BASE (เบส) ไลฟ์สไตล์สปอร์ตคอมมูนิตี้แนวใหม่ใจกลางเมือง เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ พนักงานออฟฟิศ ชาวต่างชาติ และคนที่อาศัยอยู่ใจกลางเมือง โดดเด่นด้วยโปรแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการดูแลเรื่องสุขภาพและสรีระ ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย พร้อมเหล่าเทรนเนอร์มืออาชีพที่ให้การดูแลและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด
โดย BASE ก่อตั้งขึ้นโดย มร. แจ็ค โธมัส (Mr.Jack Thomas, Founder and CEO of BASE) ร่วมกับผู้บริหารรุ่นใหม่ ได้แก่ ทารา ลาสโล เทเลอร์ (Mr.Tahra Laszlo Taylor), ประณัย พรประภา (Mr.Pranai Phornprapha), อิงฟ้า ดำรงชัยธรรม(Ms.Ingfah Damrongchaitham) และเอ็ดเวิร์ด บัทเทอรี่ (Mr.Edward Buttery), ภายใต้แนวคิดไลฟ์สไตล์สปอร์ตคอมมูนิตี้ ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของอาคารโนเบิล รีมิกซ์ ปากซอยสุขุวิท 36 โดยต้องการสร้างสถานออกกำลังกายที่ผสมผสานไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกัน ที่นอกจากการเป็นที่ออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นคอมมูนิตี้ด้านสุขภาพครบวงจรแห่งใหม่ใจกลางเมือง เป็นแหล่งพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านสุขภาพและเรื่องทั่วไป ทำให้ BASE สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้านสุขภาพอย่างแท้จริง โดยให้ความสำคัญกับกระบวนการการออกกำลังกายและดูแลสุขภาพที่แสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารส่งผลต่อความฟิตและสัดส่วนของร่างกายอย่างไร เป็นการให้ความรู้เชิงทฤษฎี ควบคู่กับการปฎิบัติจริง เพื่อให้ลูกค้าสามารถนำไปปรับใช้ได้เองในชีวิตประจำวัน นอกเหนือจากนี้ BASE ยังมีบริการในส่วนของการให้คำแนะนำในการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง และเทรนเนอร์สำหรับผู้ที่เริ่มออกกำลังกาย อีกด้วย
มร. แจ็ค โธมัส ผู้ก่อตั้ง BASE (Mr. Jack Thomas, Founder and CEO of BASE) และผู้เชียวชาญเรื่องการออกกำลังกาย กล่าวว่า “ BASE เกิดจากความหลงใหลในการออกกำลังกายและได้ศึกษาจนได้รับการรับรอง ให้เป็นผู้เชียวชาญด้านเพอร์เชอนอล เทรนเนอร์ จากประเทศอังกฤษ รวมถึงคลุกคลีอยู่ในวงการการออกกำลังกายมานานกว่า 10 ปี พอได้มาเมืองไทย หลังจากได้มาทำงานและคลุกคลีอยู่ในวงการการออกกำลังกาย จึงมองเห็นสิ่งที่ธุรกิจออกกำลังกายในประเทศไทยยังขาดอยู่ จึงพูดคุยกับหุ้นส่วนทั้ง 4 ท่านร่วมกันบริหาร BASE เพราะทุกคนมีความหลงใหล ในการออกกำลังกาย รวมถึงเคยมีประสบการณ์การใช้บริการในสถานออกกำลังกายที่เมืองต่างประเทศมา และมองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจการออกกำลังกายในเมืองไทยตรงกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นำมาปรับใช้ในธุรกิจของ BASE เป็นไลฟ์สไตล์สปอร์ตคอมมูนิตี้ ที่มีความครบครัน สมบูรณ์ และมีมาตรฐานในระดับสากล และเพื่อตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของคนเมืองที่มีเวลาน้อยแต่ต้องการผลลัพธ์ของการออกกำลังกายสูงสุด จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโปรแกรม HIIT(High Intensity Interval Training) เพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพในระยะเวลาอันสั้น สอดคล้องกับพฤติกรรมของปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาสนใจและตื่นตัวกับการดูแลและใส่ใจเรื่องสุขภาพกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องการมีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบตามเทรนด์ต่างประเทศ โดยให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพัฒนาสรีระและความแข็งแรงของร่างกาย รวมถึงการให้คำแนะนำในการเลือกรับประทานอาหารที่ดีเพื่อผลลัพธ์ด้านสุขภาพ และรูปร่างอย่างแท้จริง ดังนั้นจุดแข็งของ BASE ที่แท้จริงคือเราให้บริการด้านไลฟ์สไตล์สปอร์ตคอมมูนิตี้ที่ครบวงจร
