ตลาดรถในไทยช่วงไตรมาสแรก ชะลอตัวต่อเนื่องตามที่คาดกันไว้ โดยเฉพาะสถานการณ์ค่ายยักษ์ “โตโยต้า” ยิ่งน่าเป็นห่วง แม้จะครองความเป็นผู้นำตลาด แต่ยอดขายเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่าน กลับลดลงถึง 27.9% มากที่สุดในกลุ่มรถญี่ปุ่นและอเมริกา ไม่เพียงเท่านั้นคู่แข่งสำคัญหลายค่ายกลับมีตัวเลขเติบโตสวนตลาด พร้อมกับแนะนำรถรุ่นใหม่ๆ มาชิงตลาดทั้งในไทยและทั่วโลก เหตุนี้โตโยต้าจึงขยับทัพและปรับโฉมพัฒนารถรุ่นใหม่ ออกมาสู้ศึกที่กำลังรุมกระหน่ำ!
แม้โตโยต้าจะเป็นค่ายรถ 1 ใน 3 ที่มียอดขายเกือบ 10 ล้านคันต่อปี แต่ก็มีปัญหาในเรื่องการพัฒนารถและทางการเงินไม่แตกต่างจากรายอื่น ขณะเดียวกันโตโยต้าก็ต้องการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน และมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้มียอดขายทะลุ 10 ล้านคันในทั่วโลก เหตุนี้จึงมีรายงานข่าวประธานใหญ่ “อากิโกะ โตโยดะ” ทำการปรับโครงสร้างบริหารธุรกิจใหม่ เน้นแยกเป็นหน่วยงานตามขนาดและประเภทรถยนต์ ซึ่งจุดประสงค์สำคัญอยู่การพัฒนาและวิจัยรถยนต์ของโตโยต้าให้โดดเด่นในตลาด โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป
ทั้งนี้จะเห็นว่าไม่เพียงในระดับโลก ประเทศไทยในฐานะเป็นฐานการผลิตและตลาดสำคัญของโตโยต้า และยังมีบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เอเชียแปซิฟิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ TMAP เป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนารถรุ่นใหม่ๆ ของโตโยต้าในภูมิภาคนี้ ได้มีความเคลื่อนไหวรองรับการเพิ่มศักยภาพแข่งขันดังกล่าวเช่นกัน
โดยมีรายงานข่าวจากสื่อในไทย ระบุว่าโตโยต้าได้มีการปรับโครงสร้างการบริหารในภูมิภาคนี้ใหม่ จากเดิม “เคียวอิจิ ทานาดะ” เจ้าหน้าที่บริหารโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และกรรมการผู้จัดการใหญ่โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ถูกวางให้ดูแลตลาดในภูมิภาคเอเชียและตะวันออกกลาง รวมถึง TMAP ด้วย ซึ่งในโครงสร้างใหม่ทานาดะได้รับมอบหมายให้ดูแลเฉพาะด้านการตลาดและขายในไทย และให้เจ้าหน้าที่บริหารจากญี่ปุ่นคนอื่นๆ มาช่วยดูแลงานวิจัยและพัฒนาแทน รวมถึงตลาดตะวันออกกลางและในประเทศภูมิภาคลุ่มน้ำโขง
การปรับการบริหารของโตโยต้าในภูมิภาคนี้ นอกจากให้สอดคล้องกับนโยบายของประธานโตโยดะ ยังเป็นการมอบภาระให้ทานาดะกลับมาโฟกัสตลาดไทย หลังจากเมื่อก่อนสิ้นปีที่แล้วได้ผลักดัน 3 ผู้บริหารชาวไทย ขึ้นตำแหน่งรองกรรมการผู้จัดการใหญ่โตโยต้าในไทย ดูแลด้านการตลาด-ขาย บัญชีและการเงิน และด้านการผลิต ซึ่งตลาดในไทยกำลังประสบปัญหายอดขายชะลอตัว ทั้งจากสภาวะตลาดรถตกต่ำและการแข่งขันที่รุนแรงจากคู่แข่ง ซึ่งได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาผลักดันยอดขายให้เติบโต และส่งผลกระทบต่อตำแหน่งผู้นำของโตโยต้า ดังจะเห็นได้จากตลาดปิกอัพที่ถูก “อีซูซุ ดี-แมคซ์” ใหม่ ชิงเจ้าตลาดไปครองในช่วงไตรมาสแรก จากความสดใหม่ของดี-แมคซ์ 1.9 ดีดีไอ บลูเพาเวอร์
แน่นอนโตโยต้าคงยังจะไม่ปรับรูปลักษณ์ของปิกอัพ “ไฮลักซ์ รีโว่” ในช่วงนี้ เพราะเพิ่งปรับโฉมหรือโมเดลเชนจ์ไปไม่ถึงปี หรือถ้าทำอย่างเร็วน่าจะเป็นต้นปีหน้า สิ่งที่ทำได้ช่วงนี้จึงเป็นการเพิ่มตัวเลือกใหม่ อย่างล่าสุดส่งรุ่นตกแต่ง TRD Sportivo สู่ตลาด และในช่วงประมาณกลางปีหรือต้นไตรมาสสามนี้ จะมีการแนะนำรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “โตโยต้า อินโนวา” โฉมใหม่ ซึ่งเป็นการพัฒนาบนพื้นโครงสร้างตัวถังเดียวกับปิกอัพไฮลักซ์ รีโว่ แต่ได้มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้แตกต่างชัดเจน ด้วยการเพิ่มเส้นสายและความหรูหรา เช่นเดียวกับห้องโดยสารภายใน โดยเป็นแนวทางที่ถูกนำมาใช้ในรถพีพีวี “โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์” โฉมใหม่ จนประสบความสำเร็จครองความเป็นผู้นำตลาดอย่างเหนียวแน่น
เก๋งซับคอมแพ็กต์เป็นอีกตลาดที่โตโยต้าสูญเสียตำแหน่งผู้นำ แต่เนื่องจากเป็นช่วงรอยต่อในการไมเนอร์เชนจ์ ซึ่งเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ เป็นบล็อก 2 NR-FBE ขนาด 1.5 ลิตร Dual VVT-i 108 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT 7 จังหวะ และยังรองรับน้ำมัน E85 โดยเพิ่งวางจำหน่ายเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากนี้ไปจึงจะเป็นบทพิสูจน์ของ “โตโยต้า วีออส” ว่าจะกลับมาแข็งแกร่งครองเจ้าตลาดเก๋งซับคอมแพ็กต์ได้อีกหรือไม่?
