ซื้อเพื่อโต

โตแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้แล้ว กำลังจะได้ชื่อว่าเป็น “นักซื้อ” กิจการอีกราย สำหรับคาราท มีเดีย ประเทศไทย ที่เพิ่งจัดงานต้องรับ Mainardo al Nardis CEO Aegis Media, Global บริษัทแม่ของคาราท มีเดีย ประเทศไทย ซึ่งบินมาทักทายทีมงานในไทยด้วยตัวเอง ทั้งที่ชีวิตในชีวิตเขาไม่เคยเดินทางมาเมืองไทยมาก่อน สาเหตุมาจากยอดรายได้ที่เติบโตของคาราท ประเทศไทย

จากนั้น ซีอีโอชาวอิตาลีจะบินไปฟิลิปปินส์อีกประเทศที่เติบโตไม่แพ้กัน และสิงคโปร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาคของ Aegis กรุ๊ป

“ไทยกับฟิลิปปินส์แรงมากของกลุ่ม ปี 2007 เรามีอัตราเติบโตปีละ 20% กว่า แม้กระทั่งปีที่ผ่านมางบโฆษณาโดยรวมจะเติบโตแค่ 2.5% แต่เราทำรายได้ 6,500 ล้านบาท ปีนี้เรายังตั้งเป้าที่จะเติบโตเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ขณะที่งบโฆษณาโดยรวมน่าจะมีการเติบโตประมาณ 7%” ตัวเลขยืนยันจากซีอีโอ

นอกจากซีอีโอมาเยือนถึงไทยจนต้องจัดงานใหญ่ คาราท มีเดีย ประเทศไทย ยังได้ไฟเขียวจากบริษัทแม่ ให้ Take Over บริษัทต่างๆ ในไทย เพื่อมาเสริมเขี้ยวเล็บให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะใน 3 ธุรกิจหลัก ที่จะเร่งขยายอย่างหนักในปีนี้

เริ่มจากสื่อนอกบ้าน หรือ Out of home ที่แนวโน้มสดใส ปี 2007 เติบโต 28% จากมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
“เพราะไลฟ์สไตล์ของคนไทย 2 ใน 3 ของวันใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน สิ่งที่เราเจอนอกบ้านกลายเป็นสื่อได้หมด ทั้งในรถไฟฟ้า ในร้านค้า (In Store) แม้กระทั่งในรถแท็กซี่” วิชัย สุภาสมบูรณ์ CEO คาราท มีเดีย ประเทศไทย สะท้อนแนวคิด

โอกาสของคาราท คือการใช้ความรู้จากบริษัท Poster Scope ซึ่งเป็นบริษัทที่ดูแลสื่อนอกบ้านที่ใหญ่ที่สุดในโลกในเครือ Aegis มาช่วยในการวางแผนสื่อนอกบ้านอย่างครบวงจรซึ่งเป็นการบริหารสื่อที่ในเมืองไทยยังไม่มีบริษัทที่มีความชำนาญในลักษณะเดียวกันนี้มาก่อน

ธุรกิจที่สอง คือด้านการจัดกิจกรรมพิเศษ (Event) เพราะเชื่อว่าการซื้อกิจการของบริษัทที่มีความชำนาญอยู่แล้วจะเป็นการเพิ่มเครื่องมือให้กับบริษัทในการทำกิจกรรมสนับสนุนลูกค้าโดยเฉพาะกระแสกิจกรรมด้านกีฬาและบันเทิงซึ่งจะมีอีเวนต์สำคัญๆ หลายงานเกิดขึ้นในปีนี้ มีการจัดสรรงบไว้ไม่ต่ำกว่า 350-400 ล้านบาท เพื่อเทกโอเวอร์บริษัทที่มีความชำนาญ

สุดท้าย คือแผนกสื่อดิจิตอล ซึ่งส่วนที่สนใจเป็นพิเศษ คือ Search Marketing โฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ และการวางแผนสื่อสำหรับออนไลน์ เป็นเทรนด์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาราทจะใช้วิธี Take Over บริษัทที่ทำธุรกิจเหล่านี้เช่นเดียวกับสองธุรกิจข้างต้น

“งบที่เราตั้งไว้แค่คร่าวๆ ซึ่งบริษัทแม่ไฟเขียวเต็มที่ ให้งบไม่จำกัด และให้ตัดสินใจได้เอง”

สิ่งที่เหลือก็แค่ความมั่นใจและฝีมือที่วิชัยเชื่อว่า สำหรับลูกค้า ทุก 100 บาทที่จ่ายผ่านคาราท จะต้องรีเทิร์นกลับไปไม่ต่ำกว่า 120 ในเชิงมูลค่าตามนโยบายที่ประกาศไว้

เป้าหมายรายได้ปีนี้ของคาราท ต้องทำเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอีก 1 พันล้านบาท วิชัยคาดว่า นอกจากมาจากธุรกิจเดิมแล้ว จะสื่อ มาจากอีก 3 ธุรกิจหลักที่บริษัทเร่งขยายในปีนี้ เพื่อรุกเข้าไปหาสื่อที่มีอัตราเติบโตสูงในตลาด