เอ็กซอนโมบิลเผยรายงานแนวปฏิบัติขององค์กรต่อสังคม ประจำปี 2548

เออร์วิ่ง, เท็กซัส–(บิสิเนส ไวร์)

เอ็กซ็อน โมบิล คอร์ปอเรชั่น (NYSE:XOM) เปิดเผยรายงานว่าด้วยแนวปฏิบัติขององค์กรต่อสังคม ประจำปี 2548 (2005 Corporate Citizenship Report : CCR) ซึ่งครอบคลุมผลการดำเนินงานทั่วโลกของบริษัทในการตอบสนองความต้องการด้าน พลังงานของโลก พร้อมกับแสดงความรับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคมไปพร้อมๆกันด้วย

สิ่งที่เพิ่มเติมในรายงานปี 2548 ได้แก่การอธิบายวิธีการของบริษัทในการประสานงานกับหลายๆฝ่าย การอภิปรายเกี่ยวกับความคิดริเริ่มใหม่ๆ และความท้าทายในอนาคต และการนำเสนอมุมมองของบริษัทเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ รายงานนี้ยังแสดงตารางข้อมูลเปรียบเทียบการปฏิบัติงานของบริษัทประจำปี 2545-2548 และเป็นครั้งแรกที่มีการให้การรับรองบุคคลที่ 3 โดย Lloyd’s Register Quality Assurance ในรายงานที่ไม่เกี่ยวกับการเงิน

ความสำเร็จในปี 2548 ได้แก่ การปฏิบัติงานด้านความปลอดภัย การป้องกันการรั่วไหลของน้ำมันที่ดีที่สุดเท่าทีเคยมีมา และการขยายการลงทุนในเทคโนโลยีการนำของเสียมาผลิตพลังงานซึ่งเป็นการประหยัด พลังงานที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ถึง 9 ล้านเมตริกตันต่อปีในปัจจุบัน สามารถดูรายงานได้ที่ www.exxonmobil.com

เร็กซ์ ดับเบิลยู. ทิลเลอร์สัน ประธานกรรมการและซีอีโอของเอ็กซ็อนโมบิล กล่าวในจดหมายเปิดผนึกของเขาว่า “รายงานนี้แสดงให้เห็นความมุ่งมั่นทุ่มเทของเราในการตอบสนองความต้องการ พลังงานด้วยวิธีการที่ประหยัด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรับผิดชอบต่อสังคม” “เราเชื่ออย่างแน่วแน่ว่า วิธีการที่ทำให้เกิดผลลัพธ์นั้น สำคัญเท่าๆกับผลลัพธ์ เราภูมิใจกับความสำเร็จจนถึงปัจจุบันของเรา และเราตั้งตารอที่จะพบกับความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าในอนาคต”

สาระสำคัญของรายงาน
รายงานนี้ยึดตามแนะแนวการเขียนรายงานการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนของอุตสาหกรรม น้ำมันและก๊าซ (Oil and Gas Industry Guidance on Sustainability Reporting) ของสมาคมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของอุตสาหกรรมปิโตรเลียมนานาชาติ (IPIECA) และสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) แนวทางส่วนใหญ่ดังกล่าวสอดคล้องกับคำแนะนำที่ออกโดย Global Reporting Initiative (GRI) ข้อเปรียบเทียบระหว่างแนวทางของ IPIECA และ GRI เป็นเรื่องใหม่สำหรับรายงานปีนี้ สาระสำคัญของรายงานได้แก่

— ตลอดปี 2548 เอ็กซอนโมบิลรักษาความเป็นผู้นำในอุตสาหรรมด้านความปลอดภัยและสุขภาพ โดยการทำตามวัตถุประสงค์ที่แน่วแน่ นั่นคือ “ไม่มีใครได้รับความเสียหาย” บริษัทได้เปิดตัวระบบการรายงาน IMPACT อย่างเป็นทางการ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสามารถในการรวบรวมและวิเคราะห์เหตุการณ์ด้านสุข ภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม เอ็กซอนโมบิลได้ลดการสูญเสียเวลาของลูกจ้างลง 90% ตั้งแต่ปี 2537 และ 60% ตั้งแต่ปี 2543

— ในปี 2548 เอ็กซอนโมบิลก้าวหน้าไปอีกขั้นในการตอบสนองความต้องการพลังงาน พร้อมกับการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบในทุกแห่งที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ โดยมีเหตุการณ์เล็กๆเกี่ยวกับการรั่วไหลของน้ำมันลงในน้ำเกิดขึ้นเพียงสอง ครั้งเท่านั้น ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด บริษัทได้เพิ่มโรงงานเปลี่ยนของเสียเป็นพลังงานเป็น 85 แห่ง ซึ่งช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ปีละประมาณ 9 ล้านเมตริกตัน บริษัทยังพยายามที่จะพัฒนาและใช้เทคโนโลยีอย่างประหยัดในการตอบสนองความต้อง การพลังงานในอนาคต และนำความคาดหวังของบริษัทมาปฏิบัติในทุกๆส่วนของธุรกิจเพื่อการปฏิบัติงาน ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นเลิศ นอกจากนี้บริษัทยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำด้านการอนุรักษ์พลังงานและ สิ่งแวดล้อม ในงานประชุมเทคโนโลยีด้านพลังงานในภาคอุตสาหกรรมครั้งที่ 27 (Industrial Energy Technology Conference) ในนิวออร์ลีน ในเดือนพฤษภาคม 2548