ส่วนการปรับโฉมรูปลักษณ์คงต้องรออีกสักระยะ หรือน่าจะเป็นปลายปี แม้ล่าสุดได้มีการเผยโฉมวีออสรุ่นไมเนอร์เชนจ์ ในงานปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ 2016 ไปหมาดๆ ช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งหากเป็นไปตามแนวทางเดิม รูปลักษณ์หน้าตาวีออสรุ่นปรับโฉมใหม่ที่ได้รับอิทธิพลจากคัมรีใหม่ ทั้งเวอร์ชันจีนและไทยคงจะเหมือนกัน อาจจะแตกต่างเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเท่านั้น แต่งานนี้คงต้องติดตามกระแสข่าวอย่างใกล้ชิด เนื่องจากต้องไม่ลืมว่าโตโยต้ายังมีโครงการอีโคคาร์ เฟส 2 รออยู่เช่นกัน นั่นอาจจะทำให้มีอะไรบางอย่างออกมาสร้างความฮือฮาอีกก็ได้…
ว่ากันที่อีโคคาร์ “โตโยต้า ยาริส” นับเป็นอีกไฮไลต์ของโตโยต้าที่จะมากระตุ้นยอดขายปีนี้ เพราะจะมีการไมเนอร์เชนจ์แน่นอน โดยได้มีการเผยโฉมออกมาในเวทีเดียวกันกับวีออส ใหม่ โดยรูปลักษณ์หน้าตาปรับโฉมให้สุดล้ำเข้าไปได้อีก กับกันชนหน้าขนาดใหญ่แบบ X Style พร้อมกับเพิ่มความหรูเข้าไป ซึ่งคาดว่าในไทยน่าจะได้เห็นในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อเตรียมรับมือกับอีโคคาร์ของคู่แข่งอย่าง นิสสัน มาร์ช หรือซูซูกิ สวิฟท์ ในช่วงปีหน้า
ขยับมาที่เก๋งคอมแพ็กต์ “โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส” ซึ่งกำลังอยู่ในสภาวะยากลำบาก เมื่อคู่แข่ง “ฮอนด้า ซีวิค” เพิ่งโมเดลเชนจ์ลงสู่ตลาดไทย และตามข่าวลูกค้าตอบรับเป็นอย่างมาก แม้อัลติสจะเพิ่งส่งเวอร์ชั่นปี 2016 สู่ตลาด ด้วยการปรับเพิ่มออปชั่น และเครื่องยนต์รองรับน้ำมัน E85 แต่เทียบความสดใหม่ยังเป็นรองคู่แข่งเยอะ อย่างไรก็ตามโตโยต้าได้มีการเผยโฉมรุ่นไมเนอร์เชนจ์(เวอร์ชันยุโรปและเอเชีย) ออกมาแล้ว ซึ่งได้มีการปรับให้สปอร์ตโฉมเฉี่ยวมากกว่าเดิม ดังนั้นเวอร์ชันในไทย(อิงรูปลักษณ์ยุโรปแต่อาจแตกต่างในรายละเอียดบางจุด) น่าจะรออีกไม่นานคงได้จับจองกัน…
สำหรับรถที่ถูกจับตามองมากที่สุด “ซี-เอชอาร์” รถโมเดลใหม่จากค่ายโตโยต้า ถูกพัฒนาบนพื้นตัวถังรถใหม่ร่วมกับ “โตโยต้า พริอุส” โฉมใหม่ แต่ถูกออกแบบมาให้บุกตลาดซับคอมแพ็กต์ หรือบี-ครอสโอเวอร์ วางขุมกำลังให้เลือกทั้งเครื่องยนต์1.2 ลิตร เทอร์โบ, 2.0 ลิตร NA และรุ่นไฮบริด 1.8 ลิตร โดยสื่อสำนักต่างๆ ในไทยฟันธง! ครอสโอเวอร์เล็กรุ่นนี้จะถูกนำมาผลิตและวางจำหน่ายในไทยแน่นอน
นี่คือภาพความเคลื่อนไหวในการขยับทัพ และปรับโฉมรถรุ่นใหม่ของโตโยต้า ซึ่งหวังว่าจะช่วยผลักดันยอดขายของโตโยต้าให้มาแข็งแกร่งอีกครั้ง!…
ที่มา: http://manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9590000047365