ไมค์เคิล พูนพิพัฒน์ “อยากให้โลกโฆษณา Clickable”

การเป็นบริษัทใหม่อายุไม่ถึง 2 ปีเต็มของบลูฟรีเวย์ ไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ “ไมค์เคิล พูนพิพัฒน์”ลังเลในการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมงานกับบริษัทนี้แม้แต่น้อย

“ถ้าคุณได้ฟังวิสัยทัศน์ของซีอีโอบริษัท คุณจะเห็นชัดว่าความสำคัญด้านการสื่อสารตลาดบนโลกดิจิตอลกำลังจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โฆษณาออนไลน์จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การวางแผนโฆษณาครบ 360 องศาอย่างแท้จริง” ไมค์เคิล พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท บลูฟรีเวย์ ประเทศไทย จำกัด พูดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับบลูฟรีเวย์

ไมค์เคิล เป็นคนที่ชื่นชอบเรื่องเทคโนโลยีเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว เขาคลุกคลีอยู่กับงานด้านนี้มาตั้งแต่เริ่มทำงานที่อเมริกา เคยมีประสบการณ์ด้านการสื่อสารผ่านระบบไฟเบอร์ออพติก และวิศวกรรมดีไซน์จากอเมริกา ก่อนจะเข้ามาทำงานที่ประเทศไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ กับบริษัทนิวมีเดีย จำกัด ในตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายดูแลลูกค้า

โดยพื้นฐานไมค์เคิลบอกว่าเขามาในสายของเทคโนโลยีมากกว่านักวางกลยุทธ์ แต่ที่นิวมีเดียทำให้เขาได้สั่งสมประสบการณ์ทำงานด้านการสื่อสารการตลาดแบบดิจิตอลมาไม่น้อย

“จากประสบการณ์ที่ผ่านมา สินค้าที่โฆษณาบนออนไลน์มีทั้งลูกค้าที่เดินเข้ามาเองเพราะเริ่มเห็นเทรนด์และประโยชน์ของการใช้สื่อออนไลน์ เทียบกันแล้วมีประมาณครึ่งๆ กับลูกค้าที่บริษัทนำเสนอรูปแบบการโฆษณาบนออนไลน์”

ไมค์เคิลเชื่อเต็มที่ว่า อีกไม่นานการโฆษณาผ่านสื่อดิจิตอล จะต้องเติบโตขึ้นแน่นอนไม่ว่าจะในตลาดโลกหรือเมืองไทย และเป็นเหตุผลที่เขาไม่ลังเลใจที่เข้าร่วมเป็นทีมงานของบริษัทที่เปิดตัวเป็นมีเดียเอเยนซี่สำหรับสื่อดิจิตอลรายแรกของเมืองไทย และแม้ว่าส่วนแบ่งโฆษณาบนออนไลน์ของไทยไม่ถึง 1% ของมูลค่างบโฆษณารวม (ดูตาราง) ขณะที่ในต่างประเทศมีอย่างยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนสูงกว่า 10% แล้วทั้งนั้น

“ปีหน้าผมคิดว่าก็คงเพิ่มขึ้นสัก 1.5% ของงบโฆษณารวม ขณะที่ส่วนแบ่งออนไลน์ของทั้งเอเชียจะโตถึง 7% แต่ไม่ว่าจะมีตัวเลขเท่าไรเราจะพยายามสร้างส่วนแบ่งของบลูฟรีเวย์ให้ได้ประมาณ 25% ในปีนี้”

การทำงานของไมค์เคิลที่บลูฟรีเวย์ไม่ได้แตกต่างจากเดิม เริ่มจากการที่เขาต้องวางกลยุทธ์ในการวางแผนสื่อให้ลูกค้า แต่แทนที่จะไปปรากฏอยู่บนสื่อเดิมๆ ก็จะอยู่บนสื่อดิจิตอล ที่เขาจะต้องทำควบคู่ไปกับการประกาศให้คนรู้จักว่าบลูฟรีเวย์ เป็นมีเดียเอเยนซี่ที่ให้บริการแบบโซลูชั่น และแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์แบบครบวงจร ตั้งแต่คิดแคมเปญ พัฒนาเนื้อหา และผลิตโฆษณาไปยังช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะบนเว็บไซต์และมือถือ

