“พงษ์สรวง คุณประสพ” เทรนดี้ปาร์ตี้ฉบับอินดี้แท้ๆ

ตัวพิมพ์สีขาวค่อยๆ ปรากฏขึ้น หลังแถบตะกั่วสีดำบนนามบัตรของ “พงษ์สรวง คุณประสพ” ค่อยๆ ถูกขูดออก อันเป็น “กิมมิก” เล็กๆ ที่เผยรายละเอียดสำหรับผู้ที่ต้องการทำความรู้จักกับเขา …“พงษ์สรวง” หรือ “โน้ต Dudesweet” ในฐานะผู้นำเข้า “เทรนด์อินดี้” เขาเป็นผู้ริเริ่มคำว่า “เด็กแนว” เป็นผู้ริเริ่มปาร์ตี้มันส์ๆ การแต่งตัวหลุดๆในรูปแบบ “Club Night” ขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อ 5 ปีก่อน งานปาร์ตี้ “Dudesweet” ของโน้ตจึงมีองค์ประกอบมากกว่าการกินดื่ม แต่สะท้อนถึงการเปลี่ยนถ่ายของเทรนด์ในโลกแฟชั่น ดนตรี และศิลปะ

หลังจบการศึกษาจากคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร โน้ตว่ายเวียนอยู่วงการ “นิตยสารแฟชั่น” เป็นงานหลัก ทว่า ด้วยภาพ “ปาร์ตี้ในโกดัง” แบบหนังฝรั่งยังคงติดค้างอยู่ในใจ โน้ตและเพื่อนๆ จึงลงขันกันจัด “Club Night” โลเกชั่นเมืองไทย สนองตอบ ”ความเสี้ยน” เป็นการส่วนตัว

“เราโตมากับเพลงยุค ’90 พวก Brit pop,อินดี้ร็อก แต่พอยุคปี 2000 ผับที่เคยเปิดเพลงอินดี้ก็หันไปเปิดฮิพฮอพกันหมด อย่างถนนข้าวสาร…ที่เที่ยวของพวกเราซึ่งถือว่าเป็นถิ่นอินดี้ เมื่อก่อนมันไม่ Commercial มันมีบรรยากาศความเป็น Free Spirit มากกว่านี้ เราอยากฟังเพลงที่อยากฟัง เลยรวมกับเพื่อนๆ หาเพลงมาเปิด เอาเครื่องเสียงมาลงเอง กะเอาฮา แต่ถึงเวลาจริงๆ Culture เมืองไทยมันไม่ได้ เลยได้เรียนรู้ว่ากฎมันไม่จำเป็นต้องแหกทั้งหมดก็ได้ แต่ครั้งนั้นก็เป็นปาร์ตี้ที่ผมยังประทับใจจนถึงทุกวันนี้”

ปาร์ตี้ “อินดี้ร็อก” ครั้งแรกของโน้ตใช้ชื่อว่า “Dudesweet” มีที่มาจาก ”คำซ้ำ” ในหนังเรื่อง “Dude, where’s my car?” หนังเพียงเรื่องเดียวที่มีในบ้านเช่าของโน้ตสมัยเรียน เขาได้สถานที่เป็นร้านอาหารร้างบนถนนข้าวสาร ด้วย “สื่อโปรโมต” ที่เป็นเพียงกระดาษขาว-ดำจากผงหมึกของเครื่องถ่ายเอกสารของออฟฟิศ เบ็ดเสร็จคืนนั้นมีคนมาร่วมปาร์ตี้ครั้งแรกกว่า 80 คน ทว่าล้วนแล้วแต่เป็นคนที่อยู่ในวงการเทรนดี้อาร์ตของเมืองไทย อาทิ ณัฐ ประกอบสันติสุข, ดวงตา นันทขว้าง ฯลฯ “พอดีช่วงนั้นตรงกับ Elle Fashion Week ผมเอาใบปลิวไปแจกในงาน เลยได้คนในวงการแฟชั่นมา ซึ่งตอนนี้กลุ่มคนเหล่านั้นก็ยังอยู่”

