‘ตลาดเกม’ ทางรอดของผู้ผลิตพีซี

จากการที่ตลาดพีซีในหลายปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะที่อิ่มตัว ไม่ค่อยมีแรงซื้อจากผู้บริโภคที่นำไปใช้งานทั่วๆ ไปมากนัก เนื่องด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตจากพีซีสู่การใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนเป็นหลัก แน่นอนว่าพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดพีซี จนถึงขั้นมองว่าตลาดพีซีเป็นตลาดที่ ‘น่าเบื่อ’ ในตอนนี้

แต่ใช่ว่าในทุกเซกเมนต์ของตลาดพีซีไม่มีการเติบโต เพราะปัจจุบันผู้ผลิตทุกรายต่างๆ หันมาให้ความสำคัญกับ 3 ตลาดหลักในตลาดพีซี โดยเฉพาะในกลุ่มของโน้ตบุ๊ก ที่นำมาด้วยผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเกม ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่สำคัญมากที่สุดในขณะนี้ ตามมาด้วยเครื่องในรูปแบบของ 2-1 และเครื่องบางเบา

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของฮาร์ดแวร์เกมที่เป็นพีซี ยังไม่ได้มีการแบ่งเซกเมนต์ชัดเจนมากนัก เพียงแต่เหล่าผู้ผลิตจะแยกในส่วนของเดสก์ท็อป หรือ โน้ตบุ๊ก ที่มีการ์ดจอแยก และประสิทธิภาพเพียงพอกับการเล่นเกมออกมา ซึ่งแน่นอนว่าก็จะมีผู้ใช้งานบางส่วนที่ไม่ได้ซื้อไปเพื่อเล่นเกม แต่จะรวมถึงการนำไปทำงานที่ต้องใช้คอมพ์ประสิทธิภาพสูงด้วย

จากข้อมูลล่าสุดของ เลอโนโว ระบุว่า ในตลาดของโน้ตบุ๊กที่มีระดับราคา 2.2 หมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการ์ดจอแยกมาให้แล้วคิดเป็นสัดส่วนยอดขายราย 20-30% ในตลาดเท่านั้น แต่ถ้ามองในแง่ของเชิงมูลค่าตลาดนี้จะสูงขึ้นมาเป็น 30-40%

เคน หว่อง ประธานฝ่ายการตลาดประจำตลาดภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก เลอโนโว ให้ข้อมูลว่าที่น่าสนใจว่า ตอนนี้ไทยถือเป็นประเทศอันดับต้นๆ ในภูมิภาคเอเชียที่มีการตอบรับของตลาดเกมค่อนข้างสูง รองจากประเทศไต้หวัน ที่มีการแข่งขันกีฬา eSports แบบเต็มตัวแล้ว และที่น่าสนใจคือในช่วงปีที่ผ่านมาในประเทศไทย ตลาดนี้มีการเติบโตแบบเท่าตัว

‘สิ่งที่ทำให้ตลาดเกมได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันคือ การมาของระบบเล่นเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น การเล่นกับกลุ่มเพื่อนช่วยกระตุ้นให้ผู้ใช้เกิดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานอย่างการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เร็วขึ้น ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมแบบมัลติเพลย์เยอร์ได้สนุกขึ้น’

แน่นอนว่าในมุมของ เลอโนโว ที่เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์พีซี รวมถึงการขยายมาทำตลาดอุปกรณ์เสริมด้วย ทำให้ต้องมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอมมูนิตี้ของกลุ่มคนเล่นเกมให้เกิดขึ้น เพื่อสื่อสารไปยังผู้ใช้งาน การสร้างแพลตฟอร์มที่จะมาสนับสนุนผู้ใช้ ทำให้เกิดการแข่งขัน

ล่าสุด เลอโนโว ก็ได้ร่วมมือกับอินเทล ที่เป็นผู้ผลิตชิปหน่วยประมวลผล จัดการแข่งขันเกมระดับภูมิภาคขึ้นในประเทศไทย ด้วยการนำทีมผู้ชนะจาก 6 ประเทศมาแข่งขันกัน ชิงเงินรางวัลกว่า 5 แสนบาท และแน่นอนว่านี่จะไม่ใช่กิจกรรมเดียวที่เกิดขึ้นในปีนี้ แต่จะมีกิจกรรมและความร่วมมือกับผู้ผลิตเกมรายอื่นๆ อีก

