ตลาดสินค้าสุขภาพและความงามยังคงเป็นตลาดดาวรุ่งที่ยังคงมีการเติบโตอยู่ทุกปี และมีการแข่งขันกันสูงมาก โดยที่มีทั้งแบรนด์จากต่างประเทศ แบรนด์ในประเทศไทย ต่างบุกตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครื่องสำอางจากประเทศเกาหลี ที่เป็นเทรนด์ยอดนิยมของคนไทยมาหลายปีแล้ว ก็ยังเห็นการแข่งขันที่สูงอยู่
แต่ทว่าเทรนด์ของเครื่องสำอางเกาหลีอาจจะไม่บูมเท่า 4-5 ปีก่อนที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยเทรนด์ของเกาหลีฟีเวอร์ อีกทั้งมีราคาไม่แพง แพ็กเกจจิ้งน่ารัก ทำให้คนไทยนิยม
แต่ที่ในช่วงนี้ไม่บูมเท่า 4-5 ปีก่อน เป็นในแง่ของชอปร้านเครื่องสำอาง ที่ผู้บริโภคอาจจะไม่เข้าเหมือนก่อนแล้ว แต่ความนิยมในตัวสินค้ายังมีให้เห็นอยู่ และยังเห็นแบรนด์เก่า และแบรนด์ใหม่จากแดนกิมจิทยอยเข้ามาทำตลาดในไทยอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีทั้งหมดราว 10 แบรนด์ในประเทศไทย แต่ก็มีที่ปิดไปบ้าง
ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคไม่นิยมเข้าชอปเหมือนเคยเป็นเพราะว่าในยุคนี้สามารถเดินทางไปเกาหลีกันง่ายขึ้น หลายคนซื้อกลับมาเอง รวมถึงธุรกิจพรีออเดอร์ทางออนไลน์ที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อทางนี้มากกว่าเพราะราคาถูกกว่า
it’S SKIN (อิทส์สกิน) เป็นแบรนด์สกินแคร์ และเครื่องสำอางจากแดนกิมจิที่เข้ามาทำตลาดในไทยได้ 4 ปีแล้ว ยังคงมองเห็นการเติบโตของตลาดอยู่ แต่พฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง ทำให้อิทส์สกินต้องมีการปรับตัวอยู่พอสมควร
ที่เห็นได้ชัดเจนก็คือเทรนด์เรื่องเครื่องสำอางที่มาแรง ทำให้ต้องเพิ่มสินค้าในกลุ่มนี้ให้มากขึ้นเพื่อรับกับความต้องการของผู้บริโภค เพราะผู้บริโภคในยุคนี้แต่งหน้าไวขึ้น อายุน้อยก็เริ่มแต่งหน้ากันแล้ว จากเดิมที่อิทส์สกินจะเน้นสินค้ากลุ่มสกินแคร์เป็นหลักเป็นสัดส่วน 70% ส่วนเครื่องสำอาง 30%
และต้องปรับตัวจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เข้าชอปน้อยลง ด้วยการเน้นช่องทางออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม พร้อมกับมีดีลเลอร์ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อเป็นการขยายช่องทางต่างจังหวัด
ทรรศนีย์ มานะนาวิกผล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคเรีย กู๊ดส์ จำกัด กล่าวว่า “ถ้ามองในตลาดเครื่องสำอางเกาหลีในไทยกระแสอาจจะไม่ค่อยดีเท่า 4-5 ปีก่อน ปัจจุบันคนไปเกาหลีได้ง่ายขึ้น ซื้อจากที่นั่นมาใช้เองได้เลย ประกอบกับธุรกิจพรีออเดอร์ก็กระทบเหมือนกัน แต่ก็เป็นข้อดีที่ทำให้หลายคนได้ลองใช้ แล้วสินค้าหมดก็หันมาซื้อที่ชอป สิ่งที่แบรนด์ต้องปรับตัวก็คือต้องทำให้ผู้บริโภคเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ต้องมีหลายช่องทาง และมีสินค้าที่ตอบโจทย์เขา“
ทรรศนีย์ได้มองภาพการแข่งขันของตลาดเครื่องสำอางเกาหลีในไทยว่ายังมีการแข่งขันที่ดุเดือดมาก ส่วนใหญ่ยังเล่นสงครามราคากันอยู่ แต่อิทส์สกินไม่อยากเล่นสงครามราคามากนัก มีโปรโมชั่นบ้าง เน้นการสร้างแบรนด์มากกว่า
อิทส์สกินได้วางจุดยืนของตนเองในประเทศไทยเป็นระดับพรีเมียม แมส กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นวัยทำงาน และวัยรุ่น จึงได้มีการใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นบอยแบนด์จากประเทศเกาหลีเช่นกัน วง GOT 7 สาเหตุที่เลือกวงนี้เพราะได้ทำผลสำรวจแล้วว่าวัยรุ่นไทยชอบวงเคป็อปวงไหนมากที่สุดในตอนนี้ จึงออกมาเป็นวง GOT 7 ในปีนี้ได้เลือกใช้เป็นปีที่ 2 แล้ว ซึ่งการใช้พรีเซ็นเตอร์ก็ช่วยทำให้ผู้บริโภคจดจำแบรนด์ได้ดีขึ้น สู้ในตลาดได้
ปัจจุบันอิทส์สกินมีสาขาทั้งหมด 10 สาขา ในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 10 สาขา ด้วยงบลงทุนเฉลี่ย 4-5 ล้านบาท/สาขา และตั้งเป้ามีรายได้ 150-200 ล้านบาท หรือเติบโต 50% จากปี 2559 มีรายได้ 100 ล้านบาท