60 แคลอรี "เป๊ปซี่" มาแล้ว

0% กับหวานไปเลยเต็มๆ ยังไม่พอ เพราะยังมีกลุ่มลูกค้าที่ยังไม่พร้อมตัดใจเลือก ยังชอบแบบกลางๆ คือ อยากกินแต่ก็ยังห่วงสุขภาพและยังต้องได้ความอร่อย Pepsi Co จึงเตรียมวางตลาดน้ำดำรุ่นล่าสุดที่อเมริกา กลุ่ม Mid Calorie ให้ความหวานและพลังงาน 60 แคลอรีต่อกระป๋อง 12 ออนซ์ (จากรสชาติปกติมี 150 แคลอรี) มีชื่อเรียกว่า Pepsi Next ในเดือนกรกฎาคมหรือสิงหาคมนี้ ซึ่งความหวานของ Pepsi Next มาจากการผสมผสานระหว่างฟรุกโตสของข้าวโพด และสารให้ความหวาน

การขยับของ Pepsi Co ครั้งนี้เพราะต้องการรักษาน้ำดำให้มีส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลมไว้ให้มากที่สุด เพราะแนวโน้มคนดื่มน้ำดำเริ่มลดลงเรื่อยๆ โดยจากข้อมูลของ Beverage Digest พบว่าในปี 1995 น้ำดำมีส่วนแบ่งในตลาดน้ำอัดลม 65% แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 55% เพราะเมื่อผู้คนเริ่มอยากลดพุง ลองมาดื่มกลุ่มไดเอท แต่ก็ไม่ชอบรสชาติ จึงหันไปหาน้ำเปล่า หรือเครื่องดื่มกลุ่มอื่น

อย่างไรก็ตาม ความท้าทายของ Pepsi Next อยู่ที่การสื่อสารถึงกลุ่มเป้าหมาย เพราะขณะนี้ภายใต้แบรนด์ Pepsi มีทางเลือกให้ลูกค้ามากมาย ตั้งแต่ Pepsi, Diet Pepsi หรือ Pepsi Max (แคลอรี และหวาน 0%) และล่าสุด Pepsi Next (หวานและ 60 แคลอรี) ซึ่งกลุ่ม 0% กับรสชาติหวานปกติไม่ยากนักที่ผู้บริโภคจะเลือกแต่พอมี Next เข้ามาอาจสับสน เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แต่ครั้งนี้ดูเหมือน Pepsi จะมั่นใจมากขึ้นเพราะเวลาเปลี่ยนไปและกลุ่มชอบรสชาติกลางๆ ก็คือกลุ่มกลางๆ ระหว่างหวานกับไดเอท หรืออายุ 25-34 ปี นี้จะช่วยทำให้ตลาดน้ำอัดลมนี้ยังคงเติบโตต่อไป

สำหรับกระบวนการสื่อสารนั้น นอกจากเตรียมงบ 60 ล้านเหรียญในการเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขันร้องเพลง Simon Cowell ในสถานี Fox แล้ว ยังกำลังหาทางสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่ Pepsi Co เคยทำตลาดกลุ่มกลางๆ นี้มาแล้ว รวมไปถึงของ Coke ด้วย

ยังไม่มีคอมเมนต์จาก Coke ถึงการเปิดตัว Pepsi Next แต่ก็คาดการณ์กันว่าหากตลาดตอบรับ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ Coke จะเปิดตัวกลุ่มนี้ตามมาในทันที

ปี 1990 Pepsi Co เคยมีกลุ่ม 70 แคลอรีมาแล้ว ในชื่อ Pepsi XL (X หมายถึงรสเลิศ L คือหวานน้อยกว่า 50%) กลุ่มเป้าหมายอายุ 20-29 ปี เน้นผู้ชาย แต่ไม่นานหายไปจากตลาด
ปี 2004 เริ่มใหม่กับ 70 แคลอรี ในชื่อ Pepsi Edge ที่เน้นกลุ่ม Dual Users ที่ชอบหวานหรือไดเอทก็ได้ที่มีอยู่ประมาณ 60 ล้านคนในอเมริกา และCoke กับแบรนด์ C2 ที่เน้นกลุ่ม 20-40 ปี
ปี 2005-2007 แบรนด์ทั้งสองหายไปจากตลาด
ปี 2011 กลับมาอีกครั้งในกลุ่ม 60 แคลลอรีกับ Pepsi Next