อยู่ในตลาดรับสร้างบ้านมายาวนานกว่า 56 ปีแล้วสำหรับ “ซีคอนโฮม” ทำให้แบรนด์มีอายุมากขึ้น ในขณะที่มีกลุ่มผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มรุ่นใหม่เติบโต และเข้ามาแทนที่กลุ่มผู้ใหญ่ ทำให้ซีคอนโฮมต้องปรับตัวเพื่อให้ทันต่อยุคสมัยใหม่ด้วยเช่นกัน
การ “รีเฟรชแบรนด์” จึงเป็นอีกกลยุทธ์ที่ซีคอนโฮมเปิดเกมรุกในการทำตลาดรับปีใหม่ โดยที่ใช้สื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทมากขึ้น เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ กลุ่ม Gen Y พร้อมกับดึงผู้บริหารด้าน Digital Marketing “จักรพล จันทวิมล” กรรมการบริหารกลุ่มบริษัทซีคอน เป็นมือการตลาดจากแบรนด์นันยางมาช่วยดูแลด้านการตลาดให้ซีคอนโฮมด้วย
จุดเริ่มต้นของการรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ จักรพลได้เล่าให้ฟังว่า ได้ทำสำรวจกับกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยใช้งบราว 2 ล้านบาท พบว่าคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักแบรนด์ซีคอนโฮม รู้จักแต่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ แต่กลุ่มคนที่เป็นกลุ่ม Gen Y มีโอกาสอยู่มากเพราะมีกำลังซื้อสูง มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย และเป็นกลุ่มที่มองหาในการที่จะมีบ้านหลังแรก
ซึ่งการที่ซีคอนโฮมจะเติบโตได้ต้องก้าวขาออกจากจุดเดิมที่เคยอยู่ที่ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าวัย 45 ปีขึ้นไป เพื่อเติบโตในกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป
การรีเฟรชแบรนด์ครั้งนี้ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 56 ปีเลยก็ว่าได้ โดยที่จะเน้นหนักไปที่การลงทุนด้านสื่อดิจิทัลมากขึ้น ในปีนี้ได้ใช้งบการตลาดรวม 50 ล้านบาท แบ่งเป็นสื่อเทรดิชันนอล 50% และสื่อดิจิทัล 50% มีการเพิ่มงบการตลาดเป็นเท่าตัว ในปีที่ผ่านมาได้ใช้งบการตลาด 30 ล้านบาท และใช้เพียงแค่ช่องทางสื่อหลักเท่านั้น ยังไม่ได้ใช้ในสื่อดิจิทัล
ศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอนโฮม จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้จะมีการลงทุนด้านดิจิทัล จะเน้นในการทำคอนเทนต์มากขึ้น ละเอียดมากขึ้นเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น จากแต่ก่อนที่ทำหนังโฆษณาเรื่องนึงแต่ฉายได้เป็น 5 ปี ตอนนี้จะมีทั้งหนังโฆษณา และคลิปวิดีโอไวรัลบนโลกออนไลน์ ทำวิดีโอ รูปภาพ และสร้างทีมทางด้านคอนเทนต์ รวมถึงเว็บไซต์มีการวางระบบใหม่”
ซีคอนโฮมได้เริ่มนำร่องในการปล่อยคลิปวิดีโอชื่อชุด “สุดจะทนกับคนหัวดื้อ” บนโลกออนไลน์ก่อนเมื่อช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีผลตอบรับว่ามียอดในการโทรศัพท์ติดต่อเข้ามาเพิ่มขึ้น 50% ยอดในการติดต่อขอดูแบบบ้าน ดูที่ดินเพิ่มขึ้น 20% และมียอดขายเพิ่มขึ้น 50 ล้านบาท
ในปี 2559 กลุ่มซีคอนโฮมมีรายได้รวม 1,200 ล้านบาท เติบโต 6% แบ่งเป็นรายได้จากซีคอนโฮมจำนวน 55 หลัง มูลค่า 500 ล้านบาท ส่วนคอมแพค โฮม และบัดเจ็ท โฮมรวม 210 หลัง มูลค่า 700 ล้านบาท ในปี 2560 ตั้งเป้ามีการเติบโต 10% หรือมีรายได้ 1,300 ล้านบาท
