั้นของตัวเองได้แค่ไหน ส่วน TikTok เองก็ไม่รู้ว่าวิดีโอยาวที่จะเน้นจะได้รับการตอบรับอย่างไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ เวลาของผู้ใช้โดนขโมยเพิ่มอีกแล้ว

]]>
1324733
YouTube Shorts คู่แข่ง TikTok ยอดวิวพุ่งกระฉูด 3,500 ล้านครั้งต่อวันในอินเดีย https://positioningmag.com/1316780 Thu, 28 Jan 2021 03:22:39 +0000 https://positioningmag.com/?p=1316780 นับเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ส่อแววมาแรง สำหรับ “YouTube Shorts” บริการแชร์คลิปวิดีโอสั้นที่ค่ายยูทูบส่งมาเป็นคู่แข่งกับ TikTok โดยล่าสุดมีการเผยว่าเจ้าฟีเจอร์ตัวใหม่ซึ่งกำลังทดลองให้บริการในเวอร์ชันเบต้า (Beta) ที่อินเดียมียอดวิวพุ่งกระฉูดถึง 3,500 ล้านครั้งต่อวัน

ซูซาน วอจซิกกี (Susan Wojcikci) ซีอีโอ YouTube ระบุว่า “คลิปวิดีโอในแพลตฟอร์ม Shorts ซึ่งช่วยให้ผู้คนทั่วโลกสามารถดูคลิปสั้นๆ ผ่านทางยูทูบ มียอดวิวที่น่าประทับใจถึง 3,500 ล้านครั้งต่อวัน!”

“เรามีแผนที่จะขยายบริการ Shorts ไปยังตลาดอื่นๆ ด้วยภายในปีนี้”

YouTube ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือกูเกิล (Google) เปิดตัว Shorts เมื่อกลางเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เพื่อเป็นแพลตฟอร์มใหม่สำหรับนักสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ต้องการ “แสดงตัวตนผ่านคลิปวิดีโอสั้นแค่ 15 วินาที หรือต่ำกว่านั้น”

ฟีเจอร์ตัวนี้ถูกรวมเอาไว้ในแอปฯ YouTube และปัจจุบันยังคงเปิดให้ทดลองใช้งานได้เฉพาะในอินเดีย

YouTube Shorts ถือเป็นบริการที่กูเกิลตั้งใจสร้างขึ้นมาเพื่อแข่งขันโดยตรงกับแอปฯ แชร์วิดีโอสั้นสัญชาติจีนอย่าง TikTok ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในกลุ่มวัยรุ่น Gen-Z และมีผู้ใช้งานราว 700 ล้านคนทั่วโลกในขณะนี้

YouTube สบโอกาสเข้าไปตีตลาดคลิปวิดีโอในแดนภารตะ หลังเกิดข้อพิพาทชายแดนในภูมิภาคลาดักห์ระหว่างจีนกับอินเดีย ซึ่งทำให้รัฐบาลเดลีสั่งแบน 59 แอปพลิเคชันจีนเมื่อเดือน ก.ค.ปีที่แล้ว รวมถึง TikTok ด้วย

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เคยขู่จะแบน TikTok ในอเมริกา โดยกล่าวหาว่าแอปฯ นี้ว่าเป็นเครื่องมือสอดแนมของรัฐบาลจีน ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานยืนยัน

ทางด้านเฟซบุ๊กก็ตอบสนองความแรงของ TikTok ด้วยการปล่อยฟีเจอร์ Reels ออกมาชนเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา

Source

]]>
1316780