จัดตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) รวมกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ

จัดตั้งสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association: THCA) เพื่อยกระดับภาพรวมและผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการสมัยแรก หวังเป็น “เวทีกลาง” ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรับสร้างบ้านมืออาชีพ และกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างที่ยังไม่มีสังกัดหรือเวทีแสดงเป็นของตัวเอง เพื่อร่วมมือกันและขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งในส่วนผู้ประกอบการและฝ่ายผู้บริโภค ชูนโยบายจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้บริโภค กรณีเกิดข้อขัดแย้งหรือตกลงกันไม่ได้กับสมาชิก โดยสมาคมฯ จะเป็นตัวกลางเข้าไปแก้ไขเพื่อลดข้อพิพาท ในด้านนโยบายการยกระดับผู้ประกอบการ จะมุ่งเน้นกิจกรรมเชิงสัมมนาทางวิชาการ เพื่อให้ความรู้ทั้งฝ่ายผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมถึงการสนับสนุนสินค้าและการสร้างบ้านประหยัดพลังงานเพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่ยั่งยืน

สมาคมไทยรับสร้างบ้าน (Thai Home Constructions Association: THCA) สมาคมเพื่อยกระดับภาพรวมและผู้ประกอบการในธุรกิจรับสร้างบ้านทั่วประเทศ ได้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมฯ สมัยแรกเรียบร้อยแล้ว โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นตัวกลางในการประสานงานกับหน่วยงานราชการ กลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงกลุ่มผู้บริโภค เพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจรับสร้างบ้านของกลุ่มสมาชิกให้มีมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ โดยจะมุ่งเน้นเปิดรับสมาชิกจากทั่วประเทศ พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการได้มีการขยายธุรกิจและมีการบริการอย่างมีมาตรฐาน เป็นที่น่าเชื่อถือของผู้บริโภคในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันสมาชิกของสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) มาจากกลุ่มผู้ประกอบการและกลุ่มผู้ค้าวัสดุก่อสร้างจากทั่วประเทศ ไม่เฉพาะแต่ในกรุงเทพและปริมณฑลเท่านั้น นับเป็นจุดแข็งของการเชื่อมโยงเครือข่ายสมาชิกที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มสมาชิกวัสดุก่อสร้างอย่างแท้จริง

นายสิทธิพร สุวรรณสุต นายกสมาคมไทยรับสร้างบ้าน (THCA) กล่าวว่า “ทางสมาคมมีนโยบายที่จะผลักดันผู้ประกอบการหรือบริษัทรับสร้างบ้านที่เข้ามาเป็นสมาชิก รวมถึงผู้ประกอบการที่จะเข้ามาสู่ธุรกิจรับสร้างบ้านรายใหม่ ให้เปลี่ยนทัศนคติในการแข่งขันจากเดิมที่เน้นการแข่งขันเพื่อเอาชนะคู่แข่งรายอื่น มาเป็นการมุ่งเน้นแข่งขันกับตัวเองเป็นหลัก เพื่อเป็นการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจตนเองโดยยึดเอาผู้บริโภคเป็นแกนหลัก ทั้งนี้ผู้ประกอบการควรมุ่งตอบสนองความต้องการให้ดีที่สุด พร้อมๆ กับควรมีการตรวจสอบและควบคุมดูแลผู้ประกอบการด้วยกันเอง เพื่อมิให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบจากผู้ประกอบการบางราย รวมถึงสร้างกลไกลการแข่งขันให้เกิดความยุติธรรมและหลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมายและกฎระเบียบของบ้านเมือง นอกจากนี้ทางสมาคมยังจะช่วยส่งเสริมให้สมาชิกและผู้ประกอบการควรดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมอย่างจริงจัง โดยจะเป็นเสมือนตัวกลางในการเชื่อมต่อผู้ประกอบการที่อยู่ในธุรกิจรับสร้างบ้าน และกลุ่มวัสดุก่อสร้างให้ร่วมแรงร่วมใจกันอย่างจริงจัง เพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภค”

