เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับไอโฟนใหม่ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ตรงตามข่าวลือเรื่องคุณสมบัติกันน้ำ ระบบกล้องดิจิตอลคู่ และช่องเสียบหูฟังที่หายไป รอบนี้แอปเปิล (Apple) ชูดีไซน์สีดำเงาแวววาวเหนือสีเดิมคือเงิน ทอง และทองชมพู พร้อมปุ่มโฮมใหม่ที่จะทำให้การใช้ไอโฟนมีลูกเล่นสะดวกกว่าเดิม
เบื้องต้น iPhone 7 ถูกประกาศราคาเริ่มต้นที่ 649 เหรียญหรือ 22,500 บาทสำหรับรุ่นความจุ 32GB ขณะที่ iPhone 7 Plus ราคาเริ่มต้น 769 เหรียญสูงกว่าเดิมด้วยความจุเท่ากัน บนดีไซน์ที่มองเหมือน iPhone 6S และ iPhone 6
ราคาสูงสุดของ iPhone 7 อย่างรุ่น 256GB คือ 849 เหรียญ (ราว 29,500 บาท) ขณะที่ iPhone 7 Plus หน้าจอใหญ่กว่านั้นทะลุไปถึง 969 เหรียญ (33,600 บาท)
ที่สำคัญ iPhone 7 และ 7 Plus นั้นมาพร้อมพอร์ตเดียวคือ Lightning EarPods จุดนี้ Apple ไม่เพียงแถมหูฟังที่ใช้ต่อผ่านพอร์ต Lightning แต่ยังแถมอแดปเตอร์เพื่อให้ผู้ใช้นำไปต่อกับพอร์ต Lightning สำหรับใช้กับหูฟังดั้งเดิมแบบ 3.5มม ได้เช่นเดิม โดยแอปเปิลระบุว่าราคาขายของอแดปเตอร์นี้อยู่ที่ 9 เหรียญเท่านั้น
กำหนดการสั่งซื้อ iPhone 7 จะเริ่มต้น 9 กันยายน และการจัดส่งจะเริ่มวันที่ 16 กันยายนนี้
ทำไมต้องเอาช่องเสียบหูฟัง 3.5มม ออก?
ฟิล ชิลเลอร์ (Phil Schiller) รองประธานอาวุโส หัวหน้าทีมการตลาดของแอปเปิลยอมรับว่าช่องต่อหูฟังนี้อยู่คู่ชาวโลกมานาน แต่เชื่อว่าการเริ่มต้นมิติใหม่ครั้งนี้จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า โดยเฉพาะการนำมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายใหม่มาใช้บนชิปใหม่ W1
มาตรฐานใหม่บนชิป W1 ทำให้แอปเปิลเปิดตัวหูฟังใหม่ชื่อแอปเปิลแอร์พ็อดส์ (Apple AirPods) ซึ่งจะจำหน่ายแยกในราคา 159 เหรียญหรือประมาณ 5,500 บาท จุดนี้แอปเปิลระบุว่าชิป W1 ใน AirPod จะปิดฉากประสบการณ์แย่ในหูฟังบลูทูธบางรุ่น เพราะการเชื่อมต่อกับเครื่องจะเกิดขึ้นง่ายด้วยการแตะครั้งเดียว ขณะเดียวกัน ระบบยังเตรียมพร้อมทำงานทันทีเมื่อผู้ใช้นำไปแทรกที่ช่องหู โดยผู้ใช้สามารถแตะ 2 ครั้งที่หูฟังเพื่อเปิดการใช้งาน Siri ได้ทันใจ
เรียกว่าแอปเปิลมั่นใจเต็มที่ว่าอนาคตของระบบเสียงคือ AirPods แน่นอน
กันน้ำไม่เซอร์ไพรส์
ไอโฟนใหม่ iPhone 7 ถูกการันตีว่าสามารถกันน้ำลึก 1 เมตรได้นาน 30 นาทีด้วยมาตรฐาน IP67 ขณะเดียวกันก็มาพร้อมลำโพงสเตอริโอใหม่บริเวณส่วนบนและล่างของเครื่อง ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในเครื่องบางเท่ากับรุ่น 6s
นอกจากนี้ ทั้ง iPhone 7 (หน้าจอ 4.7 นิ้ว) และ 7 Plus (หน้าจอ 5.5 นิ้ว) ต่างมีกล้องดิจิตอล 12 ล้านพิกเซลพร้อมระบบกันภาพสั่น ทั้งคู่มาพร้อมกล้อง f/1.8 บนเซ็นเซอร์ความเร็วสูง แฟลชเป็น quad-LED True Tone เพื่อแสงสีของภาพที่ได้
ตรงตามข่าวลือ รุ่น 7 Plus มีกล้อง 12 ล้านพิกเซลจำนวน 2 ตัว โดยตัวแรกเป็นกล้องสำหรับเก็บภาพมุมกว้าง ขณะที่อีกตัวเป็นกล้องเทเลโฟโต้ 56มม ทั้งคู่สามารถซูมได้
