ปริมาณการนำเข้าฝ้ายสหรัฐจากอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยในปี2015 เติบโต 3.4% เมื่อเทียบกับปี 2014 “คอตตอน ยูเอสเอ” ทุ่มงบการตลาด23 ล้านบาทตลอดทั้งปี มุ่งขยายการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดร่วมกับไลเซนซีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือไลเซนซีเสื้อผ้าแบรนด์ไทย “บลู คอร์เนอร์” (Blue Corner) และ“คาคิ บรอส” (Khaki Bros) เปิดตัวคอลเลคชั่น “คอตตอน ยูเอสเอ 2016” (2016 COTTON USATM Collection)เสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษ และสุภาพสตรี ที่ตัดเย็บจากเส้นใยฝ้ายคอตตอน ยูเอสเอ 100% ออกแบบโดยแบรนด์ดีไซเนอร์ “ASV” และเซเลบริตี้ชื่อดังของเมืองไทย “อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” พร้อมเตรียมแผนการโปรโมทอย่างเต็มรูปแบบ และจุดวางจำหน่ายกว่า 34 จุดทั่วประเทศ อีกทั้งเปิดตัว คอตตอน ยูเอสเอ ป็อปอัพ สโตร์แห่งแรก ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิร์ล เพื่อดันยอดขายภายในสามเดือน
คุณไกรภพ แพ่งสภา ตัวแทนคอตตอน ยูเอสเอ ภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่า ในปี2015 ปริมาณการนำเข้าฝ้ายสหรัฐจากอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2014 ที่มีจำนวนนำเข้าฝ้ายสหรัฐ 99,694 ตัน เป็น 103,217 ตัน หรือคิดเป็นเติบโต 3.4% จากกระแสรักษ์โลกที่ผู้บริโภคทั่วโลกต่างหันมาสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น โดยฝ้ายจากสหรัฐอเมริกายังคงครองตำแหน่งผู้ส่งออกฝ้ายรายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยส่วนแบ่งการตลาดการส่งออกฝ้ายสูงสุดราว 27% สำหรับในประเทศไทยนั้น ฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาได้รับการยอมรับจากผู้ประกอบการในประเทศไทย ด้วยอัตราการนำเข้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาเพื่อผลิตเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งทอเพื่อใช้ในครัวเรือนในปริมาณ 99,694 ตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 29.7%ของปริมาณฝ้าย 336,000 ตัน ที่ประเทศไทยนำเข้าทั้งหมดในปีผลผลิต 2014 และนับเป็นประเทศที่นำเข้าฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาสูงเป็นอันดับที่ 3 ในภูมิภาคอาเซียน รองจาก เวียดนาม (264,120 ตัน) และ อินโดนีเซีย (103,728 ตัน)
ฝ้ายสหรัฐอเมริกาเป็นที่ยอมรับและชื่นชอบในกลุ่มผู้บริโภคไทยมากขึ้น จากรายงานล่าสุดโดยผลสำรวจ “2015 COTTON USATM Mark Tracking Survey” ในปีที่ผ่านมาพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า ร้อยละ 56 มีการรับรู้และจดจำที่ดีเกี่ยวกับสัญลักษณ์คอตตอน ยูเอสเอ (COTTON USATM) เพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 42 ในปี 2013นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวไทย ยังมีการรับรู้เชิงบวกต่อฝ้ายสหรัฐอเมริกา อาทิ ร้อยละ61 ตระหนักถึงคุณภาพสูง และความทนทานของผลิตภัณฑ์จากฝ้ายสหรัฐอเมริกา และ ร้อยละ 54 ของผู้บริโภคชาวไทยยังแสดงความคิดเห็นว่า “ฝ้าย” เป็นวัตถุดิบที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายไกรภพ กล่าวต่อว่า “ในปี 2016 นี้ คอตตอน ยูเอสเอ จึงเตรียมทุ่มงบการตลาดรวมทั้งปีกว่า 23 ล้านบาทเพื่อสานต่อกลยุทธ์การตลาดขยายการรับรู้แบรนด์คอตตอน ยูเอสเอในกลุ่มผู้บริโภคในวงกว้าง