พฤกษา ลุยธุรกิจ “โรงพยาบาลวิมุตติ” เปิดปี 2563 จับตลาดคนชั้นกลาง- เน้นทำเลใจกลางเมือง

ตั้งงบลงทุนไม่เกิน 4,900 ล้านบาท เน้นทำเลชุมชนเดินทางสะดวก เปิดปี 2563 รองรับธุรกิจสุขภาพมูลค่า 6 แสนล้านบาท

หลังจากมีกระแสข่าวมาตลอด ถึงการขยายเข้าสู่ธุรกิจโรงพยาบาล และได้ปรับโครงสร้างเป็นพฤกษา โฮลดิ้ง รอการแตกธุรกิจใหม่ ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว

ล่าสุด ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศว่าได้ตัดสินใจลงทุนธุรกิจ “โรงพยาบาล”

เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง (Recurring Income) อีกทั้งตลาดโรงพยาบาลมีขนาดใหญ่ โดยในแต่ละปีมีมูลค่าตลาดสูงถึงราวกว่า 600,000 ล้านบาท

1_p

โดยสิ่งที่บริษัทจะให้ความสำคัญ คือ การเลือกทำเลที่อยู่บนถนนสายหลักใจกลางเมือง (CBD) ใกล้ชุมชน เดินทางสะดวก เพราะจากการศึกษาพบว่า ทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ลูกค้าจะเลือกใช้บริการ

การเลือกที่ตั้งโรงพยาบาลจะคำนึงถึงภาระการลงทุนของบริษัทฯ โดยจะใช้งบลงทุนไม่เกิน 4,900 ล้านบา (รวมมูลค่าที่ดิน ค่าก่อสร้างอาคาร เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอื่นๆ) มุ่งเน้นจับกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง ขนาด 250 เตียง

2_p

ขณะนี้อยู่ระหว่างพัฒนา ประมาณ 3 ปี คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในปี 2563 ซึ่งจะบริหารงานโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ยาวนานเป็นที่ยอมรับในวงการธุรกิจโรงพยาบาลของประเทศไทย ลูกค้าจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากลในราคาที่เหมาะสมและเข้าถึงได้

ตั้ง 2 บริษัทลูกถือหุ้นโรงพยาบาลวิมุตติ

นอกจากนี้ บริษัทพฤกษายังได้แจ้งไปยังตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงรูปแบบการลงทุนของบริษัทพฤกษาโฮลดิ้ง จะจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมา 2 บริษัท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจของบริษัทไปยังธุรกิจโรงพยาบาล และศูนย์บริการสุขภาพ

1.บริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งถือหุ้นในกลุ่มบริษัท ประกอบธุรกิจโรงพยาบาล คือ บริษัท โรงพยาบาลวิมุตติ โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% ทุนจดทะเบียนแรกตั้ง 5 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท คาดจัดตั้งภายในไตรมาส 1 ปีนี้

2.บริษัทดำเนินการ ซึ่งประกอบธุรกิจโรงพยาบาล ในชื่อบริษัท โรงพยาบาลวิมุตติ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบธุรกิจโรงพยาบาล และ/หรือศูนย์บริการสุขภาพ โดยมีบริษัท โรงพยาบาลวิมุตติ โฮลดิ้ง ถือหุ้น 99.99% มีทุนจดทะเบียนแรกตั้ง 5 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 500,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท คาดจัดตั้งภายในไตรมาส 1 ปีนี้