“กลุ่มเซ็นทรัล” ปั้น CenPay ลุยธุรกิจเพย์เมนต์

นับเป็นอีกก้าวที่น่าจับตา กับการรุกเข้าสู่ธุรกิจเพย์เมนต์อย่างเต็มตัวของกลุ่มเซ็นทรัล ผ่านบริการ CenPay ที่จะให้บริการรับชำระเงิน Payment Service รวมถึง e-Payment ในอนาคต

ในเมืองไทยตลาด Payment Service เน้นให้บริการจ่ายบิล เติมเงินต่างๆ โดยมีผู้เล่นในตลาดอย่าง เคาน์เตอร์ เซอร์วิส, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, ธนาคาร และไปรษณีย์ไทย แต่ละรายล้วนมีช่องทาง และมีเคาน์เตอร์เป็นของตัวเองทั้งสิ้น

ด้วยตลาดนี้มีการเติบโตมากขึ้นทุกปีด้วยมูลค่ากว่าแสนล้านบาท และพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปิดรับกับการจ่ายเงินช่องทางนี้มากขึ้น ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลผู้เล่นรายใหญ่ในกลุ่มค้าปลีกกระโดดลงมาจับตลาดการ เปิดบริการ CenPay โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายห้างสรรพสินค้าและค้าปลีกในเครือ

ก่อนหน้านี้ กลุ่มเซ็นทรัล ให้บริการรับชำระเงิน ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ซึ่งมีข้อจำกัดไม่ได้รับข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภค ที่จะมาต่อยอดธุรกิจ ทำให้เซ็นทรัลจึงตัดสินใจพัฒนาระบบ ภายใต้แบรนด์ CenPay ขึ้นมาเอง ด้วยเงินลงทุน 30 ล้านบาท และให้บริการในเดือนธันวาคม 2557 เพราะมองว่า โอกาสทางธุรกิจเพย์เมนต์ที่จะมีบทบาทสำคัญในอนาคต รวมทั้งการนำดาต้าการใช้จ่ายเงินมาใช้ประโยชน์กับธุรกิจค้าปลีกของเซ็นทรัล 

ช่วงเริ่มต้นของ CenPay ได้มีการร่วมมือกับ mPay ภายในเครือเอไอเอส โดยอาศัยเกตเวย์ของ mPay ในการส่งเงินไปถึงบิลเลอร์ต่างๆ (ผู้รับเงิน) รวมถึงร่วมมือกับ Truemoney เพื่อเพิ่มช่องทางมากขึ้น ภายหลังได้พัฒนาระบบเรื่อยๆ จนในปัจจุบันมียอดการชำระเงินผ่านเกตเวย์ของ mPay เหลือแค่ 20% ซึ่งเป็นผู้รับเงินรายย่อยๆ

ด้วยผลตอบรับของ CenPay หลังจากเปิดให้บริการมาได้ 2 ปี มีการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการจ่ายบิลผ่านเคาน์เตอร์เฉลี่ย 3 แสนรายการ/เดือน และยอดเติมเงิน 1.6 ล้านรายการ/เดือน มีการเติบโตของการชำระบิลจากปี 2558 อยู่ที่ 140% และการเติบโตของบริการเติมเงินอยู่ที่ 200% ทำให้กลุ่มเซ็นทรัลจึงตัดสินใจเปิดตัวเพื่อทำตลาดและส่งเสริมการขายอย่างเป็นทางการ

ชูจุดแข็ง ค่าบริการ 5 บาท

ด้วยการแข่งขันในตลาด Payment มีสูงมาก และมีผู้เล่นแข็งแกร่ง CenPay จึงต้องสร้างจุดแข็งของตนเองด้วยการตั้งค่าธรรมเนียม 5 บาท  และใช้บัตร The 1 card มาให้ลูกค้าใช้สะสมแต้มและใช้แทนเงินสดได้

1_cenpay

นอกจากนี้ยังใช้งบการตลาด 20 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าโฆษณา 6 ล้านบาท รายการส่งเสริมการขาย 3 ล้านบาท งานอีเวนต์ 1 ล้านบาท และเรื่องของระบบ The 1 card 10 ล้านบาท ในปี 2560 มีการใช้งบการตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านบาท

word_icon

ตลาด Payment Service ในไทยยังมีการเติบโตได้อีกมาก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลง ชอบความสะดวกมากขึ้น ทางเซ็นทรัลต้องทำบริการเพื่อมารองรับคนที่มาห้างให้มาชำระค่าบริการต่างๆ ได้ ในอนาคตมีแผนจะทำออนไลน์ เพย์เมนต์เพิ่มเติมด้วย 

word_icon2

พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าว

ทางด้าน มนตรี สิทธิญาวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างเซ็นทรัล ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ จำกัด เสริมเพิ่มเติมว่า ตอนนี้มีแผนของ CenPay อีกมากมาย แต่ต้องดูผลตอบรับก่อน ในปีนี้จะเป็นช่วงทำตลาด ก่อนที่จะปูทางไปสู่ e-Payment ในอนาคต จะมีบริการ e-Wallet รวมถึงเชื่อมต่อกับช้อปปิ้งออนไลน์ ซื้อของออนไลน์ แล้วมาจ่ายบิลโดย CenPay โดยที่บริการด้านออนไลน์จะได้เห็นเป็นรูปเป็นร่างช่วงปลายปี 2560

การเข้าสู่ตลาดหลังคู่แข่งที่มีอยู่มากมาย กลุ่มเซ็นทรัลจึงต้องสร้างความหลากหลาย ด้วยการรับชำระบิล กว่า 200 รายการ เช่น ค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าประกัน ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าบัตรเครดิต และอื่นๆ และมีบริการเติมเงินโทรศัพท์ทุกเครือข่ายรวมถึงเติมเงินเกมออนไลน์

ในอนาคตจะเพิ่มบริการอื่นๆ ประมาณ 20 บริการ เช่น Easypass, กรุงศรี Auto และธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อเพิ่มบริการให้มากขึ้น และเป็นในรูปแบบของการผ่อนจ่ายที่จะช่วยเพิ่มความถี่ในการใช้บริการของลูกค้าได้มากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริการ CenPay จะให้บริการผ่านธุรกิจค้าปลีกในเครือเซ็นทรัลทั้งหมดรวมกว่า 1,659 สาขา ได้แก่ แฟมิลี่มาร์ท 1,117 สาขา, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอล์ และท็อปส์ 199 สาขา, ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล 22 สาขา, โรบินสัน 44 สาขา, บีทูเอส 96 สาขา, ออฟฟิศเมท 48 สาขา, ไทวัสดุ โฮมเวิร์ค บ้านแอนด์บีบินด์ 48 สาขา และเพาเวอร์บาย 85 สาขา มีจุดบริการรวมกันกว่า 6,000 เคาน์เตอร์

info1_cenpay_new

info2_cenpaynew