— เอ็กซอนโมบิลมุ่งมั่นที่จะลดการบริโภคพลังงานและปรับปรุงประสิทธิภาพของ พลังงานในการดำเนินงานของบริษัท ตั้งแต่เริ่มต้นขึ้นในปี 2543 ระบบจัดการพลังงานทั่วโลก (GEMS) ได้พัฒนาเป้าหมายภายในสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพซึ่งให้ผลคือ ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานลดลงประมาณ 500 ล้านดอลลาร์ต่อปี และลดการรั่วไหลของก๊าซเรือนกระจกลงประมาณ 7 ล้านเมตริกตันต่อปี

— ในปี 2548 เอ็กซอนโมบิลได้แนะนำกรอบการทำงานด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน เพื่อทำให้หลักการ Voluntary Principles on Security and Human Rights ใน 7 ประเทศ ได้แก่ แองโกลา คาเมรูน ชาด อีควาทอเรียล กีนี อินโดนีเซีย ไนจีเรีย และเวเนซูเอล่า เป็นผลสำเร็จ กรอบการทำงานดังกล่าวให้คำแนะนำและความคาดหวังสำหรับการจัดการความสัมพันธ์ ด้านความมั่นคงทั้งกับรัฐบาลและผู้ให้บริการความมั่นคงเอกชน กรอบการทำงานนี้ได้รับการบูรณาการกับระบบ Operations Integrity Management System ของบริษัทสำหรับโรงงานเหล่านี้และสำหรับสถานที่ปฏิบัติการอื่นๆ ทั้งหมดทั่วโลกของเอ็กซอนโมบิลในปี 2549

— เอ็กซอนโมบิลสนับสนุนความโปร่งใส ต่อต้านการคอร์รัปชั่น และทุ่มเทให้กับความซื่อสัตย์และความมีจริยธรรมในทุกแห่งที่บริษัทดำเนินการ ในปี 2549 บริษัทได้เพิ่มข้อตกลง 2 ฉบับเกี่ยวกับความโปร่งใสของการจ่ายเงินกับรัฐบาลคาร์ซัคสถานและไนจีเรีย ส่งผลให้เอ็กซอนโมบิลมีข้อตกลงเรื่องความโปร่งใสรวม 5 ฉบับ

— เอ็กซอนโมบิลตระหนักถึงผลกระทบด้านสุขภาพและเศรษฐกิจของโรคมาลาเรียที่มีต่อ แรงงาน ครอบครัวของแรงงาน และชุมชนที่บริษัทดำเนินงานอยู่ เอ็กซอนโมบิลทำงานร่วมกับหุ้นส่วนเพื่อทำให้วัตถุประสงค์และกลยุทธ์ด้านความ คิดริเริ่มในการกำจัดโรคมาลาเรียเกิดความก้าวหน้า บริษัทได้ให้เงินสนับสนุนกว่า 20 ล้านดอลลาร์ ผ่านโครงการ Africa Health Initiative ของบริษัท แก่องค์กรและโครงการด้านสุขภาพต่างๆที่ต่อสู้กับโรคมาลาเรีย และปัญหาด้านสาธารณสุขที่ต้องจัดการก่อน

— เมื่อปีที่แล้ว บริษัทได้เปิดตัวโครงการการลงทุนในชุมชนโครงการใหม่ คือ โครงการให้การศึกษาผู้หญิงและเด็กหญิง (Educating Women and Girls Initiative) ใน 8 ประเทศ ในฐานะที่เป็นการขยายการสนับสนุนการศึกษาที่เอ็กซอนโมบิลดำเนินมาอย่างยาว นาน บริษัทได้ลงทุนมากกว่า 3 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยลดสิ่งที่ขวางกั้นการเติบโตด้านเศรษฐกิจโดยให้การศึกษา และการฝึกอบรมผู้หญิงและเด็กหญิงในประเทศกำลังพัฒนา ในปี 2548 โครงการสำคัญๆ ได้รับการสนับสนุนด้านเงินทุนในประเทศการ์ตา คาซัคสถาน อินโดนีเซีย โคลัมเบีย แองโกลา ชาด อิควาทอเรียล กินี และไนจีเรีย เพื่อช่วยให้เด็กหญิงได้รับการศึกษาในโรงเรียน และให้การศึกษาระดับปริญญาและแบบวิชาชีพ รวมถึงการฝึกอบรมด้านความสามารถในการอ่านและเขียนแก่ผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นโครงการหนึ่งในอีกหลายโครงการของบริษัท

— โครงการความยืดหยุ่นในสถานที่ทำงาน (Workplace Flexibility Program) ของเอ็กซอนโมบิลได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยเพื่อยกระดับความสามารถของลูก จ้างให้มีชีวิตการทำงานที่สมดุล นอกจากนี้บริษัทยังได้แนะนำโครงการ Working Globally เพื่อเชื่อมช่องว่างทางวัฒนธรรมสำหรับทีมงานทั่วโลก บริษัทตรวจสอบความหลากหลายอย่างใกล้ชิด เพื่อการพัฒนาในเรื่องความเท่าเทียมกันทางเพศ และการเพิ่มโอกาสให้ผู้หญิงทั่วโลกได้แสดงความเป็นผู้นำ ทั้งนี้ ในสหรัฐอเมริกา บริษัทยังคงมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มบทบาทของผู้หญิงและชนกลุ่มน้อย

ติดต่อ: เอ็กซอนโมบิล
ฝ่ายสื่อสัมพันธ์
โทร. 972-444-1107