เอมิเรตส์สร้างผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกสูงเป็นประวัติการณ์

สายการบินเอมิเรตส์สร้างผลกำไรสุทธิจำนวน 925 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณปัจจุบันซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2553 ตัวเลขดังกล่าวชี้ถึงผลประกอบการที่สูงขึ้นอย่างโดดเด่นถึงร้อยละ 351.2 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2552 ซึ่งมีผลกำไร 205 ล้านเหรียญสหรัฐ
 
“ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2553-54 เป็นตัวเลขที่สูงมากอย่างไม่น่าเชื่อ และสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตของเอมิเรตส์ในการรองรับความต้องการของลูกค้า ด้วยการลงทุนซื้อเครื่องบินใหม่ อีกทั้งการลงทุนด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการสำหรับผู้โดยสาร เรายังคงเดินหน้าใช้ผลกำไรของเราลงทุน เพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ และเพื่อสถานะความแข็งแกร่งทางด้านการเงินของเราไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อให้เราสามารถบรรลุถึงความด้านความรับผิดชอบต่อภาระผูกพันทางการเงิน และสามารถระดมเพิ่มงบประมาณสำหรับการส่งมอบเครื่องบินในอนาคตได้ สถานะที่แข็งแกร่งของเราในวันนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของเราในการปรับตัวที่นำพาเราไปสู่การเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ถึงแม้จะสั่งซื้อเครื่องบินใหม่ที่มีเทคโนโลยีที่ความทันสมัยไปถึง 62 ลำในช่วงครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ แต่เราก็ยังสามารถคงสถานะการเติบโตไว้ได้” ชี้ค อาเหม็ด บิน ซาอิด อัล มัคตุม ประธานและผู้อำนวยการ สายการบินเอมิเรตส์และบริษัทในเครือ กล่าว
 
สายการบินเอมิเรตส์ตอกย้ำถึงการเติบโตในทางบวกในภาคธุรกิจการบินด้วยจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างสูง โดยในช่วงหกเดือนแรกของปีงบประมาณสายการบินฯ ได้ขนส่งผู้โดยสารเป็นจำนวน 15.5 ล้านคน และมีสถิติจำนวนผู้โดยสารคิดเป็นร้อยละ 81.2 ต่อจำนวนที่นั่งรวม ซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดตั้งแต่มีการรายงานผลประกอบการในรอบหกเดือนแรก ในขณะที่ยอดผู้โดยสารในที่นั่งชั้น พรีเมี่ยมก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกที่ได้รับการกระตุ้นให้ดีขึ้น
 
ในขณะที่เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้รายงานผลประกอบการที่ยอดเยี่ยมทั่วเครือข่ายการให้บริการในรอบครึ่งปีหลังเช่นกัน โดยมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.4 (4.4 พันล้าน AED) โดยมีตัวเลขสินค้าที่ขนส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.7 หรือ 897,000 ตัน เมื่อเทียบกับ 725,000 ตันในช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เอมิเรตส์ สกายคาร์โก้ ยังคงมีส่วนสำคัญในการสร้างรายได้จากภาคการขนส่งทางอากาศให้กับสายการบินฯ คิดเป็นร้อยละ 17.8
 
บัญชีสมดุลของเอมิเรตส์เพิ่มขึ้นเป็น 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญร้อยละ 18.5 หรือ 529 ล้านเหรียญสหรัฐเมื่อเทียบจากวันที่ 31 มีนาคม 2553 บัญชีสมดุลที่เพิ่มขึ้นเป็นผลมาจากการชำระเงินเพื่อปรับการไหลออกของเงินทุนจำนวน 2.4 พันล้าน AED โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายล่วงหน้าก่อนการส่งมอบเครื่องบินและสำหรับสินทรัพย์อื่นๆ ของเครื่องบิน ในช่วงครึ่งแรกของปี สายการบินฯ ประสบความสำเร็จในการระดมเงินทุนถึงจำนวน 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่น้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นค่าใช้จ่ายหลักของสายการบินฯ ซึ่งส่งผลให้ค่าการจัดการสูงขึ้นถึงร้อยละ 22.6 หรือ 6.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
 
“การลงทุนในอนาคต และการปรับตัวในการดำเนินงานในที่ช่วงที่จำเป็นนับเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์ของเรา ความยืดหยุ่นนี้ทำให้เรามีทางเลือกในการเพิ่มจำนวนผู้โดยสารและประสิทธิภาพของการขนส่งสินค้าทางอากาศให้สามารถรองรับความความต้องการที่สูงขึ้น การยึดหลักนี้ที่สัมพันธ์กับเศรษฐกิจของภูมิภาคทำให้เราสามารถขยายฝูงบินของเราเพื่อเป็นการกระตุ้นต่อการรายได้ของเราได้ดียิ่งขึ้น” ชี้ค อาเหม็ด กล่าว
 
รายได้รวมทั้งหมดของเอมิเรตส์ รวมถึงรายได้จากการบริหารจัดการส่วนอื่น ๆ ในช่วงครึ่งปีแรกมีมูลค่ารวม 7.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ แสดงชัดถึงตัวเลขการเติบโตร้อยละ 35.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาซึ่งมีรายได้ 5.3 พันล้านสหรัฐฯ
 
สายการบินเอมิเรตส์ขยายตัวอย่างสูงในธุรกิจการบินและการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยได้เปิดเส้นทางการบินใหม่ 6 เส้นทางตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา คือ อัมสเตอร์ดัม ปราก มาดริด ดาการ์ (สำหรับผู้โดยสาร) และนอกจากนั้นยังมี อัลมาตี และเบแกรม (สำหรับการขนส่งสินค้าเท่านั้น) และได้เพิ่มความถี่ของเที่ยวบินและขนาดบรรทุกผู้โดยสารโดยใช้เครื่องบินขนาดใหญ่ขึ้นในเส้นทางที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว
ในของเครือข่ายการบินที่ให้บริการด้วยเครื่องบิน A380 สายการบินเอมิเรตส์ได้เปิดให้บริการเครื่องบิน A380 เพิ่มอีกสองเส้นทาง คือ แมนเชสเตอร์ และปักกิ่ง โดย A380 ยังคงได้รับความนิยมในทุกเส้นทางที่ให้บริการ และได้กลายมาเป็นภาพลักษณ์อันโดดเด่นของสายการบินในด้านความสะดวกสบายของผู้โดยสาร นวัตกรรมที่ทันสมัย ประสิทธิภาพของการทำงานของเครื่อง ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และความสามารถในการสร้างรายได้ให้กับสายการบินฯ ได้อย่างคุ้มทุน
 
เอมิเรตส์เดินหน้าอย่างขันแข็งในการลงทุนกับเครื่องบินในรอบครึ่งปีแรก โดยได้รับการส่งมอบเครื่องบินใหม่จำนวน 6 ลำ ซึ่งประกอบด้วย เครื่องบินแอร์บัส A380 5 ลำ และอีก 1 ลำ คือ โบอิ้ง 777 และได้เปิดห้องรับรองผู้โดยสารแห่งใหม่ที่สนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ปูดอง ส่วนเครื่องบินใหม่อีก 2 ลำมีกำหนดส่งมอบก่อนช่วงสิ้นปีงบประมาณปัจจุบัน (วันที่ 31 มีนาคม 2553)
 
ความสามารถในการบรรทุกต่อจำนวนที่นั่งต่อกิโลเมตร (Available Seat Kilometres – ASKM) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.9 ในขณะที่จุดคุ้มทุนวัดจากรายได้ตัน-กิโลเมตรเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.4