ทีมของ BASE เชื่อว่าสุขภาพคือไลฟ์สไตล์อย่างหนึ่ง และพวกเรามีความยินดีที่ให้ BASE จะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการ โดยครอบคลุมพื้นฐานที่สำคัญทุกอย่าง อีกทั้งยังมีการเพิ่มคุณสมบัติที่มากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้รักการออกกำลังกายบรรลุเป้าหมาย ก้าวสู่การมีสุขภาพและการออกกำลังกายที่ดีขึ้น” แจ็ค โธมัส ผู้ก่อตั้งและ CEO ของBASE กล่าว
ส่วนจุดขายของ BASE คือ เน้นสร้างคุณภาพและยกระดับมาตราฐานของธุรกิจด้านการออกกำลังกาย โดยชูเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ BASE คือการนำเสนอการออกกำลังกาย HIIT (High Intensity Interval Training) ซึ่งเน้นการเต้นของหัวใจด้วยการผสมผสานคาร์ดิโอและ การเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อ บวกกับเครื่องออกกำลัง โดยใช้ลู่วิ่งเพื่อวิ่งระยะสั่นด้วยความเร็วสูงหรือการปั่นจักรยานเพื่อเผาผลาญไขมัน และเครื่องมือในการฝึกกล้ามเนื้ออื่นๆ เช่น เคตเทิลเบล (kettlebells) เชือกออกกำลังกายทีอาร์เอ็กซ์ (TRX) และ ดัมเบล ทำให้คลาสของ BASE มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลดไขมันและยังได้ฝึกความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อเพื่อรูปร่างและกระชับสัดส่วน จากเทรนเนอร์ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ BASE ยังดูแลไปถึงโปรแกรมทางโภชนาการและสิ่งอำหนวยความสะดวกระดับสปาเกรดพรีเมี่ยมจาก ฮาห์น (HARNN) ตอกย้ำถึงความใส่ใจในประสบการณ์ จึงทำให้ BASE เป็นสถานที่ออกกำลังกายหน้าใหม่ที่จะมาเปลี่ยนภาพลักษณ์วงการ ฟิตเนสไปอย่างสิ้นเชิง
สำหรับแผนการตลาด และวางกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด กลุ่มผู้ถือหุ้นกล่าวว่า “สำหรับ BASE ใช้การสื่อสารกับกลุ่มลูกค้า ช่องทางหลักคือสื่อออนไลน์ และโซเชียลเน็ตเวิร์ค อาทิ เฟสบุ๊ค, อินสตาแกรม เนื่องจากสื่อเหล่านี้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรง และรวดเร็ว รวมถึงการสร้างแอพพลิเคชั่นBASE เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า และอำนวยความสะดวกในการเข้าใช้บริการ โดยรวบรวมข้อมูลของ BASE ที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้สะดวกผ่านมือถือ อาทิ การบันทึกข้อมูลส่วนตัวการใช้บริการ ข้อมูลของคลาสต่างๆ ตารางโปรแกรมการออกกำลังกาย และการสำรองคิวเทรนเนอร์ โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดได้ ผ่านระบบ IOS และ Android นอกจากนี้ยังได้ทำโคพาร์เนอร์ชิพกับ อาดิดาส ในการจัดทำสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่คอลาบอเรชั่นกันระหว่างBASE และแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาชั้นนำ อดิดาส จำหน่ายเฉพาะที่ BASE เท่านั้น
ส่วนแผนการขยายธุรกิจ BASE ในอนาคต จากการคาดการณ์การเติบโตในธุรกิจด้านสุขภาพและการออกกำลังกาย รวมถึงกระแสตอบรับที่ดีของ BASE ในสาขาแรก จึงวางแผนการขยายสาขา โดยโฟกัสในย่านธุรกิจ และชุมชนในเมืองเป็นหลัก ซึ่งวางแผนเปิดสาขาที 2 ภายในปีนี้ และจะเปิดครบ 3 สาขา ภายในกรุงเทพฯ ในปี 2561
เยี่ยมชม BASE วันนี้ พร้อมสัมผัสประสบการณ์การออกกำลังกายรูปแบบใหม่ กับคลาสมากมายของเรา ไม่ว่าจะเป็น เบส แคมป์ (BASECAMP) เดอะ เวิร์คส์ (THE WORKS) เบส สตรอง (BASE STRONG) โยคะ สคัลพป์ (YOGA SCULPT) ฟาวน์เดชั่นส์ (FOUNDATIONS) เบส เบิร์น (BASE BURN) เบส เอ็กซ์ (BASE X) สเตร็งท์ ฟิวชั่น (STRENGTH FUSION) เบส บิวท์ (BASE BUILD) สปีด แอนด์ เอนดูแรนซ์ (SPEED & ENDURANCE) ซึ่งมีการเทรนแบบส่วนตัวและแบบกลุ่ม