ข้อแตกต่างจากมีเดียเอเยนซี่แบบดั้งเดิม คือการที่บลูฟรีเวย์จะเป็นคนช่วยให้ลูกค้าลดระยะเวลาในการทำโฆษณา ปกติเวลาที่เจ้าของสินค้าจะทำแคมเปญออนไลน์ก็จะไปหามีเดียเอเยนซี่เดิมๆ ซึ่งไม่รู้วิธีบนออนไลน์

“ด้วยรูปแบบการทำงาน เราจะต้องสู้กับเอเยนซี่เดิม ๆ อย่าง โอกิลวี่ มายด์แชร์ และรายอื่น ๆ ซึ่งเรามีจุดแข็งตรงที่เรารู้วิธีออนไลน์ซึ่งไม่เหมือนการโฆษณาออฟไลน์ และที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เว็บไซต์ดีเวลลอปเปอร์จะมีแต่โปรแกรมมิ่ง แต่ของเรามีสตราทิจิกแพลนนิ่งในเว็บไซต์ นอกจากสร้างแบรนด์คิดให้ช่วยขายของได้ด้วย และข้อดีของเครื่องมือดิจิตอลช่วยลูกค้าลดต้นทุนสื่อออฟไลน์ซึ่งราคาแพงลงได้”

ดังนั้น ถ้ายิ่งมีการทำนายกันว่าเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในช่วงต้องประหยัดแล้วล่ะก็ ไมค์เคิลก็เชื่อว่ามั่นก็เป็นอีกโอกาสที่จะช่วยให้สื่อดิจิตอลโตเร็วขึ้นอีก

สิ่งที่ทำให้ไมค์เคิลมั่นใจขนาดนี้ มาจากโมเดิลธุรกิจของบลูฟรีเวย์ ซึ่งจะมีเขาและทีมงานคนรุ่นใหม่อีกราว 25 คน เป็นเหมือนผู้ดูแลหน้าร้าน ภายใต้แบรนด์ blu. ซึ่งเป็นพอร์ทัลที่รวมบริการทุกอย่างของบลูฟรีเวย์ไว้ให้ลูกค้าเลือกใช้บริการ หาข้อมูล และดูตัวอย่างผลการทำงานที่ผ่านมา

“ทีมงานส่วนใหญ่จะเป็นผู้วางกลยุทธ์ เมื่อค้นหาความต้องการของลูกค้าและวางแผนสื่อลงตัว ขั้นตอนการทำงานในการผลิตสื่อโฆษณา เว็บไซต์ หรือต้องการแพลตฟอร์มสำหรับมือถือ เราสามารถดึงเครื่องมือที่มีอยู่จากบริษัทในเครือมาใช้งานได้ทันที”

จุดแข็งนี้มาจากโมเดลการวางธุรกิจที่บลูฟรีเวย์ใช้วิธีเทกโอเวอร์บริษัทที่มีความชำนาญด้านต่าง ๆ ในตลาดดิจิตอล มือถือ การพัฒนาเว็บไซต์ และอินเตอร์แอคทีฟต่างๆ มา รวมแล้วภายในไม่ถึง 2 ปีที่บริษัทก่อตั้งมา ตอนนี้มีบริษัทในเครือแล้ว 25 แห่ง ในทุกทวีปทั่วโลก โดยมี 3 บริษัทในประเทศไทย ได้แก่ มีเดีย ซินเนอร์จีส์ แพลนเน็ตยูเท็ค และรีเฟลกซิเบิล

