นามบัตรรูปลักษณ์แปลกตา ที่สามารถบอก Positioning ได้มากกว่านามบัตรทั่วไป เจ้าของกิจการ การปรับแพ็กเกจของแบรนด์ “ฮานามิ” ข้าวเกรียบกุ้ง ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนการปรับภาพลักษณ์ แต่ยังแฝงการปรับตัวเพื่อรับมือกับภาวะน้ำมันแพงในปัจจุบัน
JEH United Limited
หลังจากออกนามบัตรรูปทรง 8 เหลี่ยมอยู่สักพัก บริษัท เจ้ ยูไนเต็ด Creative House น้องใหม่แต่ยาวนานด้วยประสบการณ์ของผู้ก่อตั้ง ซึ่งเป็นเจ้าของนามบัตรทรงแปลกก็ออกนามบัตรของจริง มาเรียกร้องความสนใจจากผู้รับได้อีกครั้งด้วยนามบัตร 4 สี รูปสาวใหญ่ในชุดเซ็กซี่ที่ไม่เปิดเผยใบหน้าชัดเจนว่า “เจ้คือใคร”
จุรีพร ไทยดำรงค์ หรือ “เจ้จูดี้” ในฐานะผู้ก่อตั้ง บริษัท เจ้ ยูไนเต็ด เริ่มต้นอธิบายถึงที่มาของนามบัตรทรง 8 เหลี่ยมสีชมพูสดว่า นามบัตรรุ่นนั้นใช้ชั่วคราวเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยในการเปิดบริษัทใหม่ เหตุที่เลือกใช้รูป 8 เหลี่ยมก็เพื่อให้มีรูปลักษณ์คล้าย “ฮู้” (เครื่องรางของจีน) และเลือกสีชมพูเพื่อสื่อถึงความสดใส
ขณะที่นามบัตรของจริงกลับมีโทนสีขรึมที่ให้ความรู้สึกทางอารมณ์ที่เข้มข้นและจริงจัง ประกอบกับภาพผู้หญิงในชุดผ้าไหมลายไทย ช่วยสะท้อนถึงความตั้งใจและความเอาจริงเอาจังของเจ้าของนามบัตรนี้ ซึ่งเจ้จูดี้บอกว่า “เนื่องจากคอนเซ็ปต์นี้มาจากชื่อที่ฟังดูค่อนข้างตลก ถ้าหากนามบัตรดีไซน์ออกมากุ๊กกิ๊ก ผู้รับจะนึกว่าบริษัทนี้เอาจริงหรือเปล่า แต่นามบัตรของเรานี้ก็จะทำให้ลูกค้ารู้ได้ว่าเราตั้งใจทำจริงๆ”
นอกจากนี้ รายละเอียดบนนามบัตรยังช่วยบ่งบอกถึงความเอาใจใส่ในการสร้าง “brand concept” และ “corporate identity” ของบริษัทได้อีกด้วย …เริ่มจากคำว่า “เจ้” ซึ่งหมายถึงพี่สาวและความเป็นผู้หญิงแกร่ง ถูกถ่ายทอดออกมาเป็นรูปผู้หญิงวัยกลางคน ในชุดเซ็กซี่ในมือแอบถือปืน ซึ่งสะท้อนการทำงานของ “creative house” ที่ต้องอาศัยความเร็ว ประสิทธิผล และความแม่นยำ
ขณะที่กลิ่นอายแฟชั่นซึ่งอบอวลอยู่ที่หลังนามบัตรเป็นความตั้งใจที่เจ้จูดี้บอกว่า “ขณะที่ creative house ใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียงมักใช้ signature ของผู้ก่อตั้งหรือตัวหนังสือเป็นสัญลักษณ์ แต่เพราะเราเป็นบริษัทที่เพิ่งมาเปิดใหม่ เราก็เลยเลือกที่จะทำอะไรที่แตกต่างไปเลย” ทั้งนี้ ความเป็นแฟชั่นเป็นส่วนหนึ่งของงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ และยังเชื่อมโยงถึงจุดยืนความเป็น “boutique creative agency” ได้อีกด้วย
GLOBAL FRANCHISE ARCHITECTS (GFA)
ความน่าสนใจของนามบัตร GFA คงสะดุดตาอยู่ที่ไม้บรรทัด โดยเหตุผลที่เลือกใช้ไม้บรรทัด เพราะเป็นเครื่องมือที่สถาปนิกใช้วัด วางแผน และสร้างโครงสร้าง อันเป็นการสะท้อนระบบวิธีคิดในการสร้างธุรกิจของ GFA และสอดคล้องกับชื่อบริษัท
การออกแบบนามบัตรให้พับได้ มีเจตนาเพื่อสร้างความแตกต่างจากนามบัตรทั่วไป ขณะที่ส่วนพับซึ่งเป็นชื่อบริษัทแม่จะลงมาปกปิดโลโก้ของแบรนด์ในเครือ อันเป็นการสื่อความหมายว่า แบรนด์ทั้ง 4 นี้ได้รับการปกป้องดูแลจากบริษัทแม่ และการเปิดส่วนพับขึ้นยังให้อารมณ์ของการค้นพบตัวตนที่แท้จริงของบริษัทอีกด้วย
ทั้งนี้ การเลือกสีฟ้ามาดึงดูดความสนใจ เนื่องจากสีฟ้าหมายถึงสีของน้ำทะเลซึ่งเกือบ 80% ของโลกถูกปกคลุมด้วยน้ำทะเล อันสะท้อนวิสัยทัศน์การเติบโตของบริษัทที่ตั้งเป้าขยายข้ามทะเลไปสร้างแบรนด์ยังประเทศต่างๆ
OH MY!
