ถือเป็นก้าวย่างสำคัญของ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น ที่ออกมาประกาศแผนธุรกิจในอีก 3 ปีข้างหน้า (2559-2561) แถลงความพร้อมเดินหน้าลุย 10 โปรเจกต์ยักษ์ สร้างศูนย์การค้าใหม่ 5 แห่ง และพลิกโฉมศูนย์การค้าเดิม อีก 5 แห่ง เพื่อตอบสนองต่อเทรนด์การชอปปิ้งที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้คนในยุคปัจจุบัน ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีก โดยการสร้างโอกาสพัฒนาคู่ค้าและนักธุรกิจ สู่ช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ ช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยว ส่งประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการช้อปปิ้งที่ดีที่สุดของภูมิภาค
นายปรีชา เอกคุณากูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีพีเอ็น ในฐานะผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดและมีมูลค่าธุรกิจสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของไทย ด้วยวิสัยทัศน์ในการลงมือพัฒนาพื้นที่ศักยภาพทั่วประเทศ จนสามารถขยายจำนวนศูนย์การค้าได้มากที่สุด และยังสร้างความสำเร็จร่วมกับนักธุรกิจและคนในท้องถิ่น ในการพัฒนาพื้นที่นั้นๆ ให้กลายเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยภายในปี 2561 นี้ ซีพีเอ็น จะมีศูนย์การค้ามากกว่า 34 แห่ง มีพื้นที่รวมกว่า 8 ล้านตารางเมตร พร้อมขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ โดยมี 1 โปรเจกต์นำร่องในประเทศมาเลเซีย”
โดย 5 โครงการใหม่ ของซีพีเอ็น ที่กำลังจะเกิดขึ้นภายใน 3 ปีข้างหน้านี้ (2559-2561) ได้แก่
1. เซ็นทรัลพลาซา นครศรีธรรมราช
ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่ที่สมบูรณ์แบบที่สุดของจังหวัด รองรับการเป็นโลจิสติคส์ ฮับ ของภาคใต้ ได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อเดือนกรกฎาคม 2559
2. เซ็นทรัลพลาซา นครราชสีมา
มหานครแห่งอีสาน โครงการมิกซ์ยูสยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งภาคอีสาน ประกอบด้วย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม คอนโดมิเนียม ตลาดไลฟ์สไตล์เอาท์ดอร์ และสวนสาธารณะไว้ในที่เดียวกัน สร้างสรรค์โมเดลการใช้ชีวิตสมัยใหม่ให้กับชาวอีสานได้อย่างครบทุกมิติ ชูไฮไลท์การตกแต่งที่แปลกใหม่ มอบสีสันใหม่แห่ง 5 ฤดูกาลให้ภาคอีสาน และสร้างสรรค์ “โคราช ริเวอร์วอล์ค” ศูนย์รวมการพักผ่อนและการทำกิจกรรมต่างๆ ของชาวโคราช พร้อมเปิดให้บริการปลายปี 2560
3. เซ็นทรัลพลาซา มหาชัย
ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพบนถนนพระรามสอง เส้นทางหลักที่เชื่อมต่อสู่ภาคใต้ รายล้อมไปด้วยแหล่งเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญของจังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงและเป็นแหล่งอาหารทะเลขึ้นชื่อ เป็นจุดแวะพักการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ โดยมีจุดเด่นคือ ตลาดซีฟู้ดสไตล์คนเมืองรูปแบบใหม่ ที่คับคั่งด้วยอาหารทะเลสดใหม่ พร้อมด้วยบริการจากเชฟ ที่สามารถนำไปปรุงเป็นเมนูสุดโปรดได้หลากหลาย เตรียมเปิดให้บริการปี 2560
4. เซ็นทรัล ภูเก็ต
เมกะโปรเจกต์ยิ่งใหญ่ระดับเวิลด์คลาส มูลค่ารวมทั้งโครงการกว่า 20,000 ล้านบาท ใจกลางเกาะภูเก็ต ศูนย์การค้าที่ตอบสนองความต้องการทั้งลักซ์ชัวรี-ไลฟ์สไตล์ และแคชชวล-ไลฟ์สไตล์ ของทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งโรงแรมระดับพรีเมียม ศูนย์ประชุมนานาชาติ และแอทแทรคชั่น ที่มอบประสบการณ์พิเศษเหนือจินตนาการ เตรียมเปิดให้บริการปลายปี 2560
5. เซ็นทรัล ไอ-ซิตี้
ศูนย์การค้าในต่างประเทศแห่งแรกของซีพีเอ็น ตั้งอยู่ในโครงการ ไอ-ซิตี้ อัลตราโพลิส (i-City Ultrapolis) ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างซีพีเอ็น และ บริษัท ไอ-เบอร์ฮาด ผู้นำด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของมาเลเซีย โครงการนี้ถือเป็นโครงการนำร่องของซีพีเอ็น ในการรุกตลาดต่างประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการค้าปลีกระดับภูมิภาค เตรียมเปิดให้บริการภายในปี 2561
นอกจากนี้ ซีพีเอ็น ยังพลิกโฉมโครงการเดิมอีก 5 โครงการ ได้แก่ เซ็นทรัลพลาซา ปิ่นเกล้า เซ็นทรัลพลาซา บางนา เซ็นทรัลพลาซา พัทยา เซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 และ เซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อปรับให้เข้ากับยุคสมัย ด้วย 6 ไลฟ์สไตล์อินโนเวชั่น ของซีพีเอ็น อันได้แก
การสร้างบรรยากาศในศูนย์การค้า ด้วยการนำนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยี มาสร้างความแปลกใหม่ น่าตื่นเต้น
1. การสร้างบรรยากาศในศูนย์การค้า ด้วยการนำนวัตกรรมการออกแบบและเทคโนโลยี มาสร้างความแปลกใหม่ น่าตื่นเต้น
2. สร้างฟู้ด เดสติเนชั่น ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เรื่องอาหารของทุกกลุ่มทาร์เก็ตได้ครบและดีที่สุด ทั้งโซเชียลไลฟ์สไตล์และแฟมิลี่ไดน์นิ่ง
3. สร้างศูนย์กลางสำหรับทุกคนในครอบครัว ด้วยบริการสำหรับหลายเจนเนอเรชั่น ให้ครอบครัวใหญ่มารีคอนเน็ค ใช้เวลาร่วมกัน
4. สร้างโคเวิร์คกิ้งสเปซ พื้นที่สำหรับสร้างสรรค์ไอเดียในการทำงานและการเรียนพร้อมบริการครบวงจร อย่างเช่น ธิงค์-สเปซ
5. สร้างแอทแทรคชั่น ในรูปแบบใหม่และเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
6. สร้างสรรค์ มาร์เก็ต ตลาดไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้เข้าสู่ช่องทางการค้าปลีกสมัยใหม่ และเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาธุรกิจ ให้เอสเอ็มอีไทย ให้เติบโตก้าวหน้า
“การพัฒนาโครงการของซีพีเอ็นในทุกครั้ง ล้วนมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความเจริญ เกิดการกระจายรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ ผลักดันเศรษฐกิจทั้งในระดับท้องถิ่นและในระดับประเทศ รวมทั้งส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง ฮับที่ดีที่สุดของภูมิภาคอีกด้วย”” นายปรีชา กล่าวสรุป