ซีคอน โฮม ควง คอมแพค กวาดยอดขายไตรมาสแรก 357 ล้าน

ผู้นำตลาดรับสร้างบ้านเมืองไทย “พี่ใหญ่ซีคอนกับน้องเล็กคอมแพค” ปลื้มหลังสรุปตัวเลขไตรมาสแรกทะลุเป้ากว่า 39% รวม 357 ล้านบาท สวนกระแสแบบหักปากกาเซียนที่ฟันธงยังไงก็ซบ ประกาศเดินหน้าอีก 3 ไตรมาสแบบเต็มที่ เชื่อมาถูกทาง ไม่หวั่นแม้เศรษฐกิจและการเมืองไม่นิ่ง

นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด ผู้บุกเบิกด้านธุรกิจรับสร้างบ้านของเมืองไทยมากว่า 49 ปี เปิดเผยว่า แม้หลายฝ่ายต่างกังวลถึงภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 2553 แต่ ซีคอนและคอมแพค มองต่าง พร้อมวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เข้าถึง ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ทั้งด้านระดับราคาที่มีให้เลือกตั้งแต่ 1.0 – 9.6 ล้านบาท พร้อมทั้งพัฒนาแบบบ้านเพื่อเสนอเป็นทางเลือกแก่ทุกกลุ่มอายุ ตลอดจนจุดเด่นด้วยการสร้างโดยระบบซีคอน ที่เป็นที่ยอมรับ ในคุณภาพและเวลาการก่อสร้างที่รวดเร็วอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ทำให้บริษัทฯ ผ่านไตรมาสแรกของปี 2553 ไปได้แบบเหนือความคาดหมาย คือสร้างยอดขายรวมได้ 357 ล้านบาท (จากซีคอน โฮม 238 ล้านบาท และ คอมแพค โฮม 119 ล้านบาท) เกินกว่าเป้าที่ตั้งไว้ประมาณ 39%

“เราทำการตลาดแบบระมัดระวังมากขึ้น โดยเน้นสร้างกลยุทธ์แบบเจาะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มกราคมเป็นต้นมา ซึ่งแต่ละครั้งล้วนได้รับการตอบรับอย่างดี จากลูกค้า ซึ่ง ณ ปัจจุบันทั้ง ซีคอน โฮม และคอมแพค โฮม สามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง เพราะลูกค้ามีความเชื่อมั่นในชื่อเสียงและคุณภาพการก่อสร้าง รวมทั้งยังสร้างสรรค์แบบบ้านให้เลือกมากมาย ที่สำคัญท่ามกลางภาวะแนวโน้มการปรับตัวเพิ่มของราคาของวัสดุก่อสร้างก็มีผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคเช่นกัน” นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าว

ด้านมุมมองต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2553 ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ซีคอน จำกัด และบริษัท คอมแพค โฮม จำกัด กล่าวแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ในไตรมาส 2 ถือเป็นช่วงที่เราต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะความไม่สงบทางการเมือง รวมทั้งแนวโน้มการปรับตัวสูงขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง ดังนั้นต้องวางแผนการตลาดอย่างรัดกุมยิ่งขึ้น แต่พิจารณารวมๆ ก็ไม่น่าจะกระทบมากนัก เพราะเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันเติบโตอย่างมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนทั้งในและนอกประเทศไม่กังวลมากนัก รวมทั้งผู้บริโภคก็เริ่มปรับตัวกับเหตุการทางการเมืองได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่วนครึ่งปีหลังยังเป็นเรื่องที่ประเมินยาก โดยบริษัทฯได้มีการประเมินแผนการตลาดบ่อยยิ่งขึ้น เพื่อศักยภาพในการปรับตัวเพื่อสร้างยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ “

และยังแถมท้ายถึงเคล็ดลับของความสำเร็จในไตรมาสแรกว่า “เราต้องเรียนรู้ถึงความต้องการผู้บริโภคให้ได้ว่า ผู้บริโภคต้องการอะไร ซึ่งจะต้องตอบสนองความต้องการนั้นๆให้ได้ดีที่สุด”