เวิร์คพอยท์ ขยายธุรกิจ อวดศักยภาพรายการไทย ต่างประเทศทั่วโลกรุมซื้อลิขสิทธิ์

ด้วยความเป็นผู้นำแถวหน้าของอุตสาหกรรมบันเทิงของประเทศไทย ที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรมแห่งความสร้างสรรค์ควบคู่คุณธรรม ทำให้รายการต่างๆ ที่ผลิตโดย บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เต็มไปด้วยความครีเอทีฟมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ส่งผลให้ตลาดต่างประเทศให้ความสนใจซื้อลิขสิทธิ์รายการไปผลิต ซึ่งในอดีตจนถึงปัจจุบันขายลิขสิทธิ์รายการไปแล้ว 19 รายการ หลากหลายประเทศ ครอบคลุม 5 ทวีป ทั้งในรูปแบบของ Format Programs นำไปผลิต และ Finished Programs เพื่อนำไปออกอากาศ นับเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย และเป็นอีกก้าวความสำเร็จของการขยายธุรกิจด้านการขายลิขสิทธิ์รายการไปสู่ตลาดโลก โดยในปี 2559 บมจ.เวิร์คพอยท์ฯตั้งเป้ารายได้จากการขายลิขสิทธิ์รายการเติบโตมากกว่าปีที่แล้วถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง นายธนศักดิ์ หุ่นอารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ ผู้บริหารงานที่เข้าใจตลาดทางด้านนี้เป็นอย่างดี ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดเรื่องการขายคอนเทนต์ให้กับต่างประเทศว่า

“เรื่องของการขายลิขสิทธิ์รายการไปยังต่างประเทศเริ่มจากเรามองเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจ ประกอบกับเรามีรายการมากมายที่มีความเป็นครีเอทีฟ มีความแปลกใหม่และมีไอเดียหลากหลาย จึงทำให้เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เราเริ่มขายลิขสิทธิ์รายการไปยังต่างประเทศตั้งแต่ปี 2542 รายการแรกคือเกมจารชน ขายให้กับประเทศอินโดนีเซีย จนถึงปัจจุบันเราขยายธุรกิจทางด้านนี้เป็นวงกว้าง นอกจากตลาดในเอเชียแล้ว ยังขยายไปยังทวีปอื่นๆ ซึ่งแนวโน้มการขยายธุรกิจเติบโตเร็วและเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก โดยขณะนี้ขายรายการในรูปแบบ Format Programs ไป 10 รายการ และขายแบบ Finished Programs ไป 10 รายการ รวมขายไปแล้วหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ สวีเดน เปรู อินโดนีเซีย เวียดนาม กัมพูชา พม่า สิงคโปร์ และล่าสุดคือรายการปริศนาฟ้าแลบ ที่ทางประเทศอเมริกาซื้อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอเมริกาเป็นประเทศที่ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่แต่เขาให้การยอมรับรายการของคนไทย และยังมีรายการมวยอย่าง ซูเปอร์มวยไทย ที่ตอนนี้ประเทศฝรั่งเศสซื้อไปแล้วเช่นกัน ซึ่ง Format Programs รายการที่ขายไปแล้ว อาทิ เกมจารชน, กล่องดำ,แฟนพันธ์แท้, เดอะแบนด์, เกมทศกัณฑ์, แก๊งค์นมกล่อง, ชิงร้อยชิงล้านฯ ส่วนที่ขายไปแบบ Finished Programs อาทิ ตลกหกฉาก, คนอวดผี, แก๊งค์นมกล่อง,ซูเปอร์มวยไทย, เกมริษยา 1-2, เลิฟบลัด 1-2, หน้ากากนางเอก, เจ็ดวันจองเวร, ดอกไม้ลายพาดกลอน ซึ่งในปีนี้เรายังคงเดินหน้าขยายตลาดทางด้านการขายลิขสิทธิ์รายการไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง คาดว่าภายในปีนี้จะสร้างรายได้มากกว่าปีก่อนถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ และจะเพิ่มรายได้มากขึ้นในปีต่อๆ ไป”