ไมค์เคิลตั้งเป้าหมายว่า จะให้บริการลูกค้าด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ในระดับน่าประทับใจและยอมรับความสำคัญของโฆษณาออนไลน์ ด้วยกลยุทธ์ที่เขาท่องขึ้นใจคือ AOR (Agency on Record) เพราะเขาเชื่อว่าการจะทำให้ลูกค้าเห็นความสำคัญของโฆษณาออนไลน์ได้มากน้อยแค่ไหน ต้องสร้างผลงานประทับใจให้เห็นกันเสียก่อน และนั่นเป็นที่มาของคำตอบติดปากไมค์เคิลเสมอว่า เขาอยากมีส่วนช่วยลูกค้าทำโฆษณาออนไลน์ที่ได้ผลตอบรับจากลูกค้าที่มีความต้องการสินค้านั้นจริงๆ

“สิ่งที่เราจะทำไม่ใช่แค่เป็น Social Network เท่านั้น แต่จะใช้เพื่อส่งเสริมยอดขายได้ด้วย และจะเป็นการพิสูจน์ว่าหากมีการวางกลยุทธ์ที่ดี โฆษณาออนไลน์ก็สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้โฆษณาแบบดั้งเดิม และให้ผลตรงกลุ่มเป้าหมาย และติดตามผลได้มากกว่า”

ไมค์เคิลคาดการณ์ว่า สิ่งที่จะพบได้ในโลกโฆษณาออนไลน์ในปีนี้ นอกจากแบนเนอร์ ก็จะมีวิดีโอและเกมบนแบนเนอร์ ที่ไมค์เคิลเรียกว่า วิดีโอฉลาด เพราะสามารถเลือกระบบให้ผู้ใช้เองว่าอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้มีความเร็วแค่ไหน รวมทั้งโฆษณาออนไลน์ที่จะส่งไปถึงบนมือถือซึ่งเป็นอีกตลาดที่โฆษณาออนไลน์ทุกรายจับตามอง

“โฆษณาบนออนไลน์จะฉลาดขึ้น รูปแบบเดิมๆ ที่รบกวนคนใช้อินเทอร์เน็ตจะหายไป การนำเสนอจะเชื่อมโยงเข้ากับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ซึ่งระบบจะเป็นตัวช่วยเก็บข้อมูลและเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับความต้องการได้ดีกว่าการวางสื่อแบบออฟไลน์ เพราะออนไลน์จะเป็นโฆษณาที่เข้าถึงตัวบุคคลได้ตรงตัว และเป็นความตั้งใจของผมที่อยากจะให้โลกโฆษณาทั้งโลก Clickable ให้ผู้บริโภคมีปฏิกิริยาตอบรับโฆษณานั้นได้ทันทีว่าจะเป็นออนไลน์และออฟไลน์ก็เชื่อมโยงกันได้หมด”

มูลค่างบโฆษณาในไทยรวม 2.4 พันล้านเหรียญ
งบโฆษณาที่ใช้บนออนไลน์ 15 ล้านเหรียญ (ประมาณ 0.6%)
ส่วนแบ่งงบโฆษณาออนไลน์ในอังกฤษ 12%

คาดการณ์อัตราเติบโตของโฆษณาออนไลน์ปี 2008
เอเชีย +7.6%
เอชียตะวันออกเฉียงใต้ 1.5%

Profile

Name ไมค์เคิล พูนพิพัฒน์
Age 32 ปี
Career Highlights
กรรมการผู้จัดการ ประจำประเทศไทย บริษัท บลูฟรีเวย์ ประเทศไทย จำกัด
ล่าสุดผู้อำนวยการฝ่ายดูแลลูกค้า ที่บริษัท นิวมีเดีย จำกัด ก่อนหน้านั้นมีประสบการณ์ทำงานด้านการสื่อสารตลาดแบบดิจิตอลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในหลายอุตสาหกรรม มีประสบการณ์ด้านไฟเบอร์ ออพติก เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ และวิศวกรรมดีไซน์ จากประเทศอเมริกา