หลังจากสวมหมวกมือการตลาดให้กับดีแทค รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด ดีแทคได้ครบ 50 วันพอดี สิทธิโชค นพชินบุตร อดีตมือการตลาดจากซัมซุง โมบายล์ ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวเปิดใจถึงภารกิจสำคัญ ตั้งเป้าขอเป็นเบอร์ 1 แบรนด์ดิจิทัลของประเทศไทย
เขาให้เหตุผลว่า เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ใช้งานดาต้าที่เติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว ในการที่จะผลักดันองค์กรไปสู่เป้าหมายนั้น ต้องพัฒนาดีแทคใน 3 เรื่อง คือ
- การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ และวัฒนธรรมการทำงานที่สะท้อนความเป็นองค์กรดิจิทัล
- มีบริการดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ความต้องการทุกเซ็กเมนต์ของตลาด
- พัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในระดับในประเทศและพันธมิตรระดับโลก
ลูกค้าใช้ดาต้าเพิ่มเป็น 60%
ทั้งนี้ โมบายล์อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่การใช้ดาต้าผ่านโมบายล์อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง คนไทยเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถอยู่ได้หากไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต การใช้ดาต้าในปริมาณที่มากขึ้นขณะที่การใช้งานโทรด้วยเสียงลดลง ถือเป็นโอกาสที่ดีแทคสามารถใช้เป็นช่องทางการสื่อสารกับผู้บริโภคผ่านพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ดังนั้นดีแทคจะต้องปรับกลยุทธ์และช่องทางการสื่อสารให้ทันและตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้
ในไตรมาส 2 ปี 2559 ดีแทคมีสัดส่วนผู้ใช้บริการด้านเสียงลดลง ในขณะที่ใช้บริการข้อมูลเพิ่มขึ้นเป็น 60% ของฐานลูกค้ารวมจากเดิมอยู่ที่ 58% ในไตรมาส 1 ปี 2559 รวมทั้งสัดส่วนผู้ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นเป็น 65% ของฐานลูกค้ารวม
ตั้งเป้าขยายลูกค้า 4G 6 ล้านเลขหมาย ภายในสิ้นปี
ส่วนปัจจัยที่ทำให้การใช้ดาต้าเพิ่มขึ้น มาจากกระแสความนิยมใช้เทคโนโลยี 4G ของผู้บริโภค ข้อเสนอแพ็กเกจที่คุ้มค่าของบริษัท และประสบการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น จากการขยายโครงข่าย 4G บริษัทมีจำนวนผู้ใช้บริการ 4G จำนวน 3.5 ล้านเลขหมาย เพิ่มขึ้นจาก 2.9 ล้านเลขหมายในไตรมาสที่แล้ว โดยตั้งเป้าเพิ่มฐานลูกค้า 4G ให้เป็น 6 ล้านเลขหมายภายในสิ้นปีนี้
ปรับภาพลักษณ์แบรนด์
สิทธิโชค ขยายความถึงการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ และคุณลักษณะของพนักงาน ด้วยการกำหนด DNA ของคนทำงาน หลังมีการปรับโครงสร้างองค์กร ที่มีผู้บริหารเลือดใหม่ และพนักงานสายพันธุ์ดิจิทัล เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรในแบบของการแหกกฎเดิมๆที่มีอยู่เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีกว่า (Be a Disruptor) ภายใต้พื้นฐานของความซื่อสัตย์ และจริยธรรม
โดยต้องมีองค์ประกอบ 4 อย่างคือ 1. ความหาญกล้าในการลงมือทำงานและตัดสินใจ (Be daring) 2. มีความคิดเห็นที่แตกต่าง เพื่อนำไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น (Think differently) 3. ลงมือทำอย่างรวดเร็ว (Act Fast) และ 4. มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ (Passion to Win) ซึ่งทั้งหมดนี้ เราต้องการให้พนักงานทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือทำเพื่อลูกค้า
บริการดิจิทัลทุกเซ็กเมนต์
ในส่วนของการนำเสนอบริการดิจิทัล จะเน้นจุดยืนนำเสนอความคุ้มค่าให้กับลูกค้าและพัฒนาประสบการณ์ใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยบริการดิจิทัล เช่น บริการ dtac Music Infinite บริการดีแทคแอปพลิเคชั่น และบริการดิจิทัลใหม่ๆ ต่อเนื่อง
หาพันธมิตรปั้นบริการดิจิทัล
สำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือกับพันธมิตร ในระดับประเทศและพันธมิตรระดับโลกจะเน้นไปที่ความร่วมมือในการคัดสรรค์บริการดิจิทัล มิวสิก วิดีโอสตรีมมิ่ง ที่ให้ความรู้ ความบันเทิง ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรผู้นำด้านเกมส์ ต่างๆ ที่จะทยอยให้บริการในปีนี้ต่อไป รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรผู้จัดจำหน่าย ในการกระจายสินค้าและบริการให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย
พัฒนาแบรนด์คู่โครงข่าย
สำหรับสถานการณ์ทางการตลาดและอนาคตของดีแทคต่อจากนี้ จะมุ่งเน้นไปที่การเป็นพัฒนาภาพลักษณ์ของแบรนด์และโครงข่ายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อก้าวสู่การเป็นแบรนดด์ดิจิทัลอันดับ 1 ในประเทศไทย บริษัทจะสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคด้วยการพัฒนาโครงข่ายให้ดียิ่งขึ้น
จากผลการวิจัยพบว่า ลูกค้ามีความพึงพอใจในการใช้งานดีขึ้น จาก NPS สกอร์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งคุณภาพโครงข่ายและการให้บริการ แต่ยังมีในบางส่วนที่ต้องจริงจังกับการแก้ไขปัญหาการใช้งานในบางพื้นที่ หลังจากบริษัทเปิดให้บริการโครงข่าย 4G ในทุกจังหวัดในช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว รวมทั้งให้บริการ 4G 1800 MHz ด้วยปริมาณคลื่นความถี่เต็ม 20 MHz ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล บริษัทจะพัฒนาโครงข่าย 4G 2.1 GHz ในทุกอำเภอทั่วประเทศภายในไตรมาส 3 ปีนี้