เข้าใกล้การใช้ชีวิตแบบ IRON MAN ด้วยบ้านที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยี Smart Digital Home

ซักผ้าด้วย”, “ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมปิดไฟ”, “ไปรถน้ำต้นไม้ในสวนหลังบ้าน”, เลิกงานแล้วอย่าลืมแวะไปรับลูกที่โรงเรียน ฯลฯ

คำพูดข้างต้น คือต้นแบบของ การสั่งงานด้วยเสียง แบบดั้งเดิมที่คุณพ่อของเรามักถูกเรียกใช้งานอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ยุคที่อินเตอร์เน็ตยังไม่เบ่งบาน ไม่มีสัญญาณ 4G หน้าที่ในการจัดการความเรียบร้อยต่างๆ ภายในตัวบ้านจึงอยู่ในความดูแลของคุณพ่อ” (อย่างเสียมิได้)

มาในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิตอลได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น เริ่มต้นจากสมาร์ทโฟนไปสู่อุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อเข้าหากันได้ผ่านอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า Internet of Things หรือ IoT ที่กำลังถูกพัฒนาให้ก้าวล้ำไปยิ่งขึ้น เทคโนโลยี “Voice Control” ได้ถูกนำมาใช้ในบ้านสมาร์ทโฮมแบบ Automation ช่วยให้คุณพ่อยุคใหม่ใช้ชีวิตที่บ้านด้วยความสะดวกสบายมากกว่าเดิม

Amazon Echo และ Google Home คือตัวอย่างของเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยจัดการระบบการทำงานของอุปกรณ์ IoT ภายในบ้านให้สามารถสื่อสารและประมวลผลร่วมกันได้ นอกจากจะควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านเสียงแล้ว เทคโนโลยีนี้ยังทำงานร่วมกับสมองกลอัจฉริยะที่พัฒนาจนขั้นสุด ไปจนถึงขั้นที่สามารถคิด คำนวณและตอบโต้กับเจ้าของบ้านเป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวในการจัดการงานต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย

1_ap_new


จากคลิปตัวอย่างนั้นแสดงให้เห็นถึงภาพของการใช้ชีวิตในแบบใกล้เคียงกับ Tony Stark ในเรื่อง Iron Man เลยทีเดียว ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะการสั่งงานด้วยเสียงเท่านั้น คุณยังสามารถควบคุมการทำงานต่างๆ ภายในบ้านสมาร์ทโฮมผ่าน Smart Device ต่างๆ ได้จากทุกที่ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตไม่ว่าคุณจะอยู่ไหนก็ตาม เช่น

  • ควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน ในขณะที่คุณอยู่ข้างนอก โดยที่ไม่ต้อง โทรไป หรือ Line ให้ยุ่งยาก หรือ อยากจะเปิดแอร์ให้เย็นสายรอก่อนกลับถึงบ้านก็สามารถทำได้
  • ควบคุมการสั่งเครื่องทำกาแฟ ชอบเข้มข้น ชอบลาเต้ คาปูชิโน่ หรือจะเอาหวานน้อย หรือหวานมาก ก็สั่งได้ตามใจคุณ
  • ควบคุมการเปิด ปิด อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เมื่อเวลาออกจากบ้าน ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ กดเปิด ปิด เมื่อไรที่ไหนก็ได้

การเริ่มต้นของ Smart Digital Home ช่วยเพิ่มความสะดวกที่มากกว่าเดิม ง่ายกว่าเดิม ตอบสนองได้เร็วกว่าเดิม บนแพลตฟอร์มระบบดิจิตอล

Smart Digital Home ช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้น อย่างไรบ้าง