“ที่ผ่านมาผู้บริโภคมักถูกเอารัดเอาเปรียบ ทั้งในกรณีของการสร้างบ้านแต่ไม่ได้บ้าน และสร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงสร้างบ้านไม่แล้วเสร็จตามสัญญา ทางสมาคมฯ จึงมีแนวคิดจะจัดตั้ง “กองทุนเพื่อการช่วยเหลือผู้บริโภค กรณีไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือขัดแย้งกัน” โดยในระยะแรกจะให้ความช่วยเหลือเฉพาะผู้บริโภคที่สร้างบ้านกับสมาชิกสมาคมฯ เท่านั้น ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคและแน่ใจได้ว่าหากสร้างบ้านกับสมาชิกจะได้รับการดูแลจากสมาคมฯ ในการเป็นตัวกลางประสานงานเรียกร้องความถูกต้อง ซึ่งผู้บริโภคสามารถโทรศัพท์หรือเข้ามาปรึกษากับทางสมาคมได้ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือถูกเอารัด เอาเปรียบในเรื่องดังกล่าว และในระยะต่อไป จะขยายความช่วยเหลือไปยังผู้บริโภคทั่วไปในลักษณะให้ความช่วยเหลือฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบการขี้ฉ้อ” นายสิทธิพรกล่าวเพิ่มเติม

สำหรับทิศทางการทำกิจกรรมของสมาคม จะไม่เน้นไปที่การจัดงานแฟร์ หรือการออกบู๊ท แต่จะมุ่งไปที่การจัดงานสัมมนาในหัวข้อต่างๆ ที่มีประโยชน์กับผู้ประกอบการและผู้บริโภค รวมถึงกลุ่มสมาชิก โดยจะจัดกิจกรรมการสัมมนาครั้งแรกช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ในหัวข้อ “เปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ธุรกิจรับสร้างบ้าน…ได้หรือเสีย” ซึ่งการสัมมนาดังกล่าวจะมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอข้อมูลจากตัวแทนภาครัฐที่เกี่ยวข้องโดยตรง ได้แก่ กรมเจรจาการค้า การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากนักวิชาการ นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จในแต่ละสาขา ผู้ประกอบการธุรกิจรับสร้างบ้าน และผู้ประกอบการวัสดุก่อสร้าง ในเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการเปิดเสรีทางการค้าและการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยในอนาคตอันใกล้นี้ ทั้งนี้ทางสมาคมฯ มองไว้ว่าการจัดงานสัมมนาในลักษณะนี้ ประโยชน์จะตกเป็นของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคทั้งสิ้น ซึ่งจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสมาคมเป็นที่น่าชื่อถือไปด้วย

นอกจากนี้ทางสมาคมยังมีนโยบายในการส่งเสริมการเลือกใช้วัสดุ และการสร้างบ้านประหยัดพลังงานให้แก่กลุ่มสมาชิกรับสร้างบ้านและกลุ่มผู้บริโภค เพราะเชื่อว่าปัจจุบันบ้านประหยัดพลังงานเป็นที่ต้องการไม่เฉพาะในตลาดรับสร้างบ้านประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ต้องการของตลาดรับสร้างบ้านทั่วโลก ซึ่งปัจจุบันจะเห็นได้ว่าวัสดุและนวัตกรรมการก่อสร้างบ้านประหยัดพลังงานจะมีราคาที่ค่อนข้างสูงในตลาดรับสร้างบ้าน แต่ทางสมาคมจะทำการผลักดันในเรื่องของราคาการใช้วัสดุและการสร้างบ้านดังกล่าวให้สมเหตุสมผล เพราะเชื่อว่าจะเป็นผลดีในระยะยาวต่อผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของค่าใช้จ่ายระยะยาวในการอยู่อาศัย ความแข็งแรงทนทาน และยังสามารถช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้