พิษก่อการร้าย & ราคาน้ำมัน … ปั่นป่วนดอลลาร์ & เยน

เงินดอลลาร์แกว่งอยู่ในช่วงแคบ เมื่อเทียบกับเงินยูโร ซื้อขายในอัตราเฉลี่ยราว 1.20 ดอลลาร์/ยูโร ในขณะเดียวกัน เงินอเมริกันมีค่าเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น ซึ่งได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่ 44.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ในตลาดสหรัฐฯ ส่งผลให้ตลาดหุ้นโตเกียวหวั่นไหว เนื่องจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันอย่างมาก สำหรับเงินปอนด์สเตอร์ลิงอังกฤษ มีค่าขยับสูงขึ้นเพียงชั่วขณะ หลังจากที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยรอบที่ 5 ภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 ปี อยู่ที่ระดับ 4.75% ตามความคาดหมายของตลาดเงิน ส่วนราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ฟื้นตัวดีขึ้น เพราะได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ตึงเครียดเกี่ยวกับภัยก่อการร้ายในสหรัฐฯ และวิกฤตราคาน้ำมันแพง

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ซวนเซในช่วงต้นสัปดาห์ เมื่อทางการสหรัฐฯประกาศเพิ่มระดับระวังภัยการก่อการร้ายในประเทศ เพราะหน่วยงานข่าวกรองมีรายงานว่ากลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ al Qaeda มีแผนการที่จะสร้างความเสียหายให้แก่สถาบันการเงินชั้นนำในตลาดเงินสหรัฐฯ อาทิ สำนักงานกองทุนการเงินระหว่างประเทศ สำนักงานธนาคารโลก รวมถึงสำนักงานของธนาคารพาณิชย์สหรัฐฯ และตลาดหุ้นนิวยอร์ก เป็นต้น ก่อให้เกิดความระส่ำระสายไปทั่วตลาดเงินและตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนพากันเทขายเงินดอลลาร์และหันมาซื้อสกุลเงินปลอดภัยแทน ได้แก่ เงินยูโรและเงินฟรังค์สวิส

เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงแม้จะมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯบางรายการ ได้แก่ ดัชนีภาคอุตสาหกรรมการผลิตเดือนกรกฎาคมได้ขยับสูงขึ้นเป็น 62 จากระดับ 61.1 เดือนมิถุนายน สะท้อนว่ากิจกรรมภาคอุตสาหกรรมยังเข้มแข็ง แต่ก็มีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศออกมาแสดงผลไม่น่าพอใจเท่าใดนัก ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯที่ควรเพิ่มสูงขึ้น กลับอ่อนกำลังลง อาทิ อัตราการขยายตัว GDP ไตรมาสที่ 2 เพิ่มขึ้น 3.0% จากที่คาดการณ์ไว้ 3.6% การบริโภคส่วนบุคคลเดือนมิถุนายนลดลง 0.7% ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มเพียง 0.2% โดยเฉพาะดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคเพิ่มเล็กน้อย 1.5% เท่านั้นในเดือนมิถุนายน ส่งผลให้ตลาดเงินเริ่มไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐฯจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียงใดในวันที่ 10 สิงหาคมนี้

ในช่วงกลางสัปดาห์ นักลงทุนยังคงเทขายเงินดอลลาร์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ค่าเงินดอลลาร์อเมริกันยังคงผันผวน สาเหตุสำคัญที่ทำให้มีการขายเงินดอลลาร์ ก็คือ กระแสข่าวการก่อการร้าย รวมถึงเหตุการณ์รุนแรงตามสถานที่ต่างๆ อาทิ ไฟไหม้บริเวณใกล้เคียงกับกรุงเอเธนส์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2004 ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก สร้างความกังวลให้แก่ตลาดเงินและตลาดหุ้น เนื่องจากเกรงว่าเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตราคาน้ำมันแพงครั้งนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินเยนญี่ปุ่นมีค่าลดลงเป็นลำดับ เนื่องจากตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ราคาน้ำมันทะยานสูงขึ้นในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้กลัวว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่เพิ่งฟื้นตัวอาจต้องสะดุดลง การที่ค่าเงินเยนลดต่ำลง เมื่อเทียบกับเงินยูโร พลอยส่งผลให้เงินยูโรเข้มแข็ง เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เงินดอลลาร์สามารถยืนหยัดอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1.20 ดอลลาร์/ยูโร ได้สำเร็จจวบจนปลายสัปดาห์ เพราะตัวเลขเกี่ยวกับการจ้างงานค่อนข้างสดใส กระตุ้นให้นักลงทุนชะลอการเทขายเงินดอลลาร์ไว้ก่อน

เงินปอนด์อังกฤษ เคลื่อนไหวอยู่ในช่วง 1.82 ดอลลาร์/ปอนด์ ตลอดสัปดาห์ ปัจจัยสำคัญที่มีอิทธิพลต่อค่าเงินปอนด์ ได้แก่ รายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ประกาศต้นสัปดาห์โน้มน้าวให้ตลาดเงินพากันเก็งเกี่ยวกับท่าทีของธนาคารกลางอังกฤษว่าจะปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างไร ปรากฏว่าแบงก์ชาติได้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในวันที่ 5 สิงหาคม เป็นอัตรา 4.75% นับเป็นครั้งที่ 5 ตั้งแต่ปลายปี 2546 เป็นต้นมา แต่อย่างไรก็ตาม ค่าเงินปอนด์ไม่ได้รับผลดีจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเท่าใดนัก เนื่องจากตลาดเงินส่วนใหญ่คาดกันไว้แล้ว อีกทั้ง การที่เจ้าหน้าที่การเงินระดับสูงอังกฤษออกมาแสดงความคิดเห็นว่าธนาคารกลางคงจะประวิงเวลาการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป กลับส่งผลบั่นทอนค่าเงินปอนด์ในช่วงท้ายสัปดาห์

ราคาทองคำในตลาดต่างประเทศ ซื้อขายอยู่ในช่วงแคบราว 391-392 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งนับเป็นระดับราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนราคาทองคำ ได้แก่ ปริมาณการซื้อทองคำได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีข่าวเกี่ยวกับแผนการก่อการร้ายในสหรัฐฯ และความรุนแรงต่อเนื่องในอิรัก รวมถึงแนวโน้มราคาน้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ โดยยังไม่มีทีท่าว่าจะชะลอตัวลง ปลุกความกังวลเกี่ยวกับภัยเงินเฟ้อ ช่วยดึงดูดให้นักลงทุนเพิ่มปริมาณความต้องการถือทองคำในที่สุด

อัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เทียบกับเงินตราสำคัญสกุลต่างๆ ณ วันที่ 2 สิงหาคม 2547 เทียบกับวันที่ 5 สิงหาคม 2547 (ตัวเลขในวงเล็บ) มีดังนี้

เงินดอลลาร์สหรัฐฯ มีค่าเท่ากับ 1.2035 ดอลลาร์/ยูโร (1.2069 ดอลลาร์/ยูโร) 110.74 เยน (111.72 เยน) และ 1.8285 ดอลลาร์/ปอนด์ (1.8249 ดอลลาร์/ปอนด์)

ราคาทองคำในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2547 เท่ากับ 391.60 ดอลลาร์/ออนซ์ เทียบกับราคา 391.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2547