2 ปีแห่งการปั้นช่องทีวีดิจิทัลช่อง GMM25 โดยบิ๊กบอส “สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม แชนแนล ดิจิทัลทีวี ที่ได้เริ่มต้นเส้นทางจากสายวิทยุสถานีกรีนเวฟที่มีอายุยาวนานกว่า 25 ปีแล้ว ซึ่งคอนเทนต์ที่เป็นตัวชูโรงที่สุดของกรีเวฟก็คือ “คลับฟรายเดย์” ที่ให้ผู้ฟังได้โทรมาแชร์ประสบการณ์ความรัก โดยที่มีพี่อ้อย และพี่ฉอด เป็นที่ปรึกษา
หลังจากนั้นก็ได้ต่อยอดคอนเทนต์คลับฟรายเดย์เป็นละครซีรีส์ ออกอากาศครั้งแรกทางช่อง Green Channel ปรากฏว่าคลับฟรายเดย์ได้สร้างความสำเร็จได้ไม่น้อย จนเมื่อก้าวเข้าสู่เส่นทางของทีวิดิจิทัลช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ก็ยังหมายมั่นปั้นมือให้คลับฟรายเดย์เป็น Content Killer อยู่
ซึ่งช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้วางยุทธ์ศาสตร์อย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่ลงไปเล่นตลาดแมส เพราะมีการแข่งขันกันสูง หลายช่องลงมาจับกลุ่มนี้เพราะฐานคนดูกว้าง แต่เน้นจับกลุ่มเป้าหมายกลุ่มคนอายุ 15-34 ปี เพราะมองว่าคนกลุ่มนี้มีความแอ็กทีฟสูงทั้งในเรื่องไลฟ์สไตล์ การทำงาน และการเรียน และมีไลฟ์สไตล์เป็นคนรุ่นใหม่ ทันสมัย รวมถึงเน้นคอนเทนต์ในเรื่องของละคร และซีรีส์เป็นหมัดเด็ด
สายทิพย์ได้เล่าให้ฟังว่า การปั้นช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ได้ศึกษาความสำเร็จจากตอนทำกรีนเวฟ เป็นเรื่องการทำ Relation Marketing มีการพูดคุยปฏิสัมพันธ์กับคนฟังเพื่อให้เกิดลอยัลตี้ คอนเทนต์ในเรื่องของละครจึงเป็นภาพที่ชัดที่สุดที่จะใช้สื่อสารกับผู้บริโภค และคลับฟรายเดย์ก็เป็นคอนเทนต์ที่ต่อยอดจากวิทยุ เป็นเรื่องของอีโมชันนอล เป็นเรียลลิตี้เรื่องจริงอยู่ ทำให้เกิดการพูดคุยต่อบนโลกออนไลน์ และเกิดกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้
สายทิพย์ยังพูดติดตลกอีกว่า หลายคนได้เรียกช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เป็นช่องคลับฟรายเดย์ไปแล้ว แต่ตนเองก็ยินดี เพราะจาก 20 กว่าช่อง ให้ผู้บริโภคจำว่าอะไรก็ยอมทั้งนั้น ดีกว่าจำไม่ได้
จีเอ็มเอ็ม 25 มีพาร์ตเนอร์ที่ผลิตคอนเทนต์ให้ในเครือจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่อยู่ 3 รายด้วยกัน แต่ละรายก็จะมีคาแร็กเตอร์แตกต่างกัน ได้แก่ บราโว่ ที่หยิบจับเพลงมาปั้นเป็นคอนเทนต์ต่างๆ จีดีเอช 559 เน้นผลิตภาพยนตร์ ซีรีส์ที่โดนใจวัยรุ่น และจีเอ้มเอ็มทีวีที่เป็นละครซีรีส์แบบรักกุ๊กกิ๊ก เด็กๆ
ปัจจุบัน จีเอ็มเอ็ม 25 มีเรตติ้งในเฉพาะกลุ่มคนอายุ 15-34 ปี ในเขตกรุงเทพฯ ด้วยเรตติ้ง 0.202 อยู่ในอันดับ 6 ในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเรตติ้งรวม 0.5 พร้อมทั้งตั้งเป้ารายได้ 800 ล้านบาท หรือมีการเติบโต 100% จากปี 2558 ที่มีรายได้ 400 ล้านบาท
ทีวีดิจิทัล ยังคงดิ้นตายกันอยู่
สายทิพย์ได้ประเมินสถานการณ์อุตสาหกรรมทีวีดิจิทัลในช่วงครึ่งปีหลังว่ายังคงทรงๆ ไม่หวือหวา เพราะงบสื่อโฆษณายังคงเท่าเดิม ส่วนการแข่งขันในตลาด เป็นเรื่องการแข่งขันเพื่อเอาชีวิตรอดกันมากกว่า แต่ละช่องก็อาจจะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันไป บางช่องตัดงบคอนเทนต์เพื่อไปเสริมด้านการตลาด หรือบางช่องเพิ่มงบในส่วนของโปรดักชั่นให้คอนเทนต์ดึงดูดความสนใจก็มี แต่ทุกช่องต้องหาตนเองให้เจอ
แต่ช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เน้นการทำคอนเทนต์ในต้นทุนที่ไม่สูง ซีรีส์แต่ละเรื่องจะมีนักแสดงไม่มาก สถานที่ถ่ายทำไม่เยอะ แต่เน้นในเรื่องบท และนักแสดงจะต้องปัง ต้องโดนใจผู้ชมให้ได้
