ศูนย์สร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หรือ IDE Center (Innovation-Driven Entrepreneurship Center) ร่วมกับ บริษัท สิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME BANK) กลุ่มบริษัท ดั๊บเบิ้ลเอ และพันธมิตรอีกมากมาย จัดงาน IDE Thailand 2017 งานเดียวที่เป็นการรวมตัวกันของการประกอบการนวัตกรรม เทคโนโลยี และศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกเข้าไว้ด้วยกัน ประกอบด้วย รายการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจระดับโลก 2 รายการ ได้แก่ Global Social Venture Competition และ MIT Enterprise Forum Thailand รวมทั้งจัดเวทีใหญ่ Think Big, Act Small Symposium นำผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมระดับโลก มาไว้บนเวทีเดียวกัน ระหว่างวันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ 2560 โดยมุ่งหวังจะช่วยเสริมสร้างความรู้และผลักดันให้ผู้ประกอบการชาวไทยให้เป็นผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และสามารถนำไปพัฒนาตัวเองให้แข่งขันในตลาดโลกได้ต่อไป
รศ. ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงการจัดงาน IDE Thailand 2017 ในครั้งนี้ว่า “ศูนย์ผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือ IDE Center จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างโมเดลธุรกิจนวัตกรรมในประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งเราต้องเร่งสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม หรือผู้ประกอบการ IDE โดย IDE Center จะให้การฝึกอบรม พัฒนา และบ่มเพาะ ผู้ประกอบการ IDE สรรหาและสนับสนุนแหล่งเงินทุน มุ่งเน้นการส่งเสริมผู้ประกอบการที่มีแนวความคิดใหม่ เทคโนโลยี หรือแผนธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป้าหมายในการขยายตลาดสู่ภูมิภาค และตลาดโลก”
“นอกจากนั้น โมเดลการสร้างผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมจาก MIT ยังให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศน์ที่เอื้อต่อการสร้างผู้ประกอบการพันธุ์ใหม่ โดยต้องอาศัยความร่วมมือกันจาก 5 ภาคส่วน ทั้งภาครัฐ กลุ่มทุนทางการเงิน ภาคธุรกิจใหญ่ ผู้ประกอบการ และภาคการศึกษา ดังนั้น มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ร่วมมือก้บ MIT ในฐานะสถาบันการศึกษา เป็นตัวกลางในการเชื่อมทั้ง 5 ภาคส่วนเข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง ecosystem ที่พร้อมจะเสริมสร้างผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ขับสร้างความแตกต่างด้วยนวัตกรรม” รศ. ดร.เสาวณีย์ กล่าวเสริม
“การสร้างผู้ประกอบการ IDE นั้นต้องได้รับการพัฒนาด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ตั้งแต่แนวคิดเริ่มต้น และทักษะที่ต้องบ่มเพาะให้กับผู้ประกอบการ และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของการจัดตั้ง IDE Center นอกจากความร่วมมือระหว่างประเทศกับ MIT แล้ว IDE Center และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยยังได้รับการสนับสนุนจากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยเป็นอย่างดี และจากความร่วมมือดังกล่าว มหาวิทยาลัยหอการได้ไทยจึงริเริ่มโครงการ IDE Accelerator ซึ่งประกอบไปด้วยการแข่งขัน
