ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ร่วมกับ Associate Professor Jonah Berger จาก The Wharton School at the University of Pennsylvania ผู้เขียนหนังสือ Contagious : Why Things Catch on ที่ได้รับรางวัล New York Times Best-Seller จัดทำการวิจัยในรูปแบบใหม่ที่นำ “คะแนนแห่งความกระฉับกระเฉง” (Dynamic Score) เข้ามาเป็นตัวชี้วัดทดแทนการวิจัยในรูปแบบเดิมที่ล้าสมัย ซึ่งพบว่าแบรนด์ที่ยิ่งมีความกระฉับเฉงมากก็จะมีผลประกอบการที่มากขึ้นตามไปด้วย โดยได้มีการเปิดตัวผลงานการวิจัยชิ้นนี้ในงาน คานส์ ปี 2016 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
งานวิจัยครั้งนี้ได้ให้ชื่อว่า D100 ซึ่งได้จัดอันดับ 100 แบรนด์ที่มีความกระฉับกระเฉงที่สุดจากสี่ภูมิภาคหลัก ซึ่งจะให้คะแนนจาก 4 หัวข้อคือ การปรับตัว (Agility) การตอบสนอง (Responsiveness) นวัตกรรม (Innovation) และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Sociability) โดยทำการสอบถามผู้บริโภคจำนวน 10,000 คนจาก 5 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ เยอรมนี จีน และอินเดีย เพื่อตอบแบบสอบถามถึงแบรนด์ตัวอย่างมากกว่า 1,200 แบรนด์ ทั้งแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักระดับโลก และแบรนด์ในแต่ละท้องถิ่น ซึ่งพบว่า 10 แบรนด์ที่กระฉับกระเฉง(Dynamic) ที่สุดในโลก ได้แก่
1. Google
2. Amazon
3. Samsung
4. Nike
5. Intel
6. NASA
7. BMW
8. Mercedes-Benz
9. Audi
10. Lenovo
ตามลำดับนี้
ทั้งนี้การทำวิจัย D100 นับเป็นครั้งแรกที่ได้จัดทำแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริโภคในหัวข้อดังกล่าวผ่านโซเชียลมีเดีย อาทิ Facebook, Twitter และ Weibo โดยสอบถามถึง การปรับตัวของแบรนด์เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาวะตลาดในปัจจุบัน (Agility), การตอบสนองของ แบรนด์ที่มีต่อความต้องการ และข้อเสนอแนะของลูกค้า (Responsiveness), การสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ตอบสนองต่อใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย (Innovation) และการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค (Sociability) ซึ่งนอกจากจะพิจารณาการให้คะแนนใน 4 หัวข้อดังกล่าวแล้ว ยังรวมไปถึงการจดจำในแบรนด์ (Brand Awareness) และมูลค่าของแบรนด์ (Brand Value) อีกด้วย
รองศาสตราจารย์ Jonah Berger ได้กล่าวว่า “การร่วมมือครั้งนี้ระหว่างเรากับ ไอพีจีมีเดียแบรนด์ส เราได้ใช้ระเบียบวิธีที่ครอบคลุม เพื่อให้เกิดการแสดงผลแบรนด์ต่างๆที่เป็นแรงขับเคลื่อนอนาคต ซึ่งจริงๆแล้ว มันไม่ได้เป็นเพียงแบรนด์ที่ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ในวันนี้ แต่ต้องเป็นแบรนด์ที่ปรับเปลี่ยนตัวเองได้ในวันพรุ่งนี้อีกต่างหาก”
นัยสำคัญของการวิจัยในครั้งชี้ให้เห็นว่า แบรนด์ที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ เคยเป็นเครื่องหมายการการันตีความสำเร็จในอดีต แต่ในยุคสมัยนี้ โลกมันหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอื้อต่อแบรนด์ที่สามารถปรับตัวเองให้เข้ากับโลกที่เปลี่ยนอยู่เรื่อยๆได้ดี และมีรายได้เพิ่มขึ้น
ผลจากการวิจัยในครั้งนี้ ชี้ให้เห็นว่า แบรนด์ที่มีคะแนนความกระฉับกระเฉงสูง – Dynamic Score มีความสัมพันธ์ทางบวกกับผลประกอบการของบริษัทโดยตรง แบรนด์ที่ Dynamic (แบรนด์ที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเกินค่าเฉลี่ยหนึ่งค่า) จะมีรายรับในไตรมาตรที่ 4 มากกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 2.7% จากปี 2014 ถึง 2015 ซึ่งอากจจะดูไม่เยอะมาก แต่ อัตราการเติบโตทางรายได้ของบริษัททั่วไปอยู่ที่ 4.4% เท่านั้น
ถ้าสนใจรับ Full Report ผลวิจัยฉบับนี้แบบเต็มๆ กรุณาติดต่อมาที่ [email protected] นาย ภราดร ศิรโกวิท, Associate Director,
Corporate Communication, และถ้าต้องการดูรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ www.facebook.com/IPGMBThailand และ www.thed100.com
IPG Mediabrands
ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ถูกก่อตั้งขึ้นโดย อินเตอร์พับลิคกรุ๊ป ในปี 2007 เพื่อดำเนินการทางด้านธุรกิจการวางแผน และซื้อสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยปัจจุบัน มียอดบิลลิ่งกว่า 37 พันล้านเหรียญดอลล่าร์สหรัฐ และมีพนักงานผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้มากกว่า 8,500 คนในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก
ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส เป็นเอเยนซี่ระดับโลกที่มีความคล่องตัว ความรวดเร็ว และมีข้อมูลที่เพียบพร้อมในธุรกิจนี้ ซึ่งได้สร้างความสำเร็จ และการเติบโตให้กับแบรนด์ใหญ่ระดับโลกมากมาย ทั้งนี้เครือข่ายของ ไอพีจี มีเดียแบรนด์ส ประกอบด้วย UM, Initiative, BPN และ Orion ทั้งยังรวมถึงหน่วยงานธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่าง Magna Global, Cadreon, Ansible, Society, Reprise, Rapport และ IPG Media Lab