Dudesweet ปี 2 เริ่มได้รับความนิยมเมื่อมีการกล่าวขานกัน ”ปากต่อปาก” กระทั่งผู้เข้าร่วมงานขยายจาก 300 คน เป็น 700…และ 1,400 คนในปีต่อๆ มา

ด้วย Dudesweet มีขาข้างหนึ่งอยู่ใน “วงการแฟชั่น” และอีกด้านอยู่ใน “วงการเพลง” ทำให้ปาร์ตี้ Dudesweet กลายเป็นที่Hang Out ของบรรดาครีเอทีฟ ดีไซเนอร์ คนในวงการแฟชั่น กระทั่งเป็นที่จับตาของนักการตลาด “อย่างผมอยู่วงการนิตยสาร วงการออกแบบ ก็เลยชวนคนแนวๆ นี้ กลายเป็นระบบเครือข่าย พอคนเบื้องหลังมาเยอะ คนเบื้องหน้าก็มา ดาราเกรด B ก็เลยตามมาด้วย”

ปี 1 และ 2 นับว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดของ Dudesweet เพราะเมื่อขึ้นปีที่ 3 จำนวนคนและ ”ผลกำไร” ที่เพิ่มขึ้นกลับ “ผกผัน” กับความรู้สึกดีๆ ของเขา ด้วยความตั้งใจแรกที่ค่อยๆ สูญเสียไป “ผมไม่ใช่คนทัศนคติ Bitchy เราขี้เกรงใจ แต่คนเยอะเราเอาใจไม่ไหว ที่แย่คือเป็นพวกที่เกาะกระแสมา เขามาผิดที่ผิดทาง เรากลายเป็นตู้เพลง เช่นมาขอเพลงของ 50 Cents เราไม่มีหรอก”

คออินดี้แฟน Dudesweet ส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุ 20-25, 25-28 และ 30 ต้นๆ และเพลงในปาร์ตี้ Dudesweet โดยมากเป็นเป็นศิลปินอินดี้ร็อกจากฝั่ง “อังกฤษ” และ ”นิวยอร์ก” โดยมีผลงานศิลปินไทยมาแซมบ้าง อาทิ วง Moderndog, Futon, Slur, อพาร์ตเมนต์คุณป้า เป็นต้น

“น่าแปลกที่ปาร์ตี้ของผมงานกราฟิกมีผลมากกว่าดนตรีเสียอีก เพราะ Dudesweet ไม่มีหน้าร้านให้คนนึกภาพออก เราจึงลงทุนกับช่างภาพและดีไซเนอร์ในสื่อสิ่งพิมพ์เยอะ” ปาร์ตี้ของ Dudesweet แต่ละครั้งจึงมีการลงทุนตั้งแต่ 3,000-700,000 บาท “ที่แพงเพราะเรานำเข้าศิลปินปีละ 3-4 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท ระบบที่นู่นเราต้องติดต่อผ่าน Booker ไม่ใช่ติดต่อค่ายเพลง อย่างช่วงพฤศจิกายน ญี่ปุ่นจะมี Festival เยอะ เราก็จะรวมแพ็กเกจกับเขา ตอนนี้ผมรวมกับญี่ปุ่น ฮ่องกง สิงคโปร์ เป็น Network มากขึ้น เราอีเมลหากันว่าจะเอาใครมาเล่นบ้าง สนใจแชร์ค่าเครื่องบินรึเปล่า พวก Booker ก็ชอบเพราะมาทีเดียวเล่นได้หลายประเทศ” สปอนเซอร์จะถูกนำใช้เพื่อลด ”ค่าตั๋วต่อดริ้งก์” เข้างานหากมีการลงทุนนำศิลปินจากต่างชาติมา “ปีนึงจะมีสปอนเซอร์ 2-3 ครั้งเพราะคนที่มางาน Dudesweet เป็นพวก Attitude แรง ไม่ชอบอะไรที่ Commercial”