  1. เพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยระบบอัตโนมัติต่างๆ เช่นประตูอัตโนมัติ, รีโมทอัจฉริยะ สะดวกสบายด้วยการควบคุมอุปกรณ์ภายในบ้าน ผ่านมือถือ iPhone, Android, iPad และ Tablet
  2. สามารถดูสถานะ และควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ทุกตัวภายในบ้านได้ที่จุดเดียว (จอ Touch screen)
  3. เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เพิ่มความสามารถให้กับกล้องวงจรปิด คือนอกจากจะทำการบันทึกภาพอย่างเดียวแล้ว แต่ยังรวมเซนเซอร์ต่างๆ เข้ามาเพื่อใช้ในการตรวจตราเช่นเซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และเพิ่มระบบการขับไล่ผู้ร้ายด้วยการเชื่อมต่อกับ Alarm หรือแจ้งไปยังสถานีตำรวจ
  4. เพื่อประหยัดพลังงาน เช่น การเปิดปิดไฟอัตโนมัติตามแสงอาทิตย์ หรือปิดไฟอัตโนมัติเมื่อไม่มีคนอยู่ รวมไปถึงการบริหารจัดการพลังงานในกรณีที่ติดตั้งแผงวงจรโซลาร์เซลล์
  5. เพื่อดูแลสุขภาพของผู้อาศัยภายในบ้าน เช่นจะติดตั้งเซนเซอร์ตรวจคลื่นหัวใจ ตรวจจับไฟไหม้ โดยส่งสัญญาณ เมื่อเวลาเกิดเหตุการณ์ที่ผิดปกติ
  6. ยืดหยุ่นสูง/สามารถต่อเติมได้ หากต้องการปรับเปลี่ยนหรือติดตั้งเพิ่ม เราไม่จำเป็นต้องรื้อทั้งระบบใหม่ เพียงแค่เดินสายจากอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาไปยังจุดควบคุมหรือสมองของบ้านก็สามารถทำงานรวมกันได้แล้ว

2_ap

โครงการบ้านกลางเมือง CLASSE เอกมัยรามอินทราได้ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดของการใช้ชีวิตท่ามกลาง Internet of Things มาใช้ในการออกแบบที่อยู่อาศัย ด้วยนวัตกรรมการออกแบบที่ฉีกแนวจากบ้านเดี่ยวทั่วไป Multiverse Layouts 5 ดีไซน์ สร้างมิติให้แก่พื้นที่ใช้สอยและการเชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ 3 ชั้นอย่างไร้รอยต่อ

5_ap

  1. Multi-Dimension Space “เชื่อมต่อทุกมิติชีวิตให้เป็นหนึ่งเดียว เพิ่มประสบการณ์รวมถึงการใช้พื้นที่หลากกิจกรรมบนพื้นที่เดียวกัน ด้วยทางเข้าบ้านถึง 3 ทาง
  2. Perceptual Space “ขยายขอบเขตของบ้านให้ใหญ่ขึ้น ไม่มีการทิ้งพื้นที่ให้เปล่าประโยชน์ เชื่อมพื้นที่หน้าบ้านและสวนมาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ภายในบ้าน ที่เสมือนการขยายขอบเขตของพื้นที่ภายใน ออกไปด้านนอก
  3. Outside-In Space “พื้นที่สวนเดียวหลายมุมมอง ที่บริเวณชั้น 3 ของบ้าน ถูกออกแบบเป็น Courtyard ที่ได้รับการออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้จากทุกชั้นภายในบ้าน
  4. Three Generational Space พื้นที่ที่คำนึงถึงรูปแบบการใช้งานที่หลากหลายเป็นการออกแบบเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคน 3 ช่วงวัย คือ รุ่นปู่ย่า/ตายาย, รุ่นพ่อแม่ และรุ่นลูก โดยทุกคนในครอบครัวมีพื้นที่ในการทำกิจกรรมร่วมกันมากขึ้น เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ และสายใยรักแห่งครอบครัว
  5. Convertible Space “การออกแบบพื้นที่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย ประโยชน์ใช้สอยเต็มพื้นที่ ฉีกกรอบคำจำกัดความแบบเดิม โดยออกแบบให้ที่จอดรถที่ไม่เป็นผนังทึบทำให้เกิดมุมมองที่โปร่ง แปลกตา ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยน กลายเป็นลานเอนกประสงค์สำหรับจัดงานสังสรรค์ได้

4_ap

ภายใต้วิสัยทัศน์ AP Digital Communityบ้านกลางเมือง Classe เอกมัยรามอินทรา ถือเป็นโครงการนำร่องโครงการแรกโดยใช้เทคโนยีเข้ามาช่วย เป็นการวางระบบสำหรับการใช้ชีวิตในบ้าน เพื่อตอบโจทย์ลูกบ้านด้านความสะดวกสบาย อีกทั้งยังเกิดประสบการณ์ร่วม สำหรับการใช้ชีวิตในวิลล่า คลาสเซ่ ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเหนือระดับ

โครงการ Classe เอกมัยรามอินทรา กำลังจะมีการเปิด Pre-Sale อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 19-20 .. 59 นี้ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/APthai และ www.apthai.com