เวอไรซอน (Verizon Communications Inc) ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อันดับ 1 ของสหรัฐอเมริกา ประกาศเข้าซื้อกิจการและทรัพย์สินหลักในธุรกิจอินเทอร์เน็ตของยาฮู (Yahoo Inc) อย่างเป็นทางการด้วยเงินสดมูลค่า 4.83 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.69 แสนล้านบาท เรียกว่าเป็นการขีดเส้นปิดดีลให้ยาฮูที่มีแผนปรับโครงสร้างและขายกิจการมานาน และเป็นสัญญาณว่ายาฮูกำลังเข้าสู่ด่านใหม่ที่จะได้รับแรงผลักดันจากเจ้าพ่อโทรคมนาคมอย่างเต็มที่
เบื้องต้น เวอไรซอนเปิดเผยแผนดำเนินงานในระยะแรกว่าจะรวมบริการออนไลน์ของยาฮูทั้งบริการค้นหาข้อมูล บริการอีเมล และบริการแมสเสนเจอร์ รวมถึงเทคโนโลยีในการโฆษณาเข้ากับหน่วยธุรกิจ AOL หรือ aol.com ที่เวอไรซอนเข้าซื้อกิจการเมื่อปีที่แล้วด้วยมูลค่า 4.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามยุทธศาสตร์บุกหนักธุรกิจโฆษณาในรูปแบบวิดีโอบนอุปกรณ์พกพา รวมถึงบริการอื่นที่จะนำมาสู่รายได้ที่นอกเหนือจากบริการเครือข่ายที่เริ่มอิ่มตัว
อย่างไรก็ตาม เป็นที่รู้กันว่าดีลซื้อขายกิจการระหว่างยาฮูกับเวอไรซอนเกิดขึ้นจากแรงเคลื่อนไหวของนักลงทุนที่นำโดยกลุ่มสตาร์บอร์ดแวลู (Starboard Value LP) ที่หมดศรัทธาในซีอีโอสาว “มาริสสา เมเยอร์” (Marissa Mayer) ซึ่งถูกว่าจ้างมาเมื่อปี 2012 โดยทั้งหมดเป็นแรงดันสำคัญที่นำมาสู่ดีลซื้อกิจการประวัติศาสตร์ครั้งนี้
ซีอีโอยาฮูยังอยู่
ยาฮูนั้นเป็นบริษัทอินเทอร์เน็ตที่ก่อตั้งตั้งแต่ปี 1994 ก่อนจะกลายเป็นบริการที่ชาวออนไลน์ทุกคนรู้จักในช่วงยุคแรกที่อินเทอร์เน็ตเริ่มแพร่หลาย แต่ที่ผ่านมา ยาฮูสูญเสียตำแหน่งผู้นำให้กับเจ้าพ่อบริการเสิร์ซและโฆษณาออนไลน์อย่างกูเกิล (Google) รวมถึงน้องใหม่อย่างเฟซบุ๊ก (Facebook) และอีกหลายราย
ไม่ว่าสถานการณ์ในวันนี้จะเป็นอย่างไร ซีอีโอยาฮูยืนยันกับผู้ถือหุ้นว่าเธอวางแผนทำงานกับยาฮูต่อไปแม้ว่าดีลจะสำเร็จลุล่วงไปแล้ว โดยมาร์นิ วาลเดน (Marni Walden) ประธานฝ่ายนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และธุรกิจใหม่ของเวอไรซอน จะเป็นประธานในการรวมหน่วยธุรกิจครั้งนี้
น่าเสียดายที่ผู้บริหารของเวอไรซอนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลงานปรับโครงสร้างของยาฮู โดยกล่าวเพียงว่ายังไม่ได้สรุปผลการตัดสินใจเรื่องทีมบริหารยาฮูในอนาคต
สิ่งที่สามารถสรุปได้ในขณะนี้ คือเวอไรซอนจะสามารถรวมข้อมูลผู้ใช้จาก AOL และ Yahoo เข้ากับฐานลูกค้าผู้ใช้บริการเครือข่ายของเวอไรซอนอีกมากกว่า 100 ล้านคน ฐานผู้บริโภคจำนวนมหาศาลนี้ทำให้นักโฆษณาสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้จากพฤติกรรมออนไลน์และความชื่นชอบบนโลกไซเบอร์ ทั้งหมดนี้ทำให้เวอไรซอนสามารถขยายฐานตลาดเพื่อนำไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ฝันไว้ได้ในพริบตา
จุดนี้ ผู้บริหารเวอไรซอนให้ข้อมูลว่าการรวมหน่วยธุรกิจยาฮูทำให้ตัวเลขข้อมูลผู้บริโภคในมือของบริษัทเพิ่มจากหลักล้านเป็นพันล้าน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้เวอไรซอนสามารถต่อกรกับคู่แข่งได้ในสมรภูมิใหม่ที่กำลังจะเคลื่อนทัพไป
เบื้องต้น ซีอีโอเมเยอร์ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่างรอยเตอร์ส ว่าเธอยังเชื่อมั่นและมองเห็นหนทางที่จะทำให้ยาฮูเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะในวงการโมบายล์ และสิ่งที่น่าตื่นเต้นในการรวมกิจการกับเวอไรซอนคือโอกาสที่จะทำให้ยาฮูกลับมาเติบโตได้เร็วขึ้นในอนาคตอันใกล้ ทั้งหมดนี้เธอเปิดใจรับทุกกฏและทุกการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นจากการเป็นบริษัทที่ถูกควบรวมกิจการ
ไม่ว่าจะดีร้ายอย่างไร วันนี้ยาฮูยังได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีทรัพย์สินมากมายบนโลกอินเทอร์เน็ต ทั้งตัวเลขผู้ใช้บริการอีเมลหลายร้อยล้านราย รวมถึงบริการด้านการเงิน กีฬา และข่าวสารที่ยังทำให้โฮมเพจของยาฮูมียอดชมคึกคักตลอดเวลา เสียเพียงคู่แข่งอย่างกูเกิลและเฟซบุ๊กมีจุดยืนแข็งแกร่งกว่า และสามารถเติบโตในยุคทองของโฆษณารูปแบบวิดีโอบนอุปกรณ์พกพาได้ดีกว่า
เรื่องนี้ โรเจอร์ เอตเนอร์ (Roger Entner) นักวิเคราะห์มองว่าเป็นผลจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของยาฮูนานนับ 10 ปี แต่จากนี้ไป สิ่งที่ยาฮูเป็นจะชัดเจนขึ้นด้วยนโยบายของเวอไรซอนที่ต้องการก้าวข้ามขีดจำกัดในธุรกิจโทรคมนาคม เพื่อไปสู่อุตสาหกรรมที่กำลังส่งสัญญาณเติบโตสุดขีดในขณะนี้
แม้จะฟังดูดี แต่นักลงทุนตอบรับเรื่องนี้ในแง่ไม่บวกนัก โดยหุ้นเวอไรซอนลดลงเล็กน้อย 0.4% เหลือ 55.88 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ยาฮูหุ้นตก 2.6% เหลือ 38.37 เหรียญทันทีที่ประกาศ
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000073937
