อยู่นานๆ ได้มั้ย ! โจทย์ใหญ่ เดอะมอลล์สู้ศึกค้าปลีก

นับเป็นช่วงที่ธุรกิจรีเทลต้องปรับตัวกันอย่างเข้มข้น เพื่อให้ทันการเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค และการแข่งขันทั้งจากคู่แข่งรายใหม่ และรายเดิมในตลาด และนี่คือ มุมมองของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป หนึ่งในห้างสรรรพสินค้าของไทย ที่สะท้อนสภาพการแข่งขัน และทิศทางการปรับตัว ที่ต้องมุ่งเรื่องของการดึงลูกค้าให้อยู่ในห้างนานขึ้น และเทเลอร์เมด แบบตัวต่อตัว

ชำนาญ เมธปรีชากุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด มองว่า การแข่งขันจากนี้จะรุนแรงขึ้น ทั้งจากคู่แข่งรายเก่าที่ขยายสาขาเพิ่ม และรายใหม่ที่เกิดขึ้นมา อีกทั้งการแข่งขันจะแตกต่างกันไปตามทำเล เช่น ที่กรุงเทพฯ หรือแม้แต่ บลูพอร์ท หัวหิน เดอะมอลล์โคราช ทำให้เดอะมอลล์ก็ต้องปรับตัวด้วย

แนวทางของเดอะมอลล์ คือ ทำอย่างไรถึงจะดึงให้ลูกค้าอยู่ในห้างฯ มากขึ้น

ขอลูกค้าอยู่ห้างนานขึ้น

วรลักษณ์ ตุลาภรณ์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสการตลาด กล่าวว่า กลยุทธ์การตลาดหลักของเดอะมอลล์ในปี 2556 คือการให้ผู้บริโภคใช้เวลาอยู่ในห้างค้าปลีกของเรา หรือ Spend time มากขึ้น

จากเดิมผู้บริโภคจะใช้เวลาเฉลี่ย (Spend time) 1 ชั่วโมง 14 นาที ซึ่งเราหวังว่าผู้บริโภคจะใช้เวลาอยู่ในห้างเพิ่มขึ้นเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 10% 

โดยผลที่ตาม “เมื่อลูกค้าใช้เวลาอยู่ที่เรานานขึ้น โอกาสที่ลูกค้าจะมีการใช้บริการอย่างอื่นมากขึ้น เกิดการซื้อของจับจ่ายมากขึ้นโดยอัตโนมัติ

ใช้บิ๊กดาต้าทำตลาดแบบเทเลอร์เมด

นอกจากนี้ สิ่งที่เดอะมอลล์ต้องทำคู่ขนานกันไป คือ การให้ความสำคัญกับ “บิ๊กดาต้า” หรือการเก็บข้อมูลและทำตลาดผ่านบัตรเอ็มการ์ด ซึ่งปัจจุบันมีผู้ถือบัตร 3 ล้านราย เป็นผู้ชาย 30% ผู้หญิง 70% เพื่อนำข้อมูลมาประมวลผลเพื่อทำการตลาดกับลูกค้าได้แบบเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น หรือที่เรียกว่า เทเลอร์เมด (Tailor Made) จะโฟกัสแบบตัวต่อตัว ไม่ทำเป็นแบบแมส

ราย 59 ได้โต 4%

ทั้งนี้ในปี 2559 เดอะมอลล์มีรายได้ 54,000 ล้านบาท เติบโต 4% และคาดว่าในปี 2560 รายได้จะเติบโต 4% จากรายได้รวมกว่า 54,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยนี้มา 4-5 ปีแล้ว

ผู้บริหารเดอะมอลล์ มองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปีนี้น่าจะฟื้นตัวดีขึ้นกว่าปีที่แล้ว ถ้าไม่มีปัจจัยอื่นที่อยู่นอกเหนือการควบคุมเกิดขึ้นอีก เช่น ปัญหาการเมือง ปัญหาภัยธรรมชาติ เป็นต้น

ช้อปช่วยชาติโต-กระเช้ายอดตก

ธุรกิจปลายปี 2559 ช่วงโครงการช้อปช่วยชาติ เดอะมอลล์มียอดขาย 300 ล้านบาท โต 10% ส่วนแคมเปญ มหกรรมลดทะลุพิกัด มียอดขายเพิ่ม 40% ขณะที่ยอดขายกระเช้าปีใหม่ ตกลง 15% เพราะผู้บริโภคปรับพฤติกรรมซื้อข้าวสารมาแจกปีใหม่กันมากขึ้น