นามบัตรของบริษัท Oh My! อาจจะดูเรียบๆ ง่ายที่สุดในบรรดาที่ยกตัวอย่างมา ซึ่งลูกเล่นของนามบัตรอยู่ที่กราฟฟิครูปหน้าผู้ชายและผู้หญิงที่มีสีหน้าเซอร์ไพรส์และยินดี ราวกับอาการเวลาที่คนเราพูดคำว่า Oh My (God)!! ซึ่งมักแฝงนัยแห่งความสุข ความตื่นเต้น ความแปลกใหม่ และความน่าสนใจ ซึ่งสอดคล้องกับชื่อบริษัท และยังสื่อถึงแนวคิดวิธีการตอบสนองความพอใจให้แก่ลูกค้าของบริษัท อีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทได้ใช้ลูกเล่นนี้ในการบ่งบอกเพศของเจ้าของนามบัตร คือ หากเจ้าของนามบัตรเป็นเพศชายก็จะเป็นรูปผู้ชาย และรูปผู้หญิงก็สำหรับเจ้าของนามบัตรที่เป็นเพศหญิง นั่นเอง
ส่วนเหตุผลในการเลือกสีแดงก็เพื่อสื่อถึงความร้อนแรง ความแอ็กทีฟของบริษัท อันเป็นคุณสมบัติสำคัญที่บริษัท Oh My! มองว่า บริษัทที่ทำงานเกี่ยวกับสื่อโฆษณาควรมี เมื่อบวกกับภาพกราฟิกก็ยิ่งสะท้อนถึงความทันสมัย ความสนุกขี้เล่นของบริษัทได้ดี แต่ก็ถูกทำให้สมดุลด้วยความสุขุมรอบคอบที่แฝงอยู่ในสีดำ
PACKAGE : 30 ปี ฮานามิ …ไม่ยอมแก่ ไม่ยอมแพง
ย่างก้าวสู่ปีที่ 30 แต่ฮานามิยังคงอยากครองใจวัยรุ่นทุกยุคสมัยด้วยการปรับแพ็กเกจใหม่ให้ดูเด็กลง เฟสแรกเริ่มจากการปรับเปลี่ยนหน้าตาให้ทันสมัยขึ้น โดยยังคงมีองค์ประกอบสำคัญ 3 ส่วนไว้เหมือนเดิม คือ โลโก้ “ฮานามิ” ซึ่งแพ็กใหม่จะทำให้เป็น 3 มิติ รูปกุ้ง 2 ตัวจากที่เคยอยู่ตรงกลางก็ย้ายลงมาอยู่ด้านขวาเพื่อไม่ให้บดบังข้าวเกรียบกุ้ง และรูปข้าวเกรียบกุ้งที่ยังคงต้องมีอยู่ เพื่อยืนยันความเป็นผู้นำตลาดข้าวเกรียบกุ้งของฮานามิ ซึ่งมาพร้อมกับการปรับรูปทรงของสี metallic ที่เคยเป็นแถบขวางเฉยๆ ให้ออกมาเป็นวงกลม
แต่ทว่าความโดดเด่นของแพ็กเกจใหม่นี้น่าจะอยู่ที่ด้านหลังซองมากกว่า เพราะจะมีภาพของศิลปินรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น นักวาดภาพประกอบชื่อดังอย่าง ภัทรีดา ประสานทอง หรือเอกสิทธิ์ ไทยราช นักวาดการ์ตูนชื่อดัง ที่มาร่วมแสดงทัศนะเกี่ยวกับคำว่า “เพื่อนแท้” ผ่านรูปการ์ตูนซึ่งเป็นศิลปะสมัยใหม่ยอดนิยมของวัยรุ่น
การปรับแพ็กเกจใหม่ครั้งนี้ถือเป็นการปรับครั้งใหญ่ครั้งแรกของฮานามิก็ว่าได้ และเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงการปรับภาพลักษณ์ครั้งใหญ่ครั้งนี้โดยทั่วกัน ฮานามิจึงสร้างโฆษณาที่มีก๊อบปี้ออกมาย้ำว่า “ฮานามิ ใหม่หมดจด” ซึ่งทั้งหมดนี้ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของฮานามิแอบแย้มว่า “นี่เป็นเพียงแค่เฟสแรก”
นอกจากจะเป็นการปรับลุคให้ถูกใจวัยรุ่นแล้ว ในยุคที่น้ำมันราคาแพงเช่นนี้ “ฮานามิ” จึงถือโอกาสลดปริมาณสินค้าลงเล็กน้อย เพื่อจะรักษาระดับราคาเดิมเอาไว้ ไม่ให้สูงกว่าคู่แข่ง เช่น ฮานามิแพ็กละ 10 บาท เดิมมีน้ำหนักสุทธิ 40 กรัม ก็ลดลงเหลือ 35 กรัม ส่วนแพ็กละ 20 บาท จาก 85 กรัมก็ลดเหลือ 75 กรัม เป็นต้น ดังนั้น การปรับแพ็กเกจครั้งนี้จึงสะท้อนกลยุทธ์การปรับตัวและแข่งขันในภาวะน้ำมันแพงของ “ฮานามิ” ไปพร้อมกัน