เปิดโปงขบวนการ Republic of Thailand

ขบวนการนี้ ไม่ใช่เรื่องเพิ่งเกิดขึ้น แต่เรื่องราวนี้ได้ถูกเปิดเผยมาพักใหญ่ เป็นปรากฏการณ์ในสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะๆ

บทความของ “ชัยอนันต์ สมุทวณิช” คอลัมน์ชีวิตที่เลือกได้ ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวัน เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2551 ได้สะท้อนถึงขบวนการ Republic of Thailand ไว้อย่างน่าสนใจ

“ขบวนการ Republic of Thailand ซึ่งมีอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะแถบสแกนดิเนเวีย ที่ฟินแลนด์ มี Website ของ Republic of Thailand ด้วย ส่วนในประเทศไทยมีอยู่หลายแห่ง คือ ในมหาวิทยาลัยบางแห่งมีอาจารย์ที่มีความเห็นว่าประเทศไทยไม่จำเป็นจะต้องมีสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งที่เป็นฝ่ายซ้ายเก่า ทำหนังสือและใบปลิว ตลอดจนพูดคุยกับชาวบ้านในทำนองหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อีกส่วนหนึ่งของขบวนการนี้ก็คือ การเคลื่อนไหวโจมตีประธานองคมนตรี”

ขบวนการ Republic of Thailand นี้ ประสานกับกลุ่มที่เปิด Website ในเมืองไทยหลายแห่งและมีการออกวารสารด้วย เมื่อมีการจับกุมผู้ไม่ยืนแสดงความเคารพ ขบวนการนี้ก็ได้ออกกระทู้ใน Web และมีการทำเสื้อยืดแจก

จะเป็นการบังเอิญหรือไม่ก็ไม่ทราบ แต่กลุ่มผู้สนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นสารธารณรัฐนี้ก็สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณด้วย และกลุ่มที่ไปประท้วงบ้านสี่เสาฯ ก็ชัดเจนว่า เป็นกลุ่มสนับสนุนพ.ต.ท.ทักษิณ

นอกนั้นเมื่อมีเหตุการณ์ในเนปาล ก็มีการนำเสนอข่าวต่างประเทศอย่างละเอียด

ในบทความของอาจารย์ชัยอนันต์ ยังระบุด้วยว่า “ขณะนี้มีปรากฏการณ์ในสังคมไทยที่แตกต่างไปจากในอดีต ในอดีตนั้นแม้จะมีการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ แต่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ในเวลานี้มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ

มีความคิด มีการจัดตั้งองค์กรและเครือข่ายเพื่อเผยแพร่ความคิด มีเงินทุนสนับสนุน มีการใช้การสื่อสารผ่านเว็บไซต์ และทางการจัดพิมพ์วารสานใบปลิว ตลอดจนหนังสือ และมีการส่งคนไปปลุกปั่นคนในชนบท และแท็กซี่ในกรุงเทพฯ

“ผมไม่ทราบว่าหน่วยการข่าวของทางราชการจะติดตามดูขบวนการนี้มากน้อยเพียงใด แต่เมื่อมีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบแล้ว ในอนาคตขบวนการ Republic of Thailand ก็อาจจะออกมาจัดตั้งเป็นกลุ่มการเมือง และเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยมากขึ้นก็ได้”

แม้แต่การนำชื่อของทักษิณไปอยู่บนธงชาติไทย ในงานต้อนรับทีมฟุตบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ที่ทักษิณ จนเป็นข่าวฮือฮาถึงความไม่เหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งในกระบวนการที่อาจารย์ชัยอนันต์ มองว่า “การกระทำที่อุบาทว์นี้ จะอ้างว่าฝรั่งรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ไม่น่าจะฟังขึ้น อย่างน้อยสโมสรก็ต้องรู้เห็น และจะต้องมีการคิด และเตรียมการกัน การแข่งขันฟุตบอลก็ต้องมีการถ่ายทอดมาเมืองไทย การกระทำเช่นนี้จึงอุกอาจ และท้าทายยิ่งนัก

“เมื่อชาติกับทักษิณ ถูกนำเสนอให้เป็นสิ่งที่คู่กันแล้ว ความหมายนี้จะเป็นอย่างไร จะเกี่ยวข้องกับขบวนการ Republic of Thailand หรือเปล่า

ขบวนการสาธารณรัฐ ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า

ถัดมาไม่กี่วัน คอลัมน์ของ “คำนูณ สิทธิสมาน” ส.ว. บัญชีรายชื่อ เขียนในผู้จัดการรายวัน วันที่ 18 พฤษภาคม 2551 ได้หยิบงานเขียนของ “บิ๊กจิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ที่พิมพ์แจกในครบรอบวันเกิด ในหัวข้อ “ขบวนการสาธารณรัฐ ล้มปืน ล้มทุน ล้มเจ้า”
ข้อเขียนของบิ๊กจิ๋ว ระบุว่า “มีกลุ่มบุคคลผู้นิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ดื้อรั้นบางกลุ่ม หันมาใช้ยุทธวิธีแนวร่วมแทนอย่างเต็มที่ โดยพยายามใช้วิธีการต่างๆ เช่น ชุบตัวในสถาบันวิชาการ เข้าร่วมทำเศรษฐกิจทุนนิยม เข้าร่วมถืออำนาจรัฐ ยุยงให้ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายทุนทำผิดให้มากๆ

“ปัจจุบันมีขบวนการบ่อนทำลายประเทศ โดยใช้ระบอบเผด็จการรัฐสภาเป็นเครื่องมือดำเนินยุทธวิธีแนวร่วมเพื่อก่อสงครามกลางเมือง เพื่อเปลี่ยนรูปของประเทศจากราชอาณาจักรไปสู่สาธารณรัฐ โดยใช้รัฐธรรมนูญเป็นอาวุธหลัก…”

เป็นข้อเขียนที่คำนูณเชื่อว่า “มิอาจไม่รับฟัง และปล่อยผ่าน” เพราะบิ๊กจิ๋วเป็นอดีตเจ้ากรมยุทธการทหารบก และเสนาธิการทหารบก เป็นหนึ่งใน “มือทำงาน” ของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปี 2523

เชื่อได้ว่า บิ๊กจิ๋ว ซึ่งเป็นคนฉลาด จมูกไว มีการเมืองอยู่ในสายเลือดคงต้องได้รับรู้อะไรมาบางอย่าง

คำนูณยังตั้งข้อสังเกตว่า “กลุ่มนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ดื้อรั้นบางกลุ่ม” ตามที่บิ๊กจิ๋วเอ่ยถึงนั้น เป็นกลุ่มก้อนเดียวกันกับข้อเขียนของ “ประชา บูรพาวิถี” ในเนชั่นสุดสัปดาห์ ที่ระบุว่า มีกลุ่มที่คึกคักเอาการเอางานอยู่ 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกเป็นอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ เคยเป็นสมาชิกพรรคไทยรักไทย นิยมชมชอบประชานิยม และหวังตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ขึ้นมาใหม่ และให้เป็นพรรคคู่ขนาน กับพรรคไทยรักไทย แต่ไม่สำเร็จ

อีกกลุ่ม ระบุชื่อเรียกว่า “สหายผัวเมีย” เข้าร่วมเคลื่อนไหวกับ นปก. เพราะเชื่อวาต้องเป็นพันธมิตรกับพรรคทุนใหญ่เพื่อโค่นล้มพลังจารีตนิยม จากนั้นจึงมาจัดการกับทุนใหญ่ทีหลัง

การชนะในการเลือกตั้งของพรรคพลังประชาชน จึงเป็นที่ยินดีของสหายผัวเมีย เพราะมองว่าเป็นชัยชนะของประชาชน และพลังอนุรักษนิยมกำลังเสื่อมทรุดอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

นับเป็นบทความที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวที่มีจริงของขบวนการ Republic of Thailand อย่างน่าติดตาม