หมอนิด- กิจจา ทวีกุลกิจ ชี้ชะตา ปี พ.ศ. 2551 ถือเป็นปีชวด หรือหนูดินธาตุน้ำ ยังเป็นปีแห่งความมืดมนสิ้นไร้หนทาง เศรษฐกิจพังพินาศ จาก “ย่ำแย่” มาสู่ความ “ยับเยิน” โดยเฉพาะสถานการณ์การเมืองไทยมีจุดดับอย่างน่าตกใจ ใครจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีมีทั้งเฮงและย่ำแย่
การเมืองมืดมิด
“
ต่อให้ผู้มีบารมี เก่งกล้าสามารถขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ย่อมอยู่ไม่ได้ ต้องลงจากตำแหน่งอย่างเสียผู้เสียคน เสียรังวัด เพราะชะตากรรมบ้านเมืองไทย 2551 ยัง “ย่ำแย่” มาสู่ความ “ยับเยิน” เคราะห์กรรมที่คนไทยต้องสวดเผาจริง”
การเมืองไทยยังเป็นเหตุแห่งความสิ้นหวัง แม้จะมีการเลือกตั้ง จัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่จะเป็นรัฐบาลแห่งการผสมพันธุ์ ไม่มีเสถียรภาพ เกิดการต่อรองอย่างหนักหน่วง ทำให้เกิดการเปลี่ยนขั้วเปลี่ยนแกนบ่อย ไม่ต่างจากรัฐบาลจับฉ่าย
ที่อยากให้จับตามองเป็นพิเศษ ผู้ที่จะขึ้นมานายกรัฐมนตรีคนใหม่ มีทั้งเฮงและซวย นั่นคือ เฮงที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ซวยที่ได้มาเป็นนายกรัฐมนตรีในยามที่เศรษฐกิจของประเทศกำลังทรุดตัวอย่างหนัก เป็นเรื่องยากที่กู้ซากเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนชีพ ผลสุดท้ายจะถูประชาชนโห่ไล่จนหลงป่า เสียผู้เสียคน และอาจเสื่อมเสียถึงพรรคต้นสังกัด
“ผมขอยืนยันว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 จะเป็นนาวาผุ ไม่สามารถอยู่ครบเทอม”
ขณะที่พรรคการเมืองขนาดใหญ่อย่างพลังประชาชน มีดวงเด่น ยังมีคะแนนเสียงวิ่งฉิวมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ดวงหัวหน้าพรรค สมัคร สุนทรเวช ตกอับ ฉุดพรรคลง แม้ดาวเด่นปรากฏตัวอย่าง มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ แต่ก็พรรคประชาชนไม่มีพลังฉายแสงเป็นรัฐบาล เพราะมีจุดดับหลายจุดที่ยังโดดเดี่ยว ไม่เป็นที่ยอมรับ
ส่วนประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรค อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ โดดเด่น มีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรีมากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำพรรคการเมืองอื่นๆ แต่ดวงดีไม่นาน ทำให้เป็นนายกรัฐมนตรีที่อยู่ไม่ครบเทอม สิ่งที่น่าติดตามคือ พรรคประชาธิปัตย์ อีกไม่นานดวงพรรคตกต่ำ อาจถึงขึ้นปิดปรับปรุง รื้อพรรคใหม่ เพราะดวงชะตาถึงจุดฆาต
“พรรคประชาธิปัตย์ต้อง-ปิดปรับปรุงพรรค-ด้วยการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ไม่มีชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค เหตุการณ์นี้คงจะเกิดขึ้นภายในปี 2552-2553 ขอให้ทุกท่านจับตามอง”
ทักษิณ ใกล้คัมแบ็ก
ระบบทักษิณ จะกลับมายิ่งใหญ่หรือไม่ นั่นเป็นคำถามที่คนสนใจ หมอนิดชี้ว่า ดวงชะตาของ “ทักษิณ ชินวัตร” ปี 2551-2553 ยังไม่โดดเด่น แข็งแรง แต่หลังจากปี 2554 มาถึงปี 2556 ดวงทักษิณมีรัศมีแห่งบารมียิ่งใหญ่ ดังนั้นเขากลับมาครองประเทศอีกแน่นอน
หากแต่ช่วงปีหน้า คนที่รักทักษิณต้องรอไปก่อน ส่วนคนที่เกลียดทักษิณยังสบายใจได้ว่า เขายังไม่กลับมาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในปีหน้า แต่อนาคตในปีถัดไปคู่อริกับทักษิณ ชินวัตร ต้องระวังภัยให้มาก ในการกลับมาเช็กบิลศัตรูคู่อริ
ระวังวินาศกรรมครั้งรุนแรงที่สุด
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และจุดสัญจรใหญ่ ต้องระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค. 50 – ม.ค. 51 เมืองไทยจะเหมือนบาหลี ที่เกิดวินาศกรรมครั้งใหญ่ขึ้น มีคนล้มตายเป็นจำนวนมาก เป็นข่าวใหญ่ในหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วโลก นักท่องเที่ยวไม่กล้าเที่ยวเมืองไทย
ปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้เช่นกัน ยังเกิดวินาศกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี และขยายวงกว้างออกไปยังจังหวัดอื่นๆ ที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจ เป็นปัญหาที่รัฐบาลแก้ไม่ตก ลุกลามรุนแรงยิ่งกว่าปีที่ผ่านมา
เศรษฐกิจจ่อพังพินาศ
หมอนิด บอกอีกว่า ใครคิดว่าปี 2551 เป็นปีของการฟื้นคืนชีพของเศรษฐกิจ ต้องบอกว่า ผิดหวังอย่างแรง เพราะปีนี้เศรษฐกิจยิ่งทรุดหนัก มีอาการโคม่ายิ่งกว่าปีที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นปีเผาผีจริงก็ว่าได้ นักลงทุน หรือผู้นิยมเล่นหุ้น โปรดระมัดระวังอย่างหนัก มีโอกาสเจ๊งหมดตัวสูง
ธุรกิจโรงงานหลายแห่งยังย่ำแย่ ถึงขั้นปิดโรงงานอีกหลายแห่ง ปลดคนงานอีกจำนวนมาก ด้วยพิษจากค่าเงินบาท และราคาน้ำมันที่ยังผันผวนรุนแรงตลอดเวลา
ธุรกิจที่น่าเป็นห่วงในปีหน้าคือจิวเวลรี่, ร้านทอง อ่วมหนัก ขาดทุน, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ประเภทวัสดุก่อสร้าง โครงการที่อยู่อาศัยย่านชานเมือง มีโอกาสเจ๊งหนัก, เต็นท์รถมือสองยังทนทุกข์ขาดทุนถึงขั้นต้องปิดกิจการ รวมทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์ยังขายไม่ดี เพราะคนไร้กำลังซื้อ
ส่วนธุรกิจที่พอไปได้ คือ ธุรกิจที่ขายของให้กับคนรวย หรือเศรษฐี รวมทั้งสินค้าที่ขายให้เด็กวัยรุ่น ยังมีหนทางหากำไรได้บ้าง
ขณะที่คดีปล้นจี้ ยาเสพติด และการขายบริการทางเพศ จะกลับมาเป็นปัญหาที่รุนแรงกว่าทุกๆ ปี ขอให้ทุกคนควรระวัง และใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท
คลื่นยักษ์สึนามิมาแน่
มหันตภัยจากธรรมชาติที่ควรระวังในปี 2551 คือแผ่นดินไหวระดับที่รุนแรง เกิดขึ้นแน่ ในประเทศเพื่อนบ้าน อินโดนีเซีย พม่า จะมีผลทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิขึ้นแน่นอน ในทะเลอันดามันของไทย
ภัยจากน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลาก ปีหนูจะรุนแรงน่าตกใจ ฝนจะตกชุกว่าปีก่อน และเกิดน้ำท่วมหนักในเกือบทุกภาคของประเทศ ส่งให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวพลอยฟ้าพลอยฝน เจ๊งกันระนาว งบท่องเที่ยวจะละลายสูญหายไปกับแม่น้ำ
…หมอนิด ทิ้งท้ายว่า ดวงเมืองไทยในปีหนูยังเลวร้าย หนักหนาสาหัส และต่อเนื่องไปถึงปี 2553 ถึงจะค่อยฟื้น ช่วงนี้ขอให้คนไทยใช้ชีวิตอย่างมีสติ
7 ตัวเต็งนายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ : เป็นการทำนายก่อนการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550
ภาพ : ผู้จัดการรายวัน
1. อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เกิดวันที่ 3 สิงหาคม 2507 ปีมะโรง อายุ 43 ปี และมีดิถีวันเกิดเป็นธาตุไม้ ฤดูร้อน ซึ่งต้องการธาตุน้ำมาช่วยในฐานดวง มาปีนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้ธาตุน้ำมาหนุนช่วยอย่างมากจึงนับว่าเป็นปีโชคของนายอภิสิทธิ์อย่างเต็มที่ ซึ่งตามดวงแล้วจะดี 2 ปี ที่มีพลังคือ ปี 2550-2551 เท่านั้น พอเข้าปี 2552 อายุให้โทษ (45) ซึ่งจะทำลายเจ้าของดวงชะตา จะพบแต่ปัญหาอุปสรรคต่างๆ มากมายจนยากที่จะแก้ไขได้สำเร็จ ถึงแม้ว่านายอภิสิทธิ์จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่หนุ่มที่สุดของประเทศไทย ก็ไม่สามารถฟันฝ่ามรสุมปี 2552 ไปได้พ้นอย่างง่ายๆ แน่นอนรับรองจอดไม่ต้องแจว ขอฟันธงว่า อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นเต็ง 1 ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป
2. บรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย เกิด 19 สิงหาคม 2475 ปีวอก อายุ 75 ปี มีดิถีเป็นธาตุน้ำ ถึงแม้ว่าธาตุจะไม่เป็นอริก็ตาม แต่อายุของท่าน 75 ปี ถือว่าอายุให้โทษอยู่ในปีนี้ แต่มีข้อแม้ว่าหากการเลือกตั้งเสร็จในวันที่ 23 ธ.ค. 2550 แล้ว การจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ทันในปีนี้ต้องไปจัดตั้งรัฐบาลในเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ 2551 นายบรรหาร ศิลปอาชา ก็มีสิทธิ์ “ผีจับยัด” ให้เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 ได้เช่นกัน แต่ก็ต้องยุบสภาอีกครั้งในเวลาไม่เกินปีครึ่งเช่นกัน หากไม่มี “ผีจับยัดให้เป็นนายก” และว่ากันตามดวงจริงๆ แล้วยังแพ้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมาก ประเด็นนี้นายอภิสิทธิ์ต้องระวัง “ผีหลอก” ให้มากๆ เพราะมีรายการแยกกันตี แต่รวมกันตั้งประชาธิปัตย์
3. สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน เกิด 13 มิถุนายน 2478 ปีกุน อายุ 72 ปี มีดิถีเป็นธาตุทอง ฤดูร้อน ซึ่งตามดิถีธาตุแล้วน่าจะดี แต่ว่าอายุของท่านปีนี้ให้โทษจึงหมดสิทธิ์ที่จะเป็นนายกโดยสิ้นเชิง มิหนำซ้ำยังมีเคราะห์ตามกระหน่ำซ้ำเติมจนต้องแก้ปัญหาของตัวเองไม่จบสิ้น และมีสิทธิ์ถูกตอนก่อนถึงวันเลือกตั้งด้วยซ้ำ และพรรคพลังประชาชนอาจจะมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น จึงขอเตือนให้ระวัง และรีบหาทางแก้ไขโดยด่วน ขอเตือนด้วยความหวังดี
4. เสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราช เกิดวันที่ 1 เมษายน 2477 ปีกุน อายุ 73 ปี มีดิถีวันเป็นธาตุไฟ นับว่าธาตุไฟของท่านถูกเล่นงานอย่างหนักหนาสาหัส ถึงแม้ว่าท่านจะมีฝีมือในการปั้นนายกมาแล้วหลายคนในอดีตก็ตาม แต่ในปีนี้ความหวังของท่านคงจะไม่ประสบความสำเร็จ เพราะดวงของท่านโดนเล่นงานมาหลายปีแล้ว และยังมีเคราะห์ต่อเนื่องไปถึงปี พ.ศ. 2552 อีก เพราะฉะนั้นขอให้ท่านประคองดวงของท่านให้พ้นปีดังกล่าวก่อน เพราะในช่วงนี้ถือว่า “ดวงปิด” อย่างเต็มที่ ขอให้ตั้งความหวังเพียงน้อยๆ ก็พอแล้ว อย่าหวังมากเลย
5. ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ หัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เกิดวันที่ 28 สิงหาคม 2486 ปีมะแม อายุ 64 ปี มีดิถีเป็นธาตุดินฤดูฝน ซึ่งเป็นดินอ่อน ในปีนี้สิ่งที่หวังจะได้เป็นนายกนั้น หนทางยังห่างไกลและแทบจะไม่เห็นแสงสว่างเลย ถ้าวันเดือนปีเกิดที่ให้มาไม่ผิด การลงทุนเป็นหัวหน้าพรรคนั้นถึงแม้จะได้ร่วมรัฐบาลก็ไม่รู้ว่าจะคุ้มทุนหรือไม่ เพราะดวงของท่านประชัยจะตกยาวจนน่าเป็นห่วง ยิ่งปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นไปอายุให้โทษ พ.ศ. 2552 ปีเป็นอริ ปี พ.ศ. 2553-2554 ธาตุโดนทำลาย อยากฝากเตือนขอให้ท่านคิดให้รอบคอบ ระมัดระวังการสูญเสียและจะผิดหวัง ซึ่งไม่คุ้มกับการลงทุนเลยจริงๆ
6. สุวิทย์ คุณกิตติ หัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน เกิดวันที่ 17 ตุลาคม 2500 ปีระกา อายุ 50 ปี มีดิถีธาตุน้ำ ฤดูฝน ยังไม่ใช่เวลาของท่านในปีนี้ ถึงแม้ว่าดวงของท่านจะดีกว่าปี พ.ศ. 2548 และ 2549 ก็ตาม อย่างมากก็แค่ร่วมแจมกับเขาด้วยเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นก็พอเพียงแล้ว
7. พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร หัวหน้าพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา เกิดวันที่ 23 สิงหาคม 2481 ปีขาล อายุ 69 ปี มีดิถีธาตุไฟ ถูกธาตุน้ำมาทำลายธาตุของท่านอย่างรุนแรง ความหวังของท่านในปีนี้คงจะริบหรี่เต็มที ท่านคงต้องเหนื่อยอย่างสาหัสไม่แพ้ท่านเสนาะ เทียนทอง แน่ๆ ขอให้ทำความเพียรให้มากๆ แต่หวังเพียงน้อยนิดก็พอแล้ว ถ้าวันเดือนปีเกิดของท่านไม่ผิด จากนี้ก็ขอให้ทำใจไว้บ้าง
หมอนิด (กิจจา ทวีกุลกิจ)
นับเป็นนักพยากรณ์หรือหมอดูชื่อดังคนหนึ่ง ที่ใช้หลักการทำนายด้วยญาณของพ่อปู่ฤาษีนารายณ์ มานานกว่า 20 ปี โดยเฉพาะการทำนายด้านการเมืองไทย ทุกครั้งที่เขาทำนายเหตุบ้านการเมือง จะเกิดแรงสั่นสะเทือนในแวดวงการเมือง ไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักการเมืองระดับอดีตรัฐมนตรีวิ่งหาเขาให้ตรวจดวงชะตาในช่วงเลือกตั้ง เพื่อมองเห็นหนทางในชะตาชีวิตข้างหน้า