ระดับโลก 2 รายการ และ Symposium ประจำปีซึ่งทั้ง 3 กิจกรรมจะเกิดขึ้นในงาน IDE Thailand 2017 ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 21-25 กุมภาพันธ์ ประกอบด้วยการแข่งขันแผนพัฒนาธุรกิจระดับโลก 2 รายการ ได้แก่ MIT Enterprise Forum Thailand ซึ่งเป็นการแข่งขันแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นนวัตกรรม และ Global Social Venture Competition (GSVC) รายการการแข่งขันที่ส่งเสริมการสร้างธุรกิจเพื่อสังคมแนวใหม่เน้นการแก้ปัญหาและสร้างผลกระทบเชิงบวก รอบชิงชนะเลิศระดับอาเซียนเพื่อนำผู้ชนะเลิศไปแข่งขันในรอบสุดท้ายระดับโลกที่สหรัฐอเมริกาต่อไป นอกจากนั้นเรายังได้จัดเวที Think Big, Act Small Symposium อันเป็นเวทีจุดประกายความคิดให้ผู้ประกอบการโดยผู้ประกอบการ และกูรูธุรกิจจากทั่วโลก อาทิ Christopher Janney, Jimmy Jia, Randy Komisar และ Jiawei Gu ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์นี้ ที่โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ โดยกิจกรรมทั้งหมด เราจัดให้ประชาชนและผู้สนใจได้เข้าร่วมงานฟรี เพื่อเป็นการต่อยอดให้แก่ผู้ประกอบการชาวไทยได้มีโอกาสเรียนรู้จากผู้ประกอบการ IDE ระดับโลกโดยตรง” รศ.ดร.เสาวณีย์ กล่าวเสริม
ด้านนายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “งาน IDE Thailand 2017 ที่จัดขึ้นนี้ สอดคล้องกับแนวทางในการสร้างเสริมนวัตกรรมตามเป้าหมายของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ต้องการขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจและธุรกิจประเทศไทยมีศักยภาพ และแสวงหาโอกาสที่ให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลกอย่างยั่งยืน ในรูปแบบไทยแลนด์ 4.0 คือ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจของโลกปัจจุบันเป็นไปในรูปแบบที่เรียกว่า Mega Trends ที่ส่งผลกระทบกันต่อเนื่องในระดับโลก จะเห็นได้ว่าส่วนสำคัญที่เข้ามาเร่งเครื่องให้ธุรกิจเดินหน้าและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว คือการนำเอา “นวัตกรรม” มาเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ”
“สำหรับสภาหอการค้าฯ จะขับเคลื่อน การค้าและบริการ 4.0 โดยสร้าง ecosystem เพื่อเอื้อประโยชน์ในการใช้นวัตกรรมให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ประกอบด้วย 5 แนวทาง ได้แก่ 1) การสร้างข้อมูลและพัฒนาองค์ความรู้ หอการค้ามุ่งเน้นพัฒนาผู้ประกอบการให้เป็นผู้ประกอบการ E-commerce เต็มตัว 2) การนำนวัตกรรมมาช่วยสร้างมูลค้าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ สินค้า และบริการ 3) การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุน ผลักดันให้ประกอบการ SMEs เป็น IDE (Innovation Driven Entrepreneurship) 4) การช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่กำลังวิจัยและพัฒนานวัตกรรม และ 5) การสร้างระบบเทคโนโลยีและ digital สำหรับธุรกิจยุคใหม่ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้สอดรับกับเทคโนโลยี และครอบคลุมทุกพื้นที่รวมถึงพัฒนาระบบป้องกันความเสี่ยงและความปลอดภัยทางด้านเทคโนโลยี เพื่อรองรับการเข้าสู่ประเทศไทย 4.0 หากได้รับความร่วมมือกันตามแผนที่วางไว้ จะช่วยผลักดันให้มูลค่าการค้าและบริการของประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกอย่างน้อยไม่ต่ำกว่าปีละ 50,000-100,000 ล้านบาท หรือช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 0.4-0.7% ซึ่งจะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจไทยในปี 2560 เติบโตที่ระดับ 4.0%” นายอิสระกล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมงาน IDE Thailand 2017 การรวมตัวกันของผู้ประกอบการที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมจากทั่วโลก โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์ 2560 ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น. ณ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ ในวันที่ 24-25 กุมภาพันธ์ 2560 ระหว่างเวลา 9.00-17.30 น. โรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตัน เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมและฟังฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและสำรองบัตรเข้าร่วมงานได้ที่ www.eventpop.me/e/1442-ide-week-thailand-2017