วอลมาร์ท (Walmart) บริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศเข้าซื้อกิจการผู้ค้าออนไลน์อายุ 2 ปีอย่าง “เจ็ตดอทคอม” (Jet.com) ด้วยมูลค่า 3,300 ล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 105,000 ล้านบาท ทำลายสถิติการซื้อขายกิจการบริษัทอีคอมเมิร์ซที่มีมูลค่าสูงที่สุด
รายงานระบุว่าหลังจากดีลนี้ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ Jet อย่างมาร์ค ลอร์ (Marc Lore) จะรับหน้าที่บริหาร Jet และแผนกอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯของ Walmart โดยการซื้อกิจการนี้จะถูกแบ่งจ่ายเป็น 2 ส่วนคือเงินสด 3 พันล้านเหรียญและหุ้นมูลค่า 300 ล้านเหรียญใน Walmart รวมถึงแผนให้โบนัสกับกลุ่มผู้บริหาร Jet ในอนาคต
ในมุมของ Walmart การซื้อกิจการครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่ เนื่องจาก Jet.com เป็นเว็บไซต์ที่เพิ่งเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเมื่อกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่มีมูลค่าการซื้อขายเหนือกว่าซูลิลี (Zulily) เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอเมริกันที่ถูกจำหน่ายให้กับบริษัทคิววีซี (QVC) มูลค่า 2.4 พันล้านเหรียญไปเมื่อปีก่อน
บริษัทที่ถูกจับตามองมากที่สุดจากดีลนี้คืออเมซอน (Amazon) เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยจากการร่วมมือระหว่างบริษัทสตาร์ทอัปน้องใหม่กับเจ้าพ่อค้าปลีกอเมริกัน ที่ผ่านมา Walmart มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าออนไลน์เพียง 1.4 หมื่นล้านเหรียญ ถือว่าด้อยกว่า Amazon ที่ทำได้มากกว่า 9.9 หมื่นล้านเหรียญ
อย่างไรก็ตาม Jet.com ยังไม่สามารถทำกำไรใดๆในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเพราะการก่อตั้งที่เพิ่งเริ่มเมื่อปี 2014 ซึ่งด้วยจุดยืนที่น่าสนใจอย่างการประกาศตัวเป็นทางเลือกนอกเหนือจาก Amazon ทำให้ Jet สามารถระดมทุนรอบล่าสุดได้มากกว่า 619 ล้านเหรียญสหรัฐ จนกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 1.6 พันล้านเหรียญในเวลาไม่ถึง 3 ปี
ปัจจุบัน Jet วางจำหน่ายสินค้ามากกว่า 12 ล้านชิ้น ตั้งแต่โทรทัศน์ ของเล่น รวมถึงซีเรียลอาหารเช้า และสินค้ากลุ่มอาหารสดในบางพื้นที่ ทั้งหมดนี้เป็นผลจากเครือข่ายผู้ค้ามากกว่า 2,000 รายที่ลงรายการสินคาเพื่อจำหน่ายบน Jet.com แล้วจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าของ Jet จากโรงงานโดยตรง ก่อนจะหักส่วนแบ่งราว 8-15% จากคำสั่งซื้อเหล่านี้
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000079203