สำหรับ Dudesweet ปี 6 โน้ตให้การว่า เขาจะพยายาม ”เจือจาง” คนที่ไม่ใช่ ”ตัวจริง” ให้น้อยลง “…มันควรจะเป็น Niche แค่ 200-300 คนพอ ตอนนี้เลยค่อยๆ Fadeปาร์ตี้ลงให้มาอยู่ในเว็บไซต์ supersweet.org แทน” โน้ตหมายถึงเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดตัวใน ”ลอนดอน” เมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ว่าด้วยเรื่อง ”ดนตรี แฟชั่น ศิลปะ ความโง่เขลา กระทั่งเชาวน์ปัญญาของมนุษย์” ส่วน Dudesweet ต้องปรับให้สดใหม่ด้วยดนตรีสังเคราะห์แนว “อินดี้อิเล็คโทรนิก้า” ให้มากขึ้น กราฟิกบนบัตรเชิญหรือโปสเตอร์ก็ต้องเปลี่ยนเป็นแบบ ”น้อยนิ่ง” ตามเทรนด์การผสานภาพถ่ายเข้ามา “…งานกราฟิกก็มีเทรนด์ของมันเหมือนกัน” โน้ตเล่า

ความ Unique ที่เข้าถึงเด็กติสท์ตัวจริง จึงทำให้ Dudesweet ได้รับการเชื้อเชิญจากบริษัทต่างๆ ในการร่วมจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ อาทิ Bangkok Fashion Society, Elle Fashion Week, Siam Paragon, Tiger Beer “ถ้าจ้างให้ทำอีเวนต์เป็นเรื่องเป็นราวทำไม่เป็นนะ ต้องรู้ว่าเราเป็นอย่างนี้ เอาอะไรที่เราทำเป็นเป็นตัวตั้ง ส่วนเรื่องแบรนดิ้งค่อยมาคุยกันว่าจะใส่ลงไปตรงไหนได้บ้าง เพราะผมรู้สึกว่าอะไรที่เป็น Cooperate เป็น Hard Sell มันไม่เวิร์ค ที่สำคัญต้องดูว่าผมใช้สินค้านั้นรึเปล่า จะได้อินหน่อย”

ถึงวันนี้ Dudesweet เป็นมากกว่าชื่องานปาร์ตี้ เป็นมากกว่าชื่อกลุ่ม ทั้งนี้เพราะในความรู้สึกของสังคมDudesweet กลายเป็น “แบรนด์” ที่อ้างอิงได้แนวทางของตนเองไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ดนตรี อาร์ตไดเร็กชั่น หรือวัฒนธรรมย่อยของกลุ่มคนในแบบDudesweet

Profile

Name : พงษ์สรวง คุณประสพ Age : 28 ปี
Education :
โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว
คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
Career Highlight :
2001-2002นักเขียนภาพประกอบและคอลัมนิสต์นิตยสารแพรวสุดสัปดาห์
2002-2004 คอลัมนิสต์นิตยสาร Lips
2004-2006 คอลัมนิสต์นิตยสาร MTV Trax
2006-2007 กราฟิกดีไซเนอร์ บริษัท Tofu
2003-2007 Dudesweet Creative Director
งานเพื่อสังคม : รณรงค์ลดการใช้ถุงพลาสติกของร้านเซเว่นฯ, รณรงค์ให้วัยรุ่นสนใจการเมือง (กลุ่ม We think)
ธุรกิจส่วนตัว : ร้านเสื้อผ้า Mathematics ชั้น 3 สยามเซ็นเตอร์
งานอดิเรก : หนังสือแนวเนือยๆ ที่อ่านแล้ว “วางลง” ไม่มี Plot แต่ชอบหนังแนวแอ็กชั่น ฆาตกรรมเลือดสาด
อนาคต : Indy Rock Festival, เรียนต่อคณะอักษรศาสตร์, ทำค่ายเพลง, นั่งเก้าอี้กระทรวงวัฒนธรรม