แคมเปญหวยชาเขียวได้กลายเป็นหนึ่งในแคมเปญใหญ่ของปี ที่หลายคนจับตามองว่าแต่ละค่ายจะแจกอะไร ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อิชิตันได้เพิ่มดีกรีในการแจกแบบสร้างความว้าวในตลาดได้ตลอด ทั้งแจกคอนโด รถปอร์เช่ และรถเบนซ์ กลายเป็นแคมเปญหลักที่แบรนด์ต้องทำเป็นประจำทุกปี ถึงแม้ว่าตลาดชาเขียวจะไม่เติบโตมาหลายปีแล้ว มีมูลค่าราว 15,000 ล้านบาท
หลังจากที่แจกหนักมาตลอด อิชิตันได้ตัดสินใจคัมแบ็กในแคมเปญแจก “ทัวร์ญี่ปุ่น” หลังจากที่ไม่ได้พาทัวร์ญี่ปุ่นมา 3 ปีแล้ว ซึ่งเป็นเหมือนของรางวัลตั้งต้นของแคมเปญหวยชาเขียวครั้งแรก โดยที่รางวัลใหญ่เป็นการพาทัวร์ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับ 40 ซุปตาร์ในวงการทั้งดารา ดีเจ เน็ตไอดอล และแอดมินเพจดัง รางวัลรองเป็นแจกไอโฟน 7 จำนวน 400 เครื่อง รวมมูลค่า 40 ล้านบาท
ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ให้เหตุผลว่า “โปรโมชั่นการแจกของยังคงได้ผลอยู่ แต่ในตอนนี้ทุกแบรนด์ในตลาดก็มีชิงโชคแจกของกันหมด แล้วอิชิตันก็มีการแจกของมาซ้ำๆ หลายปี ในปีนี้เลยขอเปลี่ยนบ้างเป็นพาทัวร์ญี่ปุ่น เพราะญี่ปุ่นยังเป็นประเทศในฝันของใครหลายคน เพิ่มความน่าสนใจได้ไปเที่ยวกับซุปตาร์ที่ตนเองชื่นชอบ”
การพาเหรดเหล่าซุปตาร์ 40 คนเข้ามาร่วมทริปด้วยนั้น มีนัยสำคัญที่อิชิตันต้องการขยายฐานไปยังกลุ่มอื่นมากขึ้น จากเดิมที่หวยชาเขียวจะมีแฟนคลับแค่ของแบรนด์ หรือคนที่ชอบเสี่ยงดวง แต่ครั้งนี้ขยายไปยังกลุ่มแฟนคลับของกลุ่มซุปตาร์ที่ได้ประเมินว่าแต่ละคนมีแฟนคลับไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน นั่นก็คือจะได้ฐานแฟนคลับเพิ่มขึ้นอีกกว่า 40 ล้านคน
“แคมเปญก่อนๆ จะได้แค่แฟนคลับของอิชิตันอย่างเดียว ปีนี้จะได้กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย มองว่าจะได้ฐานแฟนคลับเพิ่มกว่า 40 ล้านคน การเลือกแต่ละคนต้องมีความมันส์ ความว้าว อย่างเน็ตไอดอลไม่เคยมีอยู่ในพอร์ตก็เอาเข้ามาร่วมแคมเปญ เพราะเป็นกระแสโด่งดังในตอนนี้ ส่วนชูวิทย์ก็มีความแปลกดีสร้างสีสัน ตอนเลือกตั้งผู้ว่าเขาก็ได้ฐานเสียงตั้ง 7 แสนคน”
ชาเขียวไม่โต แต่ต้องแข่งที่นวัตกรรม
ตลาดชาเขียวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไม่มีการเติบโตเท่าไหร่ มีมูลค่าอยู่ 15,000 ล้านบาทมา 2-3 ปีแล้ว ทั้งนี้มาจากปัจจัยหลักที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และเทรนด์เรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้หันไปดื่มเครื่องดื่มที่น้ำตาลน้อยกว่า เพราะฉะนั้นโปรโมชั่นอาจจะไม่ได้สร้างการเติบโตหวือหวาเหมือนอย่างหลายปีก่อนแล้ว แต่ยังคงต้องมีเพื่อนกระตุ้นตลาดอยู่
โจทย์ใหญ่ในตลาดชาเขียวที่ตันมองตอนนี้ก็คือจะแข่งขันกันที่นวัตกรรมในเรื่องสินค้าใหม่ๆ ในปีนี้อิชิตันมีแผนที่จะเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 2 รายการ เป็นการแตกเซ็กเมนต์ใหม่ แต่ยังไม่เปิดเผยว่าเป็นกลุ่มไหน
“ตลาดชาเขียวไม่เติบโตไปมากกว่านี้แล้ว มองว่าจะไปเติบโตที่ตลาดอื่นมากกว่าอย่างน้ำดื่ม นม ชาไม่มีน้ำตาล เพราะกระแสเรื่องสุขภาพ และผู้บริโภคเบื่อง่าย อิชิตันก็ต้องปรับรสชาติใหม่ๆ ปรับสินค้าใหม่ และมองหาตลาดใหม่ๆ ถ้าอยู่ในตลาดชาเขียวอย่างเดียวก็อยู่แต่สงครามราคา”
ตลาดในประเทศไทยไม่เติบโต ในปีนี้อิชิตันก็เน้นทำตลาดต่างประเทศมากขึ้นเช่นกัน เน้นประเทศในกลุ่ม CLMV ในปีที่ผ่านมามีรายได้จากต่างประเทศ 500 ล้านบาท
ปัจจุบันอิชิตันมีส่วนแบ่งการตลาด 40.4% (รวมเย็นเย็นด้วย) เป็นอันดับ 2 โออิชิมีส่วนแบ่งตลาด 43% (รวมกับจับใจ) สัดส่วนรายได้ของอิชิตันแบ่งเป็น ชาเขียว 60% เย็นเย็น 36% และไบเล่ 4%
ในปีนี้อิชิตันตั้งเป้ารายได้ 7,450 ล้านบาท มีการใช้งบการตลาด 12% ของรายได้ และใช้งบการตลาดสำหรับแคมเปญหน้าร้อน 120 ล้านบาท