เทสโก้ โลตัส และจ.สงขลา ร่วมสืบสานพระราชปณิธานในหลวง ร.9 เพิ่มอาชีพสร้างรายได้เสริมให้ชาวสวนยางพึ่งตนเองได้ รับซื้อขึ้นฉ่ายจากชาวบ้านคลองหอยโข่ง

ชาวสวนยางไม่ต้องปาดน้ำตากับราคายางตกอีกต่อไป หลังจังหวัดสงขลา และเทสโก้ โลตัส สานพลังประชารัฐ สร้างเครือข่ายอาชีพปลูกขึ้นฉ่ายไฮโดรโพนิกส์ ส่งเทสโก้ โลตัส เพิ่มรายได้ต่อครัวเรือน ลดปัญหาหนี้นอกระบบ สืบสานแนวคิดการพัฒนาเพื่อพึ่งตนเองของเกษตรกร อันเนื่องมาจากพระราชปณิธานพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ รองประธานกรรมการฝ่ายกิจการบรรษัท เทสโก้ โลตัสกล่าวว่าในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย ลูกค้ายังมีความต้องการผักสดคุณภาพสูงอีกมาก จึงได้ร่วมมือกับทางจังหวัดสงขลา โดยท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ในการสร้างเครือข่ายเกษตรกรปลูกผักประเภทขึ้นฉ่ายไฮโดรโพนิกส์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการรับมือกับฝนที่ตกชุกในภาคใต้ ทำให้การปลูกขึ้นฉ่ายไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์แบบกางมุ้งสามารถทำได้ โดยนอกจากสามารถเพิ่มผลผลิตคุณภาพให้ผู้บริโภคแล้ว ยังได้เพิ่มรายได้ในคนในชุมชนอีกด้วย จากโมเดล “ยัง สมาร์ท ฟาร์เมอร์” (Young Smart Farmer) คุณพิโชติ ผุดผ่อง เป็นต้นแบบในการเรียนรู้และขยายองค์ความรู้สู่ชาวสวนยางให้มีทางเลือกในการประกอบอาชีพนอกเหนือไปจากกรีดยาง เพิ่มรายได้ให้ครัวเรือนในยามราคายางตกต่ำ

“เทสโก้ โลตัส มีความมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนโยบายประชารัฐอย่างเต็มที่ เพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกรซึ่งเราดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรพี่งพาตนเองได้ ตามพระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยโครงการรับซื้อขึ้นฉ่ายกางมุ้งจากกลุ่มเกษตรกรบ้านคลองหอยโข่ง เป็นหนึ่งใน 22 โครงการ “เทสโก้ โลตัส ประชารัฐร่วมใจ” ที่เกิดจากการร่วมมือกันของภาครัฐ ภาคประชาชน และภาคเอกชน จากโครงการสร้างเครือข่ายปลูกผักขึ้นฉ่าย ปัจจุบันกลุ่มเกษตรกรนำโดยคุณ พิโชติ ผุดผ่อง สามารถส่งผักขายเทสโก้ โลตัส ได้ถึง 500-1,000 กิโลกรัม ต่อสัปดาห์”

นายพิโชติ ผุดผ่อง เกษตรกรผู้นำเครือข่ายปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ คลองหอยโข่ง กล่าวว่า ปัญหาของชาวสวนยางคือเมื่อราคายางตกต่ำ ก็จะมีรายได้น้อยลง ผมเองจบด้านเกษตรมา เคยทำงานในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรในอำเภอหาดใหญ่ 4-5 ปี แล้วก็หันมาสนใจทำผักไฮโดรโพนิกส์ เริ่มแรกมีเพียงไม่กี่โต๊ะ เงินทุนประมาณหลักแสน เดิมผักไฮโดรที่ปลูกจะเป็นพวกผักสลัด แต่พอได้พูดคุยกับเทสโก้ โลตัส ได้ทราบว่ามีความต้องการผักประเภทขึ้นฉ่าย เนื่องจากสภาพฝนในภาคใต้ทำให้ปริมาณขึ้นฉ่ายที่ปลูกไม่สม่ำเสมอ ผมจึงริเริ่มทดลองปลูกในแบบไฮโดรโพนิกส์กางมุ้งดู ปรากฎว่าได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจมาก จึงขยายกำลังการผลิตมาเรื่อยๆ ปัจจุบันมี 70 โต๊ะ นอกจากนี้ผมยังเป็นศูนย์ถ่ายทอดความรู้การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ให้ชาวบ้านกับทางจังหวัด  โดยจังหวัดจะส่งเกษตรกรชาวสวนยางที่ผ่านการคัดเลือกแล้วว่ามีรายได้น้อย คือมีพื้นที่สวนไม่เกิน 5 ไร่ เป็นลูกจ้างกรีดยาง และต้องขยัน รับผิดชอบ สามารถทำงานกลุ่มได้ มาเรียนรู้กับผม ทุกวันนี้ทุกคนสามารถปลูกผักเพื่อส่งให้กับเทสโก้ โลตัส ทำให้มีรายได้เสริมจากการทำสวนยางสภาพคล่องในครอบครัวก็ดีขึ้น ไม่เป็นหนี้นอกระบบ

“ผมเดินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเองในด้านเกษตร เพราะโตมาก็เห็นพระองค์ท่านอยู่กับการเกษตรมาตลอด พระองค์ท่านเห็นความสำคัญว่าสังคมเกษตรต้องการมาก่อนต้องทำให้เกษตรกรเข้มแข็ง เวลาผมเป็นพี่เลี้ยงให้เกษตรกรที่มาเรียนรู้ ผมมักจะบอกเสมอว่า อย่าท้อ ถ้าท้อแล้วถอยก็ทำอะไรไม่ได้  ก็เหมือนในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ท่านทรงทดลอง เก็บข้อมูล พิสูจน์แล้วทุกอย่าง เกษตรกรของพระราชาจะต้องพึ่งพาตัวเองได้”

นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลามีเกษตรกรชาวสวนยางอยู่เป็นจำนวนมาก  พอยางราคาตก หลายครัวเรือนจึงประสบปัญหารายได้น้อย ทางจังหวัดจึงส่งเสริมให้เกษตรกรมีอาชีพหลากหลาย เช่นการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ ที่มีคุณโชติเป็นต้นแบบนี้ ก็เป็นทางหนึ่งที่ช่วยเสริมรายได้ให้พวกเขา โดย ทางจังหวัดได้เขามาสนับสนุนให้เกิดการอบรม ขยายองค์ความรู้ไปสู่ชาวสวนยางที่มีรายได้น้อย เริ่มจาก 10 ราย ก่อนจะขยายไปเรื่อยๆ

“นอกจากการสนับสนุนด้านการขยายองค์ความรู้แล้ว ทางจังหวัดยังได้ให้การสนับสนุนงบประมาณในการจัดหาอุปกรณ์ให้กับชาวบ้านที่ผ่านการคัดเลือก 10 โต๊ะ ทำให้พวกเขาได้เห็นว่า ยังมีอาชีพเสริมอื่นๆ ที่สร้างรายได้ให้เขาได้ ซึ่งเทสโก้ โลตัส ได้เข้ามารับซื้อทำให้เกิดตลาดแบบครบวงจร”

ด้านนางสาวสลิลลา กล่าวอีกว่า เทสโก้ โลตัส มีเป้าหมายที่จะเพิ่มปริมาณการรับซื้อผักปลอดภัยในภาคใต้เพิ่มขึ้น ไม่เพียงแค่ขึ้นฉ่าย แต่ผักประเภทอื่นๆ ก็ยังเป็นที่ต้องการในแถบนี้ ซึ่งจะใช้แนวทางประชารัฐซึ่งเป็นการร่วมมือกับทั้งรัฐและชุมชนต่อไป และจะใช้การตลาดเป็นตัวนำ เพราะพิสูจน์แล้วว่าเป็นรูปแบบที่สร้างความสำเร็จ โดยการที่มีเทสโก้ โลตัส เข้ามาช่วยวางแผนประเภทและปริมาณผักที่ต้องการปลูก รวมทั้งวางแผนการจัดส่ง ทำให้เกษตรกรสามารถบริหารต้นทุนได้ดี มีกำไร และวางแนวทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืนตามพระราชปณิธานของพ่อหลวงที่รักของเรา”

ทั้งนี้ เทสโก้ โลตัส ยังมีโครงการประชารัฐเพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอีกหลายโครงการ ซึ่งได้ช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่อาศัยในภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ อาทิ โครงการ ‘ปลูกผักกลางนาทุ่งกุลายิ้มได้’ ซึ่งสนับสนุนให้ชาวนาจังหวัดร้อยเอ็ด ปลูกผักเสริมในหน้าแล้ง สร้างรายได้เพิ่มให้ครัวเรือนละ 5,000 บาทต่อรอบการเก็บเกี่ยว รวมทั้งการมอบพื้นที่ให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) นำสินค้าโอทอปจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาจำหน่ายที่เทสโก้ โลตัส สร้างรายได้ให้ชาวบ้านรวมกว่า 27 ล้านบาทในปีนี้