หน่วยประมวลผลของไอโฟนรุ่นใหม่คือ A10 Fusion ซึ่งประมวลผลบน 4 แกน ทำให้ iPhone 7 และ 7 Plus ทำงานได้ขึ้น 40% เมื่อเทียบกับชิป A9 ในรุ่น 6s และ 6s Plus อีกจุดเด่นคือการประหยัดพลังงาน เพราะชิป A10 สามารถทำงานหนักฝ่ายการใช้พลังงานเพียง 20% เท่านั้น
จุดขายของกล้องไอโฟนใหม่ยังอยู่ที่ “โบเก้” (bokeh) ภาพถ่ายฉากหลังเบลอจนเห็นเป็นแสงระยิบระยับสีสวยที่ก่อนนี้ต้องใช้กล้องเลนส์ยักษ์หรือเซ็นเซอร์ฟูลเฟรมในกล้อง DSLR เป็นเครื่องมือ แต่วันนี้กล้องของ 7 Plus สามารถทำได้ง่ายดายด้วยการแตะที่ตัวเลือกชื่อ Portrait ในแอปพลิเคชัน iOS Camera ซึ่งจะเปิดให้ผู้ใช้ไอโฟนใช้งานฟรีภายในปีนี้ผ่านการอัปเดต iOS
นอกจากสีดำแวววาว ไอโฟนใหม่ยังมีสีดำด้านให้เลือกซื้อ พร้อมทั้งสีเงิน ทอง และทองชมพู ขณะเดียวกัน ปุ่ม Home ใหม่อย่าง Force Touch นั้นมีการเพิ่มคุณสมบัติใหม่ชื่อ Taptic Engine เพื่อให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความสั่นสะเทือนเมื่อกด จุดนี้แอปเปิลเปิดเสรีให้นักพัฒนาสามารถนำเอพีไอ Taptic Engine ไปพัฒนาต่อยอดบนแอปพลิเคชันของตัวเองได้
การสั่งซื้อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะเริ่มต้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันศุกร์ที่ 16 กันยายน ที่ประเทศออสเตรเลีย, ออสเตรีย, เบลเยียม, แคนาดา, จีน, เดนมาร์ก, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, ฮ่องกง, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ญี่ปุ่น, ลักเซมเบิร์ก, เม็กซิโก, เนเธอร์แลนด์, นิวซีแลนด์, นอร์เวย์, โปรตุเกส, เปอร์โตริโก, สิงคโปร์, สเปน, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, ไต้หวัน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหราชอาณาจักร, หมู่เกาะเวอร์จินของสหรัฐอเมริกา และสหรัฐอเมริกา
สำหรับกลุ่มที่ 2 ที่จะวางจำหน่าย iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้แก่ประเทศอันดอร์รา, บาห์เรน, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เอสโตเนีย, กรีซ, กรีนแลนด์, เกิร์นซีย์, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, เกาะแมน, เจอร์ซีย์, คอซอวอ, คูเวต, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, มัลดีฟส์, มอลตา, โมนาโก, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, รัสเซีย, ซาอุดิอาระเบีย, สโลวาเกีย และสโลวีเนีย ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 23 กันยายน เป็นต้นไป
จุดนี้ยังไม่แน่ชัดว่าประเทศไทยจะอยู่ในกลุ่มใด โดยรายงานระบุว่า iPhone 7 และ iPhone 7 Plus จะวางจำหน่ายสำหรับลูกค้าในอินเดียตั้งแต่วันศุกร์ที่ 7 ตุลาคม เป็นต้นไป
ขณะที่ AirPods จะวางจำหน่ายที่ Apple.com ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
ที่มา: http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9590000090169
