ว่ากันว่าคนเราถูกสร้างมาไม่ให้หยุดอยู่นิ่งอยู่กับที่ต้องก้าวต่อไปข้างหน้าเพื่อจุดหมายบางอย่างของแต่ละคนซึ่งจุดหมายก็ขึ้นอยู่กับแพชชั่นว่าต้องการสร้างสรรค์อะไรในชีวิตบ้าง
เหมือนดั่ง Grab เช่นเดียวกันที่มีจุดมุ่งหมายในการเปลี่ยนมิติใหม่ในการคมนาคมไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่รถส่วนบุคคลหรือรถมอเตอร์ไซต์และที่เชื่อว่าหลายประเทศต้องประสบปัญหาไม่ต่างกันขึ้นอยู่ว่าจะพบปัญหามากหรือน้อยเท่านั้นเอง
จุดเริ่มต้นจึงมาจากการรวมตัวกันของคนที่อยากเปลี่ยนแปลงการเดินทางให้สะดวก ปลอดภัย และเข้าถึงการเดินทางได้ทุกคนมากขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญ เป็นแอปพลิเคชั่นที่เริ่มต้นจากการเรียกรถแท็กซี่ Grab Taxi หลังจากนั้นก็แตกบริการเป็น Grab Car, Grab Bike และ Grab Express มีเริ่มต้นจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใน 6 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไทย เวียดนาม และฟิลิปปินส์
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงส่งผลทั้งผู้โดยสาร ชุมชน และคนขับของ Grab เรียกว่า “หุ้นส่วน” ถือว่าเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจตรงนี้ ผู้โดยสารไม่ว่าจะวัยไหน เพศอะไร จะได้รับบริการจาก Grab ที่สะดวก ปลอดภัยขึ้น เพราะมีประกันภัย และหน่วยสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง ส่งผลให้ชุมชนน่าอยู่ขึ้น ทางด้านหุ้นส่วนหรือคนขับของ Grab ก็มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็นรายได้พิเศษ
จากบริการของ Grab ช่วยทำลายข้อจำกัดในการเดินทางเดิมๆแต่เป็นทางเลือกใหม่ๆในอัตราค่าบริการที่เหมาะสมและสามารถเดินทางได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะดึกดื่นหรือเช้ามืดขนาดไหนก็สามารถเรียกใช้บริการได้โดยไร้ขีดจำกัด
แต่ทว่าการแก้ปัญหาที่ว่ามานั้นไม่สามารถทำได้โดยลำพังแม้ว่าจะมีเทคโนโลยีเข้ามาสนุนสนุนมากแค่ไหนแต่ก็ต้องนำพาทั้งผู้โดยสารและคนขับไปด้วยกันให้ได้ต้องมีการทำงานร่วมกับภาครัฐบาล
การจะไปถึงจุดหมายได้เร็วที่สุด จึงเป็นการ “เดินหน้า ไปด้วยกัน” เดินไปด้วยกัน เดินไปได้ไกล และประสบความสำเร็จ
Grab จึงเชื่อว่าการการที่จะไปถึงจุดหมายในการให้คนทั้งทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดินทางโดยสะดวก ปลอดภัย และทำให้คนทุกคนเข้าถึงการคมนาคมขนส่งที่ดีนั้นอาศัยมือจากทุกคนในการช่วยเหลือกัน ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน พร้อมกับ Grab ช่วยสร้างสรรค์สังคมให้ดีขึ้น