ตลาด e-Payment ในไทยเข้าสู่ช่วงที่บูม มีผู้เล่นหลายรายตบเท้าเข้ามาเพราะด้วยโอกาสการเติบโตสูง และพฤติกรรมการใช้ออนไลน์ รวมถึงการช้อปปิ้งออนไลน์เติบโตอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด WeChat Pay เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทย เพื่อให้บริการแก่ กลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่มาเที่ยวในประเทศไทยโดยเฉพาะ
การมาเปิดตัวที่ประเทศไทย ทาง Tencent เจ้าของวีแชท และวีแชทเพย์ ได้หาพาร์ตเนอร์โลคอลในประเทศไทย จึงได้ร่วมมือกับ 2 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท แอสเซส ไบร์ท จำกัด (มหาชน) ที่ทำธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ และอสังหาริมทรัพย์ และ Ksher ผู้เชี่ยวชาญด้านไอที
สาเหตุที่ทาง Tencent เลือกเข้ามาทำตลาดในประเทศไทย เพราะว่าเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่คนจีนเลือกมาเที่ยว และในปี 2558 มีสถิตินักท่องเที่ยวชาวจีน 8 ล้านคน มีเม็ดเงินการใช้จ่ายราว 4.2 แสนล้านบาท โดยในปี 2559 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นเป็น 10 ล้านคน และมีการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้นเป็น 5 แสนล้านบาท โดยที่มีการใช้จ่ายต่อคนเฉลี่ย 52,000 บาท
ด้วยพื้นฐานพฤติกรรมของคนจีนนิยมใช้จ่ายผ่านระบบ e-Payment กันอยู่แล้ว เพราะด้วยประเทศจีนเป็นประเทศที่ใหญ่ การเดินทางไปซื้อของตามสถานที่ต่างๆ อาจจะไม่สะดวก ทำให้การซื้อขายทางออนไลน์เป็นช่องทางที่สะดวกที่สุด เมื่อมาที่ประเทศไทยถ้ามีระบบวีแชทเพย์รองรับก็ช่วยทำให้เพิ่มโอกาสการขายได้มากขึ้น เพิ่มศักยภาพในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยที่ยังคงใช้วีแชทได้ตลอดทริปการท่องเที่ยว
ปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การเปิดตัววีแชทเพย์ครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นจับตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน สาเหตุที่เขาเลือกเราเป็นพันธมิตรเพราะมีการทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่สามารถเอื้อกันได้ ซึ่งเราก็ช่วยในการหาร้านค้า และได้ส่วนแบ่งจากค่าธรรมเนียมที่ได้ตกลงกัน“
เขามองว่า ตลาดอีเปย์เมนต์ในไทยตอนนี้ก็มีการแข่งขันกันเยอะ แต่ติดอยู่ที่ว่าคนไทยยังไม่นิยมใช้เท่าไหร่ เพราะยังกังวลเรื่องความปลอดภัย และยังชอบใช้เงินสดอยู่ แต่ก็ยังมีโอกาสอีกสูง เชื่อว่าอีเปย์เมนต์จะเป็นการจ่ายเงิน และจะเปลี่ยนรูปแบบการค้าขายแบบใหม่ในอนาคต จะเข้าสู่การใช้จ่ายโดยไม่ใช้เงินสด
การใช้งานเพียงแค่ร้านค้ามีแอปพลิเคชั่นวีแชท และมี QR Code ก็สามารถรับชำระเงินจากนักท่องเที่ยวได้ โดยที่เบื้องต้นเงินจะตัดจากกระเป๋าเงินของนักท่องเที่ยวที่ผูกกับวีแชทเพย์ที่จีน จากนั้นวันรุ่งขึ้นทางจีนก็จะโอนเงินเข้าธนาคารของผู้ขายในประเทศไทย มีการแปลงค่าเงินเป็นเงินบาทเรียบร้อย
เบื้องต้นได้มีการตั้งเป้าหมายร้านค้าที่จะร่วมใช้วีแชทเพย์ 100 ร้านค้าภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 3,000-5,000 ร้านค้าในปีหน้า เน้นร้านค้าระดับกลาง–ใหญ่ เป็นร้านขายสินค้าที่คนจีนนิยมอย่างคิงพาวเวอร์ และเน้นพื้นที่ในแหล่งท่องเที่ยวก่อนในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต
มีการตั้งเป้ายอดผู้ใช้วีแชทเพย์ 10% ของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาประเทศไทย และมียอดการใช้จ่าย 10% ของยอดใช้จ่ายรวมด้วยเช่นกัน
ในตอนนี้เป็นช่วงที่อยู่ระหว่างวางระบบไอที และติดต่อร้านค้า คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้
แอสเซท ไบร์ท มีธุรกิจหลักเป็นอสังหาริมทรัพย์ แต่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับอีคอมเมิร์ซ และเปย์เมนต์มาได้ 2 ปีแล้ว ดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซภายใต้ชื่อ เอบีซี พ้อยท์ (abcpoint) เว็บไซต์ www.abcpoint.com ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ 80% และอีคอมเมิร์ซ 20%