โดยมุ่งเน้นไปที่การสื่อสารประชาสัมพันธ์คุณลักษณะเด่น 3 ประการของฝ้ายสหรัฐอเมริกา ได้แก่ ความบริสุทธิ์ของเส้นใย (Purity) คุณภาพที่ดีของเส้นใย (Quality) รวมถึง ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม (Responsibility) ควบคู่กับการเสริมสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับกลุ่มไลเซนซีด้วยการจัดกิจกรรมเชิงรุกร่วมกันตลอดทั้งปี เพื่อตอกย้ำถึงภาพลักษณ์ของคอตตอน ยูเอสว่าเป็นเเเบรนด์แห่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ และกระตุ้นให้ผู้บริโภคไทยหันมาสวมใส่เสื้อผ้าจากผ้าฝ้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าที่มีสัญลักษณ์ของ คอตตอน ยูเอสเอ ล่าสุดได้เปิดตัว “คอลเลคชั่น คอตตอน ยูเอสเอ 2016” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่คอตตอน ยูเอสเอ ได้ร่วมมือกับแบรนด์ไลเซนซีผลิตคอลเลคชั่น เพื่อออกจำหน่ายทั่วประเทศ ซึ่งในปีแรกได้เชิญสองแบรนด์ไลเซนซี เสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่มีฐานการผลิตของตัวเอง อย่างเสื้อผ้าสำหรับเสื้อผ้าสุภาพสตรี “บลู คอร์เนอร์” ได้เชิญดีไซเนอร์ชั้นนำของเมืองไทยแบรนด์ “ASV” ให้เกียรติเป็นทีมออกแบบ ภายใต้การควบคุมดูแลโดย “หมู พลพัฒน์ อัศวะประภา” ในคอลเลคชั่นชื่อ “Blue Corner x ASV x COTTON USATM ส่วนเสื้อผ้าสำหรับสุภาพบุรุษ “คาคิ บรอส” ได้รับเกียรติจาก“อาเล็ก ธีรเดช เมธาวรายุทธ” มาร่วมออกแบบในคอลเลคชั่น “Khaki Bros. x Alek T. x COTTON USATM”
ความร่วมมือดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือครั้งสำคัญของการส่งเสริมความสัมพันธ์ของผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอไทยตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ โดยมี คอตตอน ยูเอสเอ เป็นผู้สนับสนุนการทำการตลาดให้กับทั้งสองคอลเลคชั่น ครอบคลุมทั้งอะโบฟเดอะไลน์ และบีโลว์เดอะไลน์ อาทิเช่น การจัดงานคอตตอน เดย์ เพื่อเปิดตัว “คอลเลคชั่น คอตตอน ยูเอสเอ 2016” การถ่ายแฟชั่นเซ็ทปกในนิตยสารชั้นนำ, สื่อเอ้าท์ออฟโฮม, สื่อสิ่งพิมพ์ในบีทีเอส และที่พิเศษสุดคือคอตตอน ยูเอสเอ จัดป็อบอัพ สโตร์เพื่อวางจำหน่ายสินค้าคอลเลคชั่นดังกล่าว ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม 2016 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2016 นี้ และจะเริ่มจำหน่าย ณ ห้างสรรพสินค้า ชั้นนำทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ ถึงเดือนสิงหาคม 2016
“จากแผนการโปรโมทดังกล่าว คอตตอน ยูเอสเอ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้กับคอลเลคชั่นของทั้งสองแบรนด์ได้เป็นอย่างดี และในปี 2016 นี้ คอตตอน ยูเอสเอ ได้วางแผนที่จะเพิ่มไลเซนซีในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่สิ่งทอ (Non-woven) ได้แก่ แบรนด์ผ้าอนามัยที่ผลิตจากฝ้ายสหรัฐ 100% ซึ่งจะทำการเปิดตัวในเดือนพฤษภาคม อีกทั้งได้วางเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนไลเซนซีอีกประมาณ 2-4 ราย แบ่งเป็นไลเซนซีจากแบรนด์เครื่องนุ่งห่ม 1-2 แบรนด์ และไลเซนซีจากโรงงานสิ่งทอต่างๆ อีก 1-2 แห่ง ในส่วนของการบริโภคฝ้ายในเมืองไทยนั้น คอตตอน ยูเอสเอ ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนสินค้าที่ใช้ฝ้ายจากสหรัฐอเมริกาให้สูงขึ้นเป็น 3.5 ล้านชิ้นภายในสิ้นปี 2016”นายไกรภพ กล่าวทิ้งท้าย