ลือสนั่น! คาดซิสโก้ ซีสเต็มส์ (Cisco Systems) อาจประกาศเลย์ออฟพนักงานครั้งใหญ่ ซึ่งอาจทำให้มีคนตกงานสูงสุดถึง 14,000 ตำแหน่งทั่วโลก โดยคาดว่าเป็นผลมาจากการปรับนโยบายของบริษัทจากธุรกิจด้านฮาร์ดแวร์มาสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์-ดาต้าเซนเตอร์นั่นเอง
ข่าวลือดังกล่าวได้รับการรายงานโดยเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี CRN โดยระบุว่า ซิสโก้ มีแผนจะเปิดเผยข้อมูลการเลิกจ้างพนักงานอย่างเป็นทางการในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งตัวเลขการเลิกจ้างนั้น อยู่ระหว่าง 9,000-14,000 ตำแหน่ง ขณะที่ตัวแทนของซิสโก้ปฏิเสธไม่ให้ความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับข่าวลือนี้ แต่หากมีการเลิกจ้างพนักงานสูงถึง 14,000 ตำแหน่งจริง จะเท่ากับซิสโก้เลิกจ้างพนักงานมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของพนักงานทั้งหมดเลยทีเดียว
เว็บไซต์ข่าว CRN ยังเผยด้วยว่า สาเหตุที่มีการเลิกจ้าง เพราะบริษัทมีการปรับเปลี่ยนนโยบายจากธุรกิจฮาร์ดแวร์มาสู่ธุรกิจซอฟต์แวร์ เช่น การทำศูนย์ข้อมูล ซึ่งในเชิงตัวเลขแล้ว เป็นธุรกิจที่มีกำไรเหนือกว่าธุรกิจด้านฮาร์ดแวร์อยู่พอควรนั่นเอง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กที่ได้รายงานไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระบุว่า ณ ขณะนั้น ซิสโก้ มีพนักงานมากกว่า 73,000 ตำแหน่ง
ส่วนการประกาศเลิกจ้างครั้งก่อนหน้าของซิสโก้ เกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม 2014 โดยมีการเลิกจ้างพนักงานถึง 6,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 8 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนพนักงานทั้งหมดในขณะนั้น
อย่างไรก็ดี ในระยะหลัง ซิสโก้ ได้มีการลงทุนในโปรดักต์ใหม่หลายตัว เช่น ซอฟต์แวร์ Data Analytics ไปจนถึงเครื่องมือในการทำดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งสาเหตุที่เปลี่ยนนโยบายจากธุรกิจฮาร์ดแวร์มาสู่ซอฟต์แวร์ เป็นผลมาจากการลดการลงทุนของบริษัทผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคม และองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพรส์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจฮาร์ดแวร์อย่างสวิตช์ และเราน์เตอร์ของซิสโก้ ค่อนข้างมากนั่นเอง
ที่มา: http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000082380