นอกจากนี้ เพื่อเสริมแบรนด์ในตลาดนี้ให้แข็งแรงขึ้น เลอโนโว จึงได้มีการเพิ่มซับแบรนด์ ‘Legion’ เข้ามาเสริม เพื่อให้กลายเป็นซับแบรนด์สำหรับพีซีเกมเมอร์ ซึ่งแต่เดิมจะใช้ชื่อ Y ซีรีส์ ในการทำตลาดพีซีที่มีประสิทธิภาพสูง ในระดับราคาเริ่มต้นที่ราว 3 หมื่นบาท ซึ่งปัจจุบันเลอโนโวมีส่วนแบ่งในกลุ่มนี้เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยแล้ว

info_game

อย่างไรก็ตาม เพื่อทำให้ตลาดพีซีมีสีสันมากยิ่งขึ้น เลอโนโว ก็จะไม่ได้ยึดกับตลาดเกมมากจนทิ้งตลาดในส่วนอื่น ด้วยการนำผลิตภัณฑ์ทั้งกลุ่ม 2-1 และเครื่องบางเบา เข้ามาทำตลาดด้วย ส่งผลให้ปัจจุบันเลอโนโวมีซับแบรนด์อยู่ภายใต้เลอโนโวทั้งหมด 5 ชื่อที่แยกทำตลาดชัดเจน

โดยในส่วนของโน้ตบุ๊กทั่วไปเลอโนโวจะใช้สินค้าในตระกูล Ideapad ทำตลาดกลุ่มคอนซูเมอร์ ส่วนลูกค้าองค์กรก็จะมีซับแบรนด์อย่าง Thinkpad ที่ครองตลาดอยู่ทุกช่วงระดับราคาที่มีให้เลือกหลากหลาย ถัดมาคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ 2-1 จะใช้ซับแบรนด์ Yoga ที่เน้นในแง่ของรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย และมีนวัตกรรม เสริมด้วย Miix ที่เน้นความสะดวกในการใช้งาน สุดท้ายคือ Legion ที่เป็นแบรนด์สำหรับตลาดเกม

มองสภาพตลาดไทย

จีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอโนโว ประเทศไทย จำกัด กล่าวเสริมว่า ในประเทศไทยตลาดเกมถือว่าเติบโตขึ้นสูงมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจาก eSports เริ่มได้รับการยอมรับในตลาด ทำให้ตอนนี้มีทีมที่เป็นตัวแทนจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น และขยายไปแข่งขันในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

‘ตอนนี้เลอโนโวถือเป็นผู้นำในตลาดฮาร์ดแวร์เกมมิ่งพีซี ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่เกิน 20% และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 30% เพื่อให้สามารถครองตลาดนี้ได้ในทุกๆ ฟอร์มเฟคเตอร์ ซึ่งแน่นอนว่าในส่วนของงบการตลาดของการทำแบรนด์ Legion ก็จะเพิ่มขึ้นมาเป็นเกือบ 10% ของยอดขายด้วยเช่นกัน’

ที่ผ่านมาสินค้าในกลุ่ม Y ซีรีส์ ของเลอโนโว เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยการเป็นผู้ผลิตรายแรกที่นำเสนอโน้ตบุ๊กขนาดหน้าจอ 15 นิ้ว ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งหลังจากนั้นแบรนด์อื่นๆ ก็เริ่มเข้าสู่ตลาดนี้ด้วยการนำเสนอฮาร์ดแวร์ที่ใกล้เคียงกัน

