มองโลกแง่ดี

แม้ภาพรวมธุรกิจไทยในปี 2551 ยังไม่สู้ดีนัก ทั้งค่าเงินบาทแข็ง เงินเฟ้อ และการเมืองก็ยังไม่นิ่ง ส่วนตลาดปูนซีเมนต์ ความต้องการใช้ในประเทศ ปี 2551 มีมูลค่า 28 ล้านตัน เท่ากับปีที่แล้ว ส่วนประมาณการส่งออกมีมูลค่า 14 ล้านตัน ลดลง 20%

แต่ จันทนา สุขุมานนท์ รองประธานบริหาร (ลูกค้าสัมพันธ์) บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด มองในแง่ดี เธอมองว่า ความเชื่อมั่นนักลงทุนจะกลับมาดีขึ้นหลังการเลือกตั้ง และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะคงที่

หัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญในปี 2551 ขึ้นอยู่กับการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ หรือเมกะโปรเจกต์ของรัฐบาล เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วง สีเขียว สีแดง สีน้ำเงิน ทางด่วนสุขสวัสดิ์-บางพลี จนถึงอาคารศาลปกครอง ศูนย์การแพทย์โรงพยาบาลศิริราช ที่รัฐบาลเตรียมเปิดประกวดราคาในปี 2551

โครงการเหล่านี้ ไม่เพียงให้เกิดความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เท่านั้น แต่ยังกระตุ้นภาคธุรกิจอื่นๆ ให้ขยายตัวเป็นลูกโซ่ ตั้งแต่ปูนซีเมนต์ รับเหมาก่อสร้าง ขนส่ง ไปจนถึงตลาดแรงงาน ที่จะเติบโตขึ้นตามไปด้วย

ด้านการส่งออก แม้ปริมาณจะลดลง สาเหตุมาจากเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงขาลง ปัญหา Sub-prime เงินบาทแข็งค่า และค่าขนส่งในตลาดจะสูงตลอดปี 2551 แต่ข้อดี คือ ราคาขายจะสูงขึ้น ตามหลัก Demand และ Supply เมื่อตลาดมีความต้องการ แต่ซัพพลายมีน้อย ราคาย่อมสูง

ดีมานด์ในตลาดต่างประเทศของปูนอินทรีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งได้โควตาส่งปูนไปก่อสร้าง ในโครงการใหญ่ Integrated Resort ในสิงคโปร์ ที่จะเป็นตลาดใหญ่ที่มีอัตราเติบโตสูง นอกเหนือจากเวียดนาม และบังกลาเทศ ที่เป็นตลาดหลัก

สินค้าปูนซีเมนต์เวลานี้ก็เปลี่ยนแปลง มาจากพฤติกรรมผู้ซื้อรายย่อย คนตัดสินใจซื้อปูนเวลานี้ไม่ใช่ผู้รับเหมาหรือช่างปูนเหมือนในอดีต แต่เป็น “เจ้าของบ้าน” การเลือกซื้อจึง “คิดมากขึ้น” มีความรู้มากขึ้น

เมื่อลูกค้ามีความรู้มากขึ้น คุณภาพ และบริการ จึงต้องมาเป็นอันดับแรก

2-3 ปีมานี้ เมื่อปูนอินทรีหันมาเน้นคุณภาพและบริการ วาง Positioning ชัดเจน จับตลาดระดับบน เพิ่มคุณภาพบริการ ออกผลิตภัณฑ์มากมาย รวมถึงการสร้างแบรนด์ ให้มีภาพลักษณ์ชัดเจน เลือกใช้วิชาชีพเฉพาะวิศวกร สถาปนิก มาเป็นพรีเซ็นเตอร์โฆษณา ก็ไม่ต้องลงมาเล่นสงครามราคากับคู่แข่งอื่นๆ

นอกจากธุรกิจแล้ว การมองโลกแง่ดี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จันทนา สุขุมานนท์ เชื่อว่า ไม่ว่าธุรกิจไหน ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
“ยกตัวอย่างหุ้นตก แต่จิตเราต้องไม่ตก เพราะมันฝืนกระแสไม่ได้ มันเป็น Economic Cycle มันเป็นเรื่องปกติของภาวะเศรษฐกิจ ที่ต้องมีขึ้นมีลง”

Did you know?

ความต้องการบริโภคปูนซีเมนต์ของคนไทยในปี 2551 อยู่ที่ 440 กิโลกรัมต่อคน ในขณะที่ปี 2550 อยู่ที่ 444 กิโลกรัมต่อคน