แน่นอนว่า ในแง่ความต้องการของผู้บริโภคในตลาดไทย ก็จะใกล้เคียงกับในตลาดภูมิภาคเอเชีย ด้วยการเน้นผลิตภัณฑ์ใน 3 กลุ่มคือ เกม 2-1 และบางเบา ซึ่งตอนนี้ทั้ง 3 กลุ่มนี้ถือครองสัดส่วนที่ใกล้เคียงกันในตลาด และเชื่อว่าจะรักษาส่วนแบ่งนี้ต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดเกมจะมีส่วนของอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวเนื่องเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นจอภาพ คีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง หูฟัง กระเป๋า ซึ่งราคาเฉลี่ยของอุปกรณ์เกมจะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับอุปกรณ์ของพีซีทั่วไป ดังนั้น เลอโนโวก็มีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติมในประเทศไทย

ถกล นิยมไทย ผู้จัดการประจำประเทศไทยฝ่ายผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์ ให้ข้อมูลเพิ่มว่า เลอโนโว เริ่มทำ การบ้านตั้งแต่ 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ในการนำเสนอซับแบรนด์ Legion เข้าสู่ตลาด ด้วยการเข้าไปพูดคุยกับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการ ซึ่งเป็นแนวทางการทำตลาดของเลอโนโวที่จะเน้นการฟังเสียงของผู้บริโภคให้มากที่สุด

‘ในแง่ของการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เลอโนโว จะมีการจัดกิจกรรมแนะนำผลิตภัณฑ์อย่าต่อเนื่อง ครอบคลุมทั้งช่องทางจำหน่ายที่เป็นสินค้าไอที และหน้าร้านเกมมิ่ง รวมถึงการนำนวัตกรรมอย่าง VR มาร่วมในการนำเสนอด้วย เพื่อสร้างความต่างให้แก่ตลาด’

ข้อดีของผลิตภัณฑ์ Legion ที่จะเข้ามาทำตลาดในปีนี้คือ ทุกรุ่น รองรับเทคโนโลยี VR รวมถึง AR ด้วยอยู่แล้ว ดังนั้นเมื่อมีเกม หรือซอฟต์แวร์ที่ต้องใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าว ก็พร้อมที่จะใช้งานได้ทันที ซึ่งแน่นอนว่าทั้ง VR และ AR ถือเป็นเทรนด์ที่จะเกิดขึ้นในปีนี้อย่างแน่นอน

‘อีกสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือตลาดเกม ถือว่าเป็นตลาดที่สร้างอีโคซิสเตมส์ให้กับผู้ผลิตค่อนข้างเยอะ เมื่อมีการใช้งานก็จะสร้างนวัตกรรมใหม่เพิ่มเข้ามาเรื่อยๆ รวมถึง eSports ก็ได้รับความสนใจมากขึ้น และแน่นอนว่าเลอโนโวก็จะเดินหน้าในการร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยต่างๆ ในการสนับสนุนกิจกรรมเหล่านี้ต่อเนื่อง’

สำหรับผลิตภัณฑ์ในซีรีส์ Legion ที่เพิ่งเปิดตัวภายในงาน CES 2017 ที่ผ่านมา จะเริ่มทยอยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยภายในปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยจะมีทั้งโน้ตบุ๊ก เดสก์ท็อป ออลอินวัน โดยในกลุ่มโน้ตบุ๊กจะเริ่มต้นที่ระดับราคา 3 หมื่นบาท ส่วนเดสก์ท็อปเริ่มต้นที่ 5 หมื่นบาท (รวมจอและคีย์บอร์ด)

เตรียมลุย IoT

นอกจากในส่วนของผลิตภัณฑ์พีซีแล้ว ในปีนี้เลอโนโวมีแผนที่จะขยายประเภทสินค้าในกลุ่มของ IoT และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสมาร์ทโฮมมากยิ่งขึ้น โดยจะอยู่ภายในกลุ่มธุรกิจคอนซูเมอร์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ในงานอย่างลำโพงอัจฉริยะ Lenovo Smart Assistant ที่เป็นผู้ช่วยประจำบ้าน

ด้วยการนำเทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงของแอมะซอน (Amazon Alexa) ที่จะทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในการหาข้อมูล ฟังเพลง บันทึกช่วยจำ ปฏิทินเตือนความจำ และกิจกรรมอื่นๆ และแน่นอนว่าสามารถนำมาใช้งานร่วมกับระบบสมาร์ทโฮมของเลอโนโวด้วย

ที